กู้ภัยยกทีมใหญ่ตามหาคนหายในถ้ำ สุดท้ายพลิกพัลวัน เขาโผล่นอนอยู่บ้าน

กู้ภัยราชบุรีประสานงานให้วุ่น ได้รับแจ้งมีคนหายตัวไปในถ้ำเขาพระ ปีนขึ้นเขาเตรียมปฏิบัติการ แต่โดนแย่งซีนอยู่ๆ รับแจ้งว่าออกมาได้ นอนอยู่บ้าน-ปลอดภัยดี ทำเจ้าหน้าที่มาเก้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวานนี้ (22 ก.พ.) เพจเฟชบุ๊ก "ศูนย์ข่าว วันเรสคิว ราชบุรี" ได้มีการรายงานข่าวด่วน ระบุว่ามีบุคคลติดอยู่ภายในเขาถ้ำพระ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ทำให้มีผู้ที่ติดตามให้ความสนใจแชร์และติดตามข่าวจำนวนมาก

ซึ่งในเวลาต่อมา ทางเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิประชานุกูล ราชบุรี ได้รายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ทางศูนย์วิทยุมูลนิธิประชานุกูล ราชบุรี รับจากอาสาสมัครในเขตอำเภอปากท่อ ออกตรวจสอบผู้ติดค้างอยู่ในถ้ำภายในวัดถ้ำเขาพระ ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ

จากการหาข้อมูลภายในจุดเกิดเหตุได้ความว่า ชายคนที่ติดพร้อมกับเพื่อนอีกคน ได้ลงไปเก็บขี้ค้างคาวภายในถ้ำ และได้พลัดหลงกับเพื่อนจึงได้ตัดสินใจปีนขึ้นมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและเพื่อนคนดังกล่าวตัดสินใจได้ลงไปตามหาเพื่อนคนที่พลัดหลงอยู่ในถ้ำพร้อมกับชาวบ้านอีกคน

แต่ทำการค้นหาอยู่นานแต่ไม่พบตัว จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิประชานุกูล จุดอำเภอปากท่อถึงที่เกิดเหตุตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ 1 คันจอดอยู่ทางขึ้นไปที่ปากถ้ำอาสาสมัครจึงเดินเท้าขึ้นไปบนปากถ้ำเป็นลักษณะทางลาดชันประมาณ 200 เมตรและพบปากถ้ำแคบ

ต่อมาไดพบเชือกที่ชายดังกล่าวได้มาผูกไว้สำหรับการปีนเชือกลงไปด้านล่าง และตรวจสอบพบว่าภายในถ้ำเป็นที่อับอากาศและเป็นทางลงแนวดิ่งจากปากถ้ำลึกประมาณ 30 เมตร มูลนิธิประชานุกูล ราชบุรีจึงได้ส่งชุดกู้ภัยที่สูงจากอาสาสมัครประจำจุดอำเภอสวนผึ้ง และชุดปฏิบัติการที่อับอากาศ เข้าสนับสนุนที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอุปกรณ์กำเนิดแสงสว่าง ก่อนจะมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ชุดปฏิบัติการที่สูงและชุดปฏิบัติการที่อับอากาศลงสำรวจตรวจสอบภายในถ้ำเพื่อทำการค้นหาบุคคลสูญหาย

แต่ระหว่างเตรียมอุปกรณ์อยู่นั้น ปรากฏว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบตัวผู้ติดค้างภายในถ้ำแล้ว โดยระบุว่า ชายคนดังกล่าวได้ออกมาจากถ้ำแล้ว แต่ไม่กล้าที่จะแสดงตัว เพราะกลัวมีความผิด จึงได้อาศัยอยู่บ้านเพื่อน กระทั่งมีคนไปพบตัวว่าปลอดภัยดี

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณเชิงเขาติดกับศาลาฌาปนกิจศพภายในวัดถ้ำเขาพระ ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี พบว่าชาวบ้านพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ทหาร มูลนิธิกู้ภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและฝ่ายป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรีอยู่จำนวนนับร้อยคน

จากการสอบถาม นายสถิตย์ แก้วมณี หัวหน้าฝ่ายป้องกัน ปภ.ราชบุรี และนายลือชา วงศ์เปี่ยม ปลัดอำเภอปากท่อ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอปากท่อ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ได้รับแจ้งจากเจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาพระว่ามี หญิงคนหนึ่งแจ้งว่าสามีได้หายไป หลังจากออกมาจากบ้านและขึ้นไปบนเขา คาดว่าจะหายเข้าไปในถ้ำ จึงได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครมูลนิธิ เจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครอง เดินเท้าออกค้นหาอย่างเร่งด่วน

โดยได้ปีนขึ้นไปบนเขาประมาณ 200 เมตร จนค้นพบจุดที่คาดว่ามีคนสูญหาย ซึ่งเป็นปล่องที่ลงไปในถ้ำ จึงได้ตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดของถ้ำจนทราบว่าปล่องดังกล่าวสามารถลงไปได้มีความลึกประมาณ 30-40 เมตร โดยที่ด้านล่างเป็นห้องโถงขนาดใหญ่และมีความมืดมาก ชาวบ้านเคยลงไปเก็บมูลค้างคาวเพื่อมาจำหน่าย

นายประชุม ออกมาแสดงตัวยืนยันว่าออกจากถ้ำมาปลอดภัยดี

แต่เนื่องจากทางลงค่อนข้างแคบและด้านล่างอากาศน้อย จึงได้ประสานของกำลังเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการโรยตัวจากที่สูง เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำทีมขึ้นไปเพื่อพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เดินขึ้นไป อยู่ๆ เจ้าหน้าที่ที่ด้านล่างก็แจ้งมาว่าพบตัวชายคนดังกล่าวแล้ว จึงได้แจ้งและประสานและให้นำตัวออกมายืนยันว่าปลอดภัยดี พร้อมทั้งประสานถอนกำลังลงมา

จากการสอบสวนชายคนดังกล่าวคือ นายประชุม อายุ 45 ปี เล่าว่า เพื่อนได้มาชวนตนเองขึ้นไปบนเขาเพื่อลงไปเก็บขี้ค้างคาวที่อยู่ในถ้ำ เพราะถ้านำมาขานจะได้เงินดีจึงพากันออกจากบ้านตั้งแต่เช้าโดยเดินทางไปกับนายเพื่อนคือนายอ้น อายุประมาณ 30 ปี เพื่อเดินทางขึ้นไปบนเขาเวลาประมาณ 08.00 น. จึงได้พากันลงไปภายในถ้ำดังกล่าวมีความลึกประมาณ 30-40 เมตร

เมื่อลงไปด้านล่างมีความมืดมากและมีกลิ่นอับอากาศน้อย ตนกับนายอ้นช่วยกันเก็บขี้ค้างคาว เวลาผ่านไปประมาณ 3-4 ชั่วโมง และเริ่มรู้สึกเพลียและหิวข้าวจึงจะปีนขึ้นมาด้านบน แต่กลับรู้สึกหมดแรงปีนและตกลงไปไม่สามารถขึ้นมาได้

ส่วนนายอ้นสามารถขึ้นมาได้ โดยที่นายอ้นได้กลับลงมาและมาตามเพื่อนอีกคน ชื่อว่านายชื่น เพื่อให้มาช่วยกันพาตนขึ้นมา ด้วยการใช้เชือกมัดที่ลำตัว ก่อนที่นายอ้นและนายชื่นจะช่วยกันดึงเชือกและนำตนเองขึ้นมา ก็ใช้เวลานานกว่าหลายชั่วโมง

จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น. เป็นเวลาที่ท้องฟ้าเริ่มมืด จึงพากันเดินกลับลงมา แต่ไม่ชินเส้นทางจึงได้พลัดหลงกลับไปอีกทาง ซึ่งนายอ้นและนายชื่นได้พาตนเองกลับมาส่งที่บ้าน ในจังหวะเดียวกับที่ภรรยาออกไปตามหาที่วัดแล้วไม่พบ พบเพียงแต่รถจักรยานยนต์จอดไว้ จึงได้แจ้งเจ้าอาวาสเพื่อให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ออกค้นหาดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน นายประชุม ไว้เป็นหลักฐาน และให้ไปตามนายอ้นและนายชื่น เพื่อมาสอบสวนยืนยันตัวตนว่าปลอดภัยดี ทั้ง 3 คน และไม่มีใครติดอยู่ในถ้ำจริง แต่ทั้งนายอ้นและนายชื่นไม่มาพบเจ้าหน้าที่ซึ่งกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี จึงได้ขอรับการยืนยันจากนายประชุมว่าเป็นตนเองจริงและปลอดภัยโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ ซึ่งนายประชุม ได้ยืนยันว่าเป็นตนเองจริงและเพื่อนปลอดภัยทุกคน ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ

ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่หลังจากได้รับการยืนยันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่ าผู้ที่คาดว่าจะติดอยู่ภายในถ้ำ ออกมาได้อย่างปลอดภัยดี และไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงได้ถอนกำลังและกลับลงมาได้อย่างปลอดภัย