เลือกตั้ง 2562: "จาตุรนต์" นำ "ไทยรักษาชาติ" ออกหาเสียง ปัดตอบคดียุบพรรค

"จาตุรนต์" ชี้ กกต.จัดเวทีดีเบตไร้ประโยชน์ ฉะ "บิ๊กตู่" ได้เปรียบไม่เข้าร่วม พรรคไทยรักษาชาติลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่อง งดแสดงความเห็นปมยุบพรรค

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ และนายประภัสร์ จงสงวน กรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติพร้อมแกนนำพรรค แนะนำผู้สมัครเขตบางคอแหลม-ยานนาวา นายพงษ์พิสุทธิ์ จินตโสภณ ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณตลาดรุ่งเจริญ และซอยสาธุประดิษฐ์ 33 โดยได้พบปะแสดงวิสัยทัศกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง ซึ่งมีประชาชนมอบดอกกุหลาบและพวงมาลัยดาวเรืองตลอดทาง ทั้งนี้ ได้แวะรับประทานอาหารเช้าร่วมกับประชาชนในพื้นที่ด้วย

พร้อมกันนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวถึงการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้พรรคการเมืองจับฉลากเลือกหัวข้อในการดีเบต ที่ทาง กกต.จัดขึ้น ว่า เวทีที่กกต.จัดไม่เป็นประโยชน์และไม่เป็นที่น่าสนใจของประชาชน เพราะที่ผ่านการจัดดีเบตจะเป็นผู้ที่สนับสนุนและสนใจในหัวข้อนั้นๆเข้าไปฟัง อีกทั้งยังขาดความน่าสนใจ ในการที่พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ได้เข้าร่วมดีเบตถือเป็นการเอาเปรียบคู่แข่ง เนื่องจากสามารถพูดคนเดียวในทีวี และทำให้ประชาชนไม่รู้ว่าเวลามีคู่แข่งจริงๆ พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถพูดได้หรือไม่

ส่วนกรณีการตั้งข้อสังเกตุการที่มีความพยายามที่จะยุบพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ว่าในส่วนของพรรคไทยรักษาชาติขอไม่แสดงความคิดเห็น ขอให้เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในส่วนของพรรคการเมืองอื่น มองว่า คสช. และผู้มีอำนาจใช้อำนาจสกัดกั้น พรรคการเมืองอื่นอย่างไม่ชอบธรรม ดังนั้นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นคือการใช้อำนาจของ คสช. ที่ไม่จำเป็น เพราะจะทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นธรรม

การที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาระบุว่านักการเมืองโจมตีกองทัพให้ล้มสลายนั้น เป็นการเข้าใจผิดหรือไม่เข้าใจของฝ่าย คสช. พรรคการเมืองมีสิทธิ์ แสดงนโยบายต่างๆนั้นเป็นสิ่งที่พรรคทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการเสนอปรับลดหรือปรับเพิ่มงบประมานของกองทัพ หากเห็นว่างบของกระทรวงกลาโหมสูงเกินไปก็สามารถตัดออกได้ แต่กองทัพไม่มีสิทธิ์มาไล่ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน

และหากพรรคไทยรักษาชาติได้เป็นรัฐบาลและได้ดูแลกระทรวงกลาโหมก็จะปรับลดงบประมานกระทรวงกลาโหมทันที แต่ไม่ใช่เพราะไม่เห็นความสำคัญของกองทัพ แต่เป็นเพราะงบกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งในส่วนงบของกระทรวงอื่นๆโดยเฉพาะกระทรวงศึกษากับลดน้อยลงและไม่ใช่เรื่องการตั้งตัวเป็นศัตรูกับทางกองทัพ