เรืองไกรเชื่อมีล็อกสเปกเช่ารถเมล์-ชี้ครม.ผ่านรบ.อยู่ไม่ได้
ถึงคิวเรืองไกร ส.ว.สรรหา เชื่อโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน มีการล็อกสเปกให้กับบริษัทพวกพ้อง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา กล่าววันที่ 2 มิถุนายน ถึงการตรวจสอบปัญหาความไม่โปร่งใสในโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ว่า อยากให้สังคมและสื่อมวลชนตรวจสอบให้รอบด้าน นอกจากจะจับตามองเรื่องผลประโยชน์ของกลุ่มการเมืองแล้ว อยากให้ติดตามดูถึงต้นทุนโครงการของบริษัทที่เข้าประมูล เนื่องจาก การกำหนดทีโออาร์ดูเหมือนจะมีการล็อกสเปกให้กับบริษัทพวกพ้องตัวเองหรือไม่ เพราะคงมีไม่กี่บริษัทที่จะเข้ามาแข่งขันได้
ดังนั้นต้องตรวจสอบว่าบริษัทที่ประมูลได้มีใครเป็นกรรมการผู้ถือหุ้น มีนอมินีสวมชื่อแทนหรือไม่ ซึ่งต้นทุนที่แท้จริงของโครงการนี้ สามารถเทียบได้กับการจดซื้อรถเมล์เหลืองปรับอากาศที่เพิ่งนำเข้าจากจีนเมื่อไม่นานมานี้ ที่ไม่น่าจะมีราคาต่างกันมากนัก ดังนั้นมูลค่าโครงการที่แท้จริงไม่น่าจะเกิน 2 หมื่นล้านบาท เท่ากับว่าระยะเวลาแค่ 2-3 ปี บริษัทก็คุ้มทุนแล้ว เวลาที่เหลืออีก 7 ปีมีแต่กำไร
นายเรืองไกรยังกล่าวด้วยว่า หากมีการนำบริษัทนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าหุ้นจะโตไปอีกกี่เท่า หากไม่คิดทำเรื่องอย่างนี้แล้วก็คงไม่กำหนดสเปกไว้ในทีโออาร์ว่า ต้องเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ กำหนดวงเงินทุนจดทะเบียน และเงินค้ำประกันว่าต้องจ่ายเป็นเงินสด ซึ่งไม่มีผู้ดำเนินธุรกิจปกติที่ไหนทำกัน ที่จะให้กรรมการบริษัทแต่ละคนถือเงินเป็นร้อยล้านพันล้านไปวางเงินสด ๆ แบบนั้น ดังนั้นต้องตรวจสอบด้วยว่าเงินเหล่าั้นมีที่มาอย่างไร ได้เสียภาษีหรือไม่ มีการฟอกเงินหรือเปล่า กรมสรรพากรต้องตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ด้วย และถ้าจะให้ดีควรตรวจสอบการชำระภาษีย้อนหลังไป 5 ปี ของบริษัท และกรรมการผู้ถือหุ้นบริษัททุกคนด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคภูมิใจไทยทุบโต๊ะจนครม.ต้องยอมให้ผ่านโครงการนี้ นายเรืองไกรกล่าวว่า รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ แสดงว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรผิด การปล่อยให้บริษัททำกำไรได้ขนาดนี้เป็นไปได้อย่างไร ทุกฝ่ายต้องช่วยกันฟ้องร้องเอาผิดให้ได้ "เชื่อว่าหากทุกฝ่ายเอาจริงกับการตรวจสอบ พวกนักการเมืองจะไม่กล้าร่วมกันทุจริตแน่