กล้องรถเมล์เผยนาทีช่างกลแทง "น้องเก้า" ยืนมองไม่สะท้าน ห่วงแค่แฟนที่โดนมีดบาด
จากกรณีนักเรียนช่างกลสถาบันหนึ่งก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง "น้องเก้า" นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนปทุมคงคา บนรถเมล์สาย 180 ที่วิ่งอยู่บริเวณทางด่วนท่าเรือ ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
>> เด็กอาชีวะใส่เสื้อคู่มากับแฟนสาว เกิดห้าวแทงนักเรียน ม.6 บนรถเมล์ เสียชีวิต
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ที่โดยสารมาในรถคันเดียวกันแล้วก่อเหตุบนรถ หลังเกิดเหตุคนขับรถประจำทางได้ปิดประตูรถ ก่อนนำผู้ก่อเหตุและคนบาดเจ็บเข้าไปหาตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีนักเรียนหญิงที่มากับผู้ก่อเหตุพยายามเข้าไปห้ามจนได้รับบาดเจ็บด้วย
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเอ ให้การว่า ขึ้นรถโดยสารมากับแฟนสาว จากถนนพระราม 3 นั่งอยู่เบาะคู่ฝั่งขวาก่อนถึงเบาะหลัง โดยคนเจ็บขึ้นป้ายกรมศุลกากร มานั่งแถวเบาะหลัง นายเอจึงไล่ให้ผู้ตายย้ายไปนั่งที่อื่น ก่อนจะโต้เถียงและชกต่อยกัน เพราะสถาบันไม่ถูกกัน ระหว่างนั้นนายเอ ชักมีดที่พกมากระหน่ำแทงอีกฝ่ายจนบาดเจ็บสาหัส พลเมืองดีพยายามยื้อชีวิตด้วยการปั๊มหัวใจ แต่สุดท้ายน้องเก้าได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
>> เปิดนาทียื้อชีวิต "น้องเก้า ปทุมคงคา" พลเมืองดีปั๊มหัวใจ-ช่างกลมือแทงนั่งกอดแฟน
หลังเกิดเหตุ อาจารย์และเพื่อนๆ ต่างโพสต์แสดงความเสียใจ พร้อมเผยว่า "น้องเก้า" เป็นเด็กกิจกรรม เรียบร้อย น่ารัก มีจิตอาสา ขยัน ไม่เคยเกเร ไม่ทำร้ายใคร เพิ่งเดินทางไปสอบ GAT/PAT และอีกแค่ 2 วันก็จะจบการศึกษา
ล่าสุดเฟซบุ๊ก FLASHBLACKTactics มีการแชร์คลิปวงจรปิดบนรถเมล์คันเกิดเหตุ โดยในคลิปปรากฏภาพจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นเบาะหลังสุดบนรถเมล์ กล้องวงจรปิดจับภาพขณะที่ผู้ก่อเหตุคือนายเอ ขยับเข้ามานั่งชิดน้องเก้าแล้วก้มไปคุยอะไรบางอย่าง ก่อนที่ตัวผู้ก่อเหตุจะล็อกคอผู้เสียชีวิต ทำให้เกิดการต่อสู้กัน จากนั้นเด็กช่างกลก็ได้ควักมีดยาวออกมาแทงน้องเก้า
คลิปอีกมุมจากด้านหลังรถเมล์ จะเห็นว่า นายเอ เด็กช่างกล กระหน่ำแทงไม่ยั้งเหมือนขาดสติ ก่อนที่แฟนสาวที่มาด้วยกันกับนายเอจะเข้ามาห้าม จนถูกมีดบาดที่แขน เมื่อน้องเก้าหมดทางต่อสู้นอนอยู่บนพื้น นายเอจึงหยุดมองด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเก็บมีดเหน็บไว้ที่เอว แล้วเข้าไปจับแขนแฟนสาวเพื่อดูแผลด้วยความห่วงใย ซึ่งขณะเกิดเหตุบนรถเมล์มีผู้โดยสารอยู่นับสิบคน ซึ่งเมื่อเห็นว่ามีการใช้อาวุธทำร้ายกัน ต่างก็วิ่งหนีไปทางด้านหน้ารถด้วยความหวาดกลัว