โจรหนุ่มควบเก๋งขึ้นไปขโมยตู้บริจาคบน "เขากระโดง" สูญ 3 หมื่น-ตำรวจเร่งแกะรอย

(26 ก.พ.62) ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้เกิดเหตุคนร้ายใจบาป ขึ้นไปก่อเหตุงัดขโมยตู้บริจาค ที่ติดตั้งไว้บริเวณร้านสวัสดิการเครื่องสักการะบูชา  ข้างพระรูปองค์ใหญ่พระสุภัทรบพิตร  ที่ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟกระโดง  ต.เสม็ด  อ.เมือง  จ.บุรีรัมย์  ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด  

โดยขณะก่อเหตุ กล้องวงจรปิดที่ทางวนอุทยานฯ ติดตั้งไว้ สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน  พบเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น  ซึ่งใช้เวลาในการก่อเหตุทั้งงัดประตูร้านสวัสดิการ และเหล็กที่คล้องล็อกตู้บริจาคไว้จนพังเสียหายรวมแล้วประมาณ 10 นาที   

ก่อนที่จะยกเอาตู้บริจาคซึ่งเป็นตู้สแตนเลสไปทั้งตู้  ซึ่งคาดว่าภายในตู้บริจาคดังกล่าวมีเงินไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท   จากนั้นคนร้ายได้อุ้มตู้เดินผ่านไปบริเวณพระพุทธบาทจำลอง ก่อนจะพ้นรัศมีกล้องวงจรปิดหายไป  

 ทั้งนี้กล้องวงจรปิดบริเวณข้างองค์พระ ยังสามารบันทึกภาพรถเก๋งต้องสงสัย ยี่ห้อ โตโยต้า ยาริส สีขาว ซึ่งขับมาจอดใกล้กับช่วงเวลาที่ตู้บริจาคถูกขโมยไปด้วย    ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อเวลา 06.44 น. วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา

ล่าสุด นายรณภพ ณรงค์ หัวหน้าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง  ก็ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่คนร้ายก่อเหตุ และรถเก๋งต้องสงสัย  เป็นหลักฐานไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์   เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยตู้บริจาคมาดำเนินคดีตามกฎหมาย   

ซึ่งหลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ  พบเหล็กที่ถูกดัดแปลงใช้สำหรับงัดแงะ ที่คนร้ายทิ้งไว้บริเวณที่เกิดเหตุ 2 อัน  เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน  พร้อมทั้งได้นำภาพวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพรูปพรรณคนร้าย และรถต้องสงสัยไว้ได้   ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทำการแกะรอย  ติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้โดยเร็ว

หัวหน้าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง  ยังให้ข้อมูลอีกว่า     ก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนร้ายมาก่อเหตุขโมยเงินตู้บริจาคแล้ว 2 ครั้ง  ครั้งแรกเจ้าหน้าที่มาพบเจอพอดีจึงไม่ได้เงินไป  แต่ครั้งที่สองเป็นเยาวชนได้เงินไปจำนวนหนึ่ง   และสามารถจับกุมตัวได้  ซึ่งเห็นว่ายังเป็นเยาวชนจึงไม่เอาเรื่องแต่ก็ได้ตักเตือนห้ามมาก่อเหตุอีก  

แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีคนร้ายมาก่อเหตุซ้ำอีกแต่น่าจะเป็นคนละคนกัน  ซึ่งคราวนี้ได้เงินไปจำนวนมากกว่า 30,000 บาท   เพราะเป็นตู้ที่ประชาชน นักท่องเที่ยว จะบริจาคตามกำลังศรัทธาเพื่อนำดอกไม้ธูปเทียน ไปกราบไหว้พระสุภัทรบพิตร   และเจ้าหน้าที่จะทำการเปิดตู้ 1 เดือน 2 ครั้งเท่านั้น  เพื่อนำเงินในตู้ไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนมาให้บริการนักท่องเที่ยว  ทั้งเป็นค่าจ้างพนักงาน และค่าใช้จ่ายของอุทยานฯ   

หลังจากคนร้ายขโมยยกตู้ไป  ช่วงนี้ก็ต้องนำตู้ไม้มาติดตั้งไว้บริการนักท่องเที่ยวก่อนชั่วคราว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังเร่งหาเบาะแส  เพื่อติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี  ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้ ซึ่งภาพวงจรปิดเห็นทั้งรูปพรรณคนร้าย และรถต้องสงสัยที่ใช้ก่อเหตุอย่างชัดเจน