เปิดวาระครม.3มิ.ย.ไร้เงารถเมล์4พันคัน

เปิดวาระครม.3มิ.ย.ไร้เงารถเมล์4พันคัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คมชัดลึก : เปิดวาระประชุมครม.วันพรุ่งนี้(3มิ.ย.) ไร้เงาโครงการเช่ารถเมล์ฉาว 4 พันคัน เตรียมจับตา โสภณ ดันเข้าเป็นวาระจร บุญจงชี้ครม.ไม่ไฟเขียวจะทำให้ขสมก.ขาดทุนต่อ โสภณ โร่พบ สุเทพ ชี้แจง พ้อรับไม่ได้หากโครงการไม่ผ่านเพราะกระแส ยันพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของสภา (2มิ.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเอกสารวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งให้รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยล่าสุด ในเวลา 18.00 น. พบว่า ในการประชุม ครม.นัดพิเศษในวันพุธ 3 มิ.ย. ทางสำนักเลขาฯ ครม. ไม่ได้บรรจุวาระโครงการเช่า รถเมล์ 4 พันคัน อยู่ในวาระการพิจารณา ทั้งวาระเพื่อทราบ และวาระพิจารณาแต่อย่างใด ซึ่งต้องดูว่านายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม จะนำวาระดังกล่าวเข้ามาบรรจุเป็นวาระจรในช่วงเช้าของวันพุธที่ 3 มิ.ย. นี้หรือไม่ หลังจากเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 2 มิ.ย. นายโสภณ ได้เข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือถึงการนำโครงการดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม.ในวาระจร ขณะที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงเรื่องการนำโครงการเช่า รถเมล์ 4 พันคันเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ว่า ตนยืนยันว่าพรรคภท.เราเล่นการเมืองแบบมีเหตุผล ไม่มีการต่อรองเรื่องการเช่า รถเมล์ เอ็นจีวี 4 พันคัน ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่า จะนำเรื่องดังกล่าวหารือในที่ประชุมครม.พรุ่งนี้ (3มิ.ย.) แน่นอน และตนเชื่อว่านายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม คงสามารถชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ในที่ประชุม ครม.ได้ เมื่อถามว่า หากเรื่องนี้ไม่ผ่านครม. ภท.จะถอนตัวออกจากพรรคร่วม ครม. หรือไม่ นายบุญจง ไม่ได้ตอบคำถามนี้ เพียงแต่บอกว่าภท. ทำอะไรยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติ โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาขาดทุนสะสมต่อเนื่องของขสมก. ซึ่งเป็นไปตามแผนบริหารงานของขสมก. หากปล่อยให้ปัญหาบานปลายออกไป ก็ต้องนำเอาภาษีของประชาชน ยายมี ยายมา ป้าแม้น ซึ่งเป็นคนในต่างจังหวัดมาแก้ปัญหาของคนใน กทม. และเรื่องความเห็นแตกต่างของรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ทั้งเรื่องการจำนำข้าว ระบายสินค้าเกษตร เพียงแต่ทุกคนคุยกันด้วยเหตุผล แต่เรื่องเช่า รถเมล์ เมื่อครม.ขอให้ กระทรวงคมนาคม ไปทบทวน ก็นำมาทบทวนแล้วพร้อมกับตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย เพราะฉะนั้นขอยืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีเสถียรภาพ ไม่มีความแตกแยก พรรคภูมิใจไทยพร้อมให้ประชาชนเจ้าของประเทศตรวจสอบ โสภณโร่พบสุเทพชี้แจง รถเมล์ 4พันคัน หลังจากนายโสภณได้เดินทางมาพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้หารือทุกเรื่องที่เป็นงานของกระทรวงคมนาคมกับนายสุเทพ ตนได้อธิบายรายละเอียดทุกประการ โดยเฉพาะตัวเลขที่ยังเป็นข้อสังเกตทุกจุด และตนจะพยายามชี้แจงให้ ครม.ได้เข้าใจ ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการพิจารณาโครงการเช่ารถเมลล์ 4 พันคันในการประชุม ครม.ในวันที่ 3 มิ.ย.นี้แน่นอนใช่หรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า กระทรวงได้ส่งวาระการประชุมดังกล่าวมาแล้วตามกระบวนการ แต่ในที่ประชุม ครม.จะมีการพิจารณาวาระดังกล่าวเป็นที่แน่นอนหรือไม่ ตนไม่ทราบ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เมื่อถามว่านายสุเทพยืนยันหรือไม่ว่ามีการบรรจุเรื่องดังกล่าวลงในวาระการประชุม ครม.แล้ว นายโสภณ กล่าวว่า นายสุเทพได้บอกว่าเรื่องที่ส่งมาที่ ครม.นั้นยังมาไม่ถึง ต่อข้อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ให้โครงการดังกล่าวผ่านได้ นายโสภณ กล่าวว่า อยู่ที่ตนจะอธิบายให้ที่ประชุม ครม.เข้าใจได้หรือไม่ ถ้าตนสามารถอธิบายให้ครม.เห็นด้วยกับกระทรวงคมนาคม และข.ส.ม.ก. ที่ประชุม ครม.ก็คงพิจารณาผ่านให้ แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่ผ่านเท่านั้นเอง แต่ส่วนตัวตนมั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้ นายโสภณ กล่าวว่า หลังจากที่ ครม.ให้กลับมาพิจารณาตัวเลขใหม่นั้น ตอนนี้สามารถปรับลดจาก 6.9 หมื่นล้านบาท เหลือเพียง 6.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับลดตามข้อเท็จจริง ซึ่งบางคนอาจตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเป็นการปรับลดฮวบฮาบ เป็นเพียงการลดเพื่อให้โครงการเกิดขึ้นได้เท่านั้น ซึ่งความจริงไม่ใช่ แต่เป็นการลดตามข้อเท็จจริงที่ถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องดอกเบี้ย เมื่อดอกเบี้ยลดตัวอื่นก็ลดไปด้วย และการที่โครงการนี้เกิดขึ้นมาเพราะข.ส.ม.ก.อยู่ในภาวะขาดทุน ต้องการรับการฟื้นฟู ดังนั้นถ้าโครงการนี้ไม่เกิดก็ต้องถามกันว่าจะเอาอย่างไรกับข.ส.ม.ก. จะปล่อยให้ขาดทุนปีละ 6 พันล้านบาทไปอย่างนี้หรือ เพราะโครงการนี้ข.ส.ม.ก.เสนอมา เนื่องจากมีผลการศึกษามาแล้วว่าหากมีรถเมลล์เอ็นจีวีมาบริการอย่างดีจะได้มีกำไร ถ้าโครงการนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยเหตุที่ตอบปัญหาอะไรไม่เคลียร์ ผมยินดีที่จะไปแก้ไขปรับปรุง แต่ถ้าโครงการนี้จะไม่สำเร็จเพราะพิจารณาตามกระแส เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ผมเองก็รับไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจตั้งแต่เราทำทีโออาร์มา ขยายมา 11 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ตั้งธงว่าจะเอารถต่างประเทศเข้ามาทั้งหมด จนมาถึงนายกฯอภิสิทธิ์บอกว่าเกิดวิกฤติภายในประเทศ ต้องสร้างงาน ใช้รถในประเทศ ก็ลดลงมาได้ตามลำดับ มีเหตุมีผลรองรับทั้งหมด ก็เข้าใจว่าคนส่วนหนึ่งก็มองอย่างตั้งใจ ซึ่งผมไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร พูดไปเดี๋ยวก็จะโกรธกัน แต่คนเสนอมันคนบุรีรัมย์ คงไม่หล่อไม่ดังมั้ง นายโสภณ กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่าหาก ครม.พิจารณาตามกระแสแล้วรับไม่ได้จะทำอย่างไร รมว.คมนาคม กล่าวว่า ต้องกลับมาถามรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไรกับข.ส.ม.ก. จะปล่อยให้อยู่ตามมีตามเกิดอย่างทุกวันนี้ ปล่อยวิ่งตามยถากรรม ปล่อยให้คนกรุงเทพฯอยู่ไปอย่างนี้ ขาดทุนปีละ 6 พันล้านบาท เอาภาษีประชาชนไปใช้อยู่อย่างนี้ แนวโน้มการขาดทุนยิ่งจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะสภาพรถมันเก่าลงทุกวัน เมื่อถามว่ามองว่าที่ยืดเยื้ออยู่อย่างทุกวันนี้เพราะสาเหตุใด นายโสภณ กล่าวว่า ตนไม่อยากพูด เมื่อถามว่ามีเรื่องของศักดิ์ศรีเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า ตนก็ไม่ทราบ ต่อข้อถามว่าหากผลักดันโครงการนี้ไม่สำเร็จผู้มีบารมีในพรรคภูมิใจไทยยังจะให้เป็นรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า อันนั้นไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่าในเมื่อรับงานมาทำแล้วไม่สำเร็จ นายโสภณ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องรับงาน ถ้ามองโครงการนี้เป็นการเมืองมันผ่านไปนานแล้ว ไม่ต้องปรับราคากันขนาดนี้ และตนไม่ต้องถูกปรามาสว่าทำไมต้องอย่างนั้นอย่างนี้ แต่วันนี้เมื่อลดราคาลงได้ ตนไม่ได้กลัวเสียหน้า คนที่คัดค้านโครงการก็ช่วยกันเสนอมาว่าให้ปรับอะไร อย่างไร แต่ไม่มีใครเสนอ แต่กลับบอกว่าทำไมถึงซ่อมแพง ผู้สื่อข่าวถามว่าหากโครงการนี้ผ่านแล้วไปมีปัญหาขาดทุนในอนาคตนายโสภณกับพรรคภูมิใจไทยจะรับผิดชอบอย่างไร นายโสภณ กล่าวว่า ก็จำเป็นต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นผู้ผลักดัน แต่จะรับผิดชอบระดับไหนต้องไปดูความเสียหาย เพราะในอดีตถ้าบอกว่าคนที่ทำให้รัฐต้องเสียหาย ป่านนี้หลายคนคงเดือดร้อนไปหมดแล้ว เพราะคิดโครงการให้ราชการแล้วคิดว่าจะสำเร็จแต่ไม่สำเร็จ มันเหมือนตั้งร้านขายก๋วยเตี๋ยว ตั้งใจว่าคนจะมากิน 350 คน แต่คนกลับไม่มากิน หรืออาจจะกินเกินนี้ก็ได้ เมื่อถามว่าโครงการนี้ถูกวิจารณ์มากว่าเสี่ยงจะทำให้รัฐบาลมีปัญหาล้มลง มีความเป็นไปได้ที่จะชะลอหรือดึงเรื่องกลับไป เพื่อให้สังคมได้ถกเถียงเพื่อให้ตกผลึกก่อนหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหาทั้งนั้น แต่ต้องมีทางออกให้ตน ไม่ใช่มาบอกว่าพอตั้งโครงการขึ้นมาก็ว่าโกงแล้ว อภิมหาโกง หรือที่บอกว่านำรถเข้ามาแล้วจอดอยู่ที่ท่าเรือคลองเตย หรืออะไรต่ออะไร แต่ที่พูดมานั้นไม่ใช่เลย ผู้สื่อข่าวถามว่าหากทางกระทรวงเตรียมข้อมูลและชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดแล้วที่สุดครม.ก็ไม่อนุมัติ พรรคภูมิใจไทยจะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า โอ๊ะๆๆ ไปถอนทำไม ใครก็อยากเป็นพรรครัฐบาลทั้งนั้น นายโสภณ กล่าวติดตลก ผู้สื่อข่าวถามว่า 40 ส.ว.ระบุว่าหากโครงการนี้ผ่านการพิจารณาของ ครม.แล้ว พวกเขาจะไม่ให้การสนับสนุน พ.ร.ก.กู้เงินที่รัฐบาลเสนอเข้าสภา นายโสภณ กล่าวว่า หากเป็นเช่นนี้ประเทศจะเดินยากทันที เพราะหากเดินเช่นนี้เรียกว่าไม่มีเหตุผล เมื่อถามว่าขณะที่ฝ่ายค้านเองก็เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหาก ครม.อนุมัติโครงการนี้ นายโสภณ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ตนยินดีที่จะให้อภิปราย วันนี้ทั้งพรรคภูมิใจไทย และในฐานะรมว.คมนาคม เรารับผิดชอบทั้งด้านการเมือง สังคม และกฎหมาย ถ้าตนทำผิดกฎหมายตนก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เมื่อถามว่าพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของสภาใช่หรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า ตนพร้อมมานานแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายโสภณยังได้กล่าวหยอกล้อกับกลุ่มผู้สื่อข่าวในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นรถกลับกระทรวงคมนาคมว่า นี่ผมกลัวว่าผมจะไม่ดังนะ ถึงได้ยอมยืนให้สัมภาษณ์นานขนาดนี้ ผมมันโลโซ คนบ้านนอก ดังไม่ดังไม่เคยเอามาเป็นสาระ แต่คราวนี้คนคงจะรู้จักผมแล้วเนอะ รับรองรถเมลล์เอ็นจีวีเบรคไม่แตก เพราะเปลี่ยนเบรคตามอายุการใช้งาน เบรคไม่แตก นายโสภณกล่าวพร้อมกับหัวเราะ 40 ส.ว.ขู่ครม.ปล่อยผ่าน รถเมล์ ฉาวเจอยื่นถอดถอนแน่ ที่รัฐสภา กลุ่ม 40 ส.ว. นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ร่วมกันแถลงข่าวคัดค้านโครงการเช่า รถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คัน ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ โดยน.ส.รสนากล่าวว่า โครงการนี้มีความชัดเจนว่าส่อไปในทางทุจริต และเชื่อว่า ส.ว.ทั้ง 150 คน ก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับโครงการนี้ ทั้งนี้ได้รับการประสานว่าในวันประชุมครม.ที่จะพิจารณาวาระดังกล่าว จะมีประชาชนไปนอนรอฟังมติครม.ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลแน่นอน ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าสิ่งที่นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กระทำนั้น เหมือนเป็นผู้รับสัมปทานเสียเอง เห็นได้จากมีการลดราคาโครงการลงรายวัน จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบโครงการนี้อย่างจริงจัง ที่สำคัญคิดว่าเรื่องนี้เป็นการดำเนินการเพื่อเตรียมเสบียงกรังไว้สำหรับการเลือกตั้งแน่นอน เพราะจะเห็นได้ว่าพรรคภูมิใจไทยพยายามผลักดันอย่างเต็มที่ หากมีการอนุมัติให้ผ่านจริงเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน จะมีคนออกมาคัดค้านโดยประชาชนที่รอฟังอยู่หน้าทำเนียบพร้อมที่จะยื่นเรื่องถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะต่อวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 จึงขอให้รัฐบาลโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์มีความกล้าที่จะไม่ให้โครงการนี้ผ่าน อย่าไปกลัวเรื่องพรรคร่วมรัฐบาลจะถอนตัว ด้านนายสมชายกล่าวว่า ในช่วงเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ที่จะมีร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 ซึ่งแน่นอนว่าหากมีการอนุมัติโครงการเช่า รถเมล์ ส.ว.ทั้ง 150 คน คงไม่พิจารณาให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณผ่านไปแน่นอน หากร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯไม่ผ่านรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบด้วยการยุบสภาเช่นกัน จึงอยากให้รัฐบาลประชาธิปัตย์แสดงความกล้าหาญในเรื่องนี้ ไม่ต้องไปสนใจการต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเชื่อว่าไม่กล้าตีจากการร่วมรัฐบาลในตอนนี้แน่ เพราะยังเตรียมเสบียงกรังไม่พร้อมต่อการเลือกตั้ง นายไพบูลย์กล่าวว่า นอกจากมีพ.ร.บ.งบประมาณฯแล้ว ยังมีพ.ร.ก.เงินกู้อีก 4 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลเตรียมเสนอให้รัฐสภาพิจารณาเป็นวาระแรก หากโครงการเช่า รถเมล์ ผ่านความเห็นชอบจากครม. ก็เชื่อว่าส.ว.ทุกคนคงเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลในการบริหารการใช้งบประมาณของรัฐบาล จึงเชื่อว่าส.ว.ทั้ง 150 คน จะไม่โหวตให้ผ่านแน่นอน และส.ว.ทั้ง 150 จะโหวตไม่ผ่านพ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท รวมทั้งจะมีประชาชนเข้าชื่อ 2 หมื่นชื่อ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 เพื่อยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม 40 ส.ว. ได้ตั้งข้อสัเกตถึงโครงการเช่า รถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คัน โดยเปรียบเทียบตัวเลขค่าเช่า รถเมล์ ระหว่างขสมก. กับผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการประกอบรถยนต์ และบริษัทเดินรถ พบว่าตัวเลขของผู้เชี่ยวชาญต่ำกว่าตัวเลขของขสมก.ถึง 40% ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นข้อมูลที่ ขสมก.คำนวณค่าซ่อมรถไว้ที่ 2,250 บาท/คัน/วัน เป็นการคิดจากค่าซ่อมกิโลเมตรละ 7.50 คูณ 300 กิโลเมตร/วัน ซึ่งเป็นข้อมูลจากอายุรถที่ใช้งาน 10 ปีขึ้นไป และระยะทางที่กำหนดไว้ตามทีโออาร์ไม่เกิน 300 กิโลเมตร เป็นการกำหนดระยะทางที่สูงสุดตามทีโออาร์ แต่ข้อเท็จจริงแล้ว รถเมล์ จะวิ่งเฉลี่ยวันละ 200 กิโลเมตร ดังนั้นการนำค่าซ่อมรถอายุ 10 ปีคูณกับระยะทางที่วิ่งเกินจริง จึงเป็นที่มาของค่าซ่อมรถที่สูงเกินจริง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าค่าซ่อมในปีแรกไม่กี่ร้อยบาทต่อวัน เฉลี่ย 10 ปี ไม่เกิน 1,200 บาท/คัน/วัน รวมทั้งโครงการจะมีผลต่างกับ ขสมก.อยู่ 15,330 ล้านบาท คิดเป็น 47% โดยนายไพบูลย์ ได้ตั้งข้อสังเกต ว่า ข้อมูลที่ ขสมก.นำเสนอเป็นข้อมูลด้านเดียว ตัวเลขแตกต่างกันหลายสิบเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่จะปรับลดโดยให้ครม.พิจารณา จึงเสนอให้ครม.นำโครงการดังกล่าวส่งให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI ศึกษาทั้งต้นทุนค่าเช่า, รายจ่าย และรายรับ เพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการอีกครั้งหนึ่งให้เกิดความรอบคอบ ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยกลุ่ม 40 ส.ว.จะติดตามการพิจารณาของครม.ตลอด กมธ.โวยขสมก.เบี้ยวแจง รถเมล์ ชี้มีพฤติกรรมส่อไม่โปร่งใส นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญนายปิยะพันธ์ จำปาสุต ประธานบอร์ด องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) และผู้อำนวยการขสมก.มาชี้แจงกรณีโครงการเช่า รถเมล์ ปรับอากาศ 4,000 คัน ซึ่งนายปิยะพันธ์ได้ทำหนังสือแจ้งกับกรรมาธิการว่าได้มอบหมายให้นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รองประธานกรรมการบริหาร ขสมก.และรักษาการณ์ผอ.ขสมก.มาเป็นผู้ชี้แจงกับกรรมาธิการแทน แต่ปรากฎกรรมาธิการฯเพิ่งได้รับโทรสารจากนายชัยรัตน์ชี้แจงว่าไม่สามารถมาประชุมได้เนื่องจากมีกำหนดประชุมร่วมกับนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยกำหนดนัดหมายประชุมไว้ก่อนแล้ว ประกอบกับโครงการเช่า รถเมล์ ฯ อยู่ในขั้นตอนการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีจึงไม่สามารถมาร่วมประชุมและชี้แจงได้ ซึ่งกรรมาธิการฯ เห็นว่า โดยธรรมเนียมปฏิบัติการมอบอำนาจต้องมีการสอบถามว่าว่างหรือไม่ก่อนจะมอบหมายให้มาชี้แจงแทน ดังนั้นกรรมาธิการฯ จึงเชื่อว่ากรณีดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ต้องการบ่ายเบี่ยง ผมได้โทรศัพท์ไปหลังจากทราบว่าท่านแจ้งมาว่าไม่ว่าง โดยผมบอกว่าทำไมถึงไม่แจ้งก่อน ท่านกลับตอบว่าท่านเพิ่งมานัดหมายกับรัฐมนตรีเมื่อเช้า และเขาบอกว่า ถึงเขามาชี้แจงก็ไม่สามารถให้รายละเอียดได้เพราะอยู่ในขั้นที่เป็นแผน เราอยากบอกว่าก็เพราะมันเป็นขั้นแผนนั่นแหล่ะที่คนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความโปร่งใส ดังนั้นกรรมาธิการฯ เห็นว่าพฤติกรรมบ่ายเบี่ยงไม่มาชี้แจงครั้งนี้มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ซึ่งเราจะรีบเชิญให้มาชี้แจงอีกครั้งและหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก นายวิลาศกล่าว นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ รองประธานกรรมาธิการฯ กล่าวเสริมว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตุเรื่องราคาค่าซ่อมรถที่ตั้งไว้ถึง 2,250 บาท ต่อวันต่อคัน ไม่ทราบว่าเป็นการเช่ารถมาเพื่อซ่อมหรือเพื่อมาวิ่ง เมื่อย้อนดูการปรับลดลงประมาณตั้งแต่สมัยรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯที่มีการปรับจาก 111,690 ล้านบาท โดยปรับลดลงเหลือ 67,992 ล้านบาท โดยเป็นการลดงบประมาณในส่วนของการซื้อที่จอดรถและการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ตนไม่เข้าใจว่าการคิดค่าเช่าล่าสุดใช้ฐานตัวเลขจากไหนมาคิดเพราะราคาค่าเช่ากับเพิ่มขึ้นจนนายกรัฐมนตรีต้องสั่งให้ไปปรับลด นายชาญชัย กล่าวต่อว่า ตนยังมีหลักฐานว่าประธานบอร์ดขสมก.อาจมีส่วนร่วมในความไม่โปร่งใสที่เกิดขึ้น โดยคณะกรรมาธิการจะขยายวันเพื่อเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเข้าชี้แจง พร้อมตั้งข้อสังเกตุถึงการกำหนดทีโออาร์ที่ระบุค่าซ่อมถึงวันละ 2,250 บาทต่อคัน ว่าเป็นการส่อในทางทุจริต และอาจเข้าข่ายกระทำผิดตามพ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล อย่างไรก็ตาม ตนจะเสนอต่อ ป.ป.ช.กำหนดให้ประธานบอร์ดทุกคณะแสดงบัญชีทรัพย์สิน และเปิดเผยบัญชีธนาคารต่อสาธารณชน ส่วนกรณีที่มีผู้เสนอทางออกให้กรุงเทพมหานครเข้ามารับผิดชอบโครงการนี้แทนกระทรวงคมนาคม ตนยังไม่เห็นด้วย เนื่องจากเห็นว่ากทม.ไม่มีศักยภาพเพียงพอ อีกทั้ง ยังถูกตรวจสอบโครงการทุจริตอีกหลายโครงการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ชวรัตน์ไฟเขียวโสภณลุยเดินหน้าเช่ารถเมล์ รถติดม้าก...มาก เทือกยันไม่มีซูเอี๋ยผลประโยชน์ภท. ฝ่าแรงต้านภูมิใจไทยดันรถเมล์เข้าครม.พุธนี้ เปิดใจโสภณนโยบายเช่ารถเมล์4พันคัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook