เนวิน ติวเข้ม รมว.คมนาคมแจงรถเมล์4พันคัน ใน ครม. ยันเกาะเก้าอี้แน่นไม่ถอนตัวรัฐบาล
เนวิน-อนุทิน"ติวเข้ม"โสภณ ซารัมย์"ชี้แจง เช่ารถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คันใน ครม. สั่งไม่ต้องชี้แจงรายละเอียดถ้าถูกรุม รมว.คมนาคมมั่นใจผ่านฉลุบ ลดมูลค่าโครงการจาก 6.7 หมื่นล้านเหลือ 6.4 หมื่นล้านบาท ยันไม่ถอนตัวจากรัฐบาลแน่
นายโสภณ ซารัมย์ เดินทางเข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือโครงการเช่ารถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คันของ ขสมก. เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน โดยใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นทั้งคู่เดินทางลงมาจากห้องทำงาน ที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งนายสุเทพปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ และรีบเดินทางออกนอกทำเนียบรัฐบาลทันที
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังการหารือ นายสุเทพได้รายงานให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว และมีการอนุมัติให้บรรจุเป็นวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 มิถุนายนนี้
รายงานข่าวจากแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แจ้งว่านายสุเทพ ในฐานะรักษาการนายกฯลงนามให้โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวีบรรจุเป็นวาระการประชุมครม.แล้ว หลังนายโสภณเข้าพบนายสุเทพ ซึ่งเสมือนเป็นสัญลักษณ์กดดันทางการเมือง ดังนั้นแกนนำประชาธิปัตย์ จึงมอบหมายให้นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ รายงานให้นายกฯ รับทราบช่วงค่ำวันที่ 2 มิถุนายน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังเดินทางกลับจากประเทศเกาหลี
ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรค ภูมิใจไทย(ภท.) แจ้งเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรค ภท. และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ช่วยซักซ้อมความเข้าใจโครงการรถเมล์ 4,000 คัน ให้นายโสภณ ซารัมย์ เพื่อตอบคำถามที่ประชุม ครม. เพราะที่ผ่านมา ครม.ให้ทบทวน เนื่องจากนายโสภณ ไม่สามารถตอบข้อสงสัยได้ชัดเจน
อย่างไรก็ตามทีมงานนายอนุทินเห็นว่า ถ้ามีคำถามที่ลงลึกในรายละเอียด นายโสภณไม่จำเป็นต้องอธิบาย เนื่องจากระดับผู้บริหารจะรับทราบเฉพาะเรื่องหลักๆ ส่วนรายละเอียดให้เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ชี้แจ้ง
"ถ้ารัฐมนตรี ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องซักถามรายละเอียด นายโสภณก็ไม่จำเป็นต้องตอบ เพราะมีรัฐมนตรีบางคน ที่ต้องการสร้างคะแนนนิยม โดยการซักถามที่ประชุม ครม. ในสิ่งที่ไม่ควรถาม เพราะรู้ว่าจะต้องมีคนนำเรื่องในครม.มาเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง และต้องการที่จะเป็นข่าว จึงทำทีเป็นโต้แย้งในที่ประชุม ทั้งที่ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง" แหล่งข่าวกล่าว
นายโสภณ ให้สัมภาษณ์ว่า อธิบายรายละเอียดตัวเลขในโครงการนี้ให้นายสุเทพรับทราบแล้ว ส่วนที่มีการปรับลดวงเงินลงอีกจาก 6.9 หมื่นล้าน เหลือ 6.7 หมื่นล้านบาท และที่สุดเหลือ 6.4 หมื่นล้านบาทนั้น ไม่อยากให้มองว่าเพื่อหวังให้โครงการผ่าน แต่ปรับตามข้อเท็จจริงโดยตัดค่าความเสี่ยงโครงการ 3% ออกตามความเห็นของสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ทำให้อัตราดอกเบี้ยเหลือที่ 6.725% และตนไม่กลัวเสียหน้าด้วย
"ผมมั่นใจว่าเป็นโครงการที่ดี หากโครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จจากการที่ตอบปัญหาไม่เคลียร์ ก็ยินดีจะไปปรับปรุง แต่หากไม่สำเร็จเพราะพิจารณากันตามกระแส คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก และผมคงรับไม่ได้ " นายโสภณกล่าว
เมื่อถามว่า โครงการนี้กำลังถูกสังคมวิจารณ์อย่างหนัก ทำไมไม่ชะลอเพื่อพิจารณาความรอบคอบอีกครั้ง นายโสภณกล่าวว่า ผมไม่มีปัญหา แต่ต้องมีทางออกให้ผมด้วย ไม่ใช่มาบอกว่าตั้งโครงการมาก็โกงกันแล้ว อภิมหาโกงกันแล้ว ไปเอารถเข้ามาเตรียมไว้แล้ว ทั้งที่มันไม่เป็นความจริงเลย
เมื่อถามว่า หาก ครม.ไม่ผ่านโครงการนี้ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า จะไปถอนทำไม ใครก็อยากเป็นรัฐบาลกันทั้งนั้น
"ยังอยากเป็นรัฐบาลอยู่ สีทนได้" นายโสภณกล่าว
นายโสภณกล่าว ว่า ส่วนจะทำงานร่วมกันต่อไปได้หรือไม่ ก็ต้องอยู่ที่เหตุผลว่าไม่ผ่านเพราะอะไร ถ้าไม่ผ่านเพราะเกเรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้ามีเหตุผลก็ฟังได้ ส่วนจะเกเรอย่างไรนั้นไม่ขอบอก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)ทำหนังสือให้กระทรวงคมนาคมปรับลดมูลค่าโครงการใหม่จากเดิม 67,992.20 ล้านบาท เหลือ 64,853.20 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายต่อคันต่อวัน ได้แก่ ค่าเช่ารถ 1,885 บาท ค่าซ่อมคงเดิม 2,250 บาท ค่าอี-ทิกเก็ต จีพีเอส 139 บาท ค่าประกันภัย 31 บาท ค่าภาษี 8 บาท และค่าใช้จ่ายบริหารจัดการ 129 บาท รวมค่าใช้จ่ายต่อคันต่อวัน 4,442 บาท ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวรวมการสำรองรถ 10% และค่ารถที่ 5 ล้านบาทต่อคัน คิดดอกเบี้ยที่ 6.725% และคิดค่าดำเนินงานและผลกำไรที่ 8%