สุเทพไฟเขียวภท.ชงรถเมล์เข้าครม.

สุเทพไฟเขียวภท.ชงรถเมล์เข้าครม.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จอมแฉสงสัยล็อกสเปก 40 ส.ว.ค้านขู่คว่ำรัฐบาล

 

ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน พ.ร.ก.กู้แหลกวันนี้โสภณเช่ารถเมล์4 พันคันเข้า ครม.สำเร็จ ชวรัตน์ บอกใบ้หาบุคคลที่ 3 มาช่วยทำให้โปร่งใส นายกฯ ลั่นต้องตอบให้เคลียร์ทุกคำถาม เทพเทือก ออกตัวไม่มีสัญญาต่างตอบแทน ถาวร ไม่ถูกใจปรับปรุงเช่ารถเมล์ ทหารออกเตือนพิจารณาเช่ารถเมล์ให้รอบคอบ สะกิดรัฐบาลอย่าลืมงบกองทัพบก เรืองไกร จุดพลุแนะคุ้ยต้นทุนบริษัทคาดล็อกสเปก เพื่อไทย วืดบุก ขสมก.ไม่เจอต้นแบบยังไม่สั่งเข้าไทย 40 ส.ว. ขู่คว่ำรัฐบาลหากไฟเขียว ปล่อยผีเช่ารถเมล์เอ็นจีวี สุขุมพันธุ์ ครวญการเมืองทำ กทม. น่วมไปด้วย แจงบีอาร์ทีสเปกสูง ราคาเลยแพง เทพไท จวกทำนายอายุรัฐบาลมั่วซั่ว สับพท.โร่ขอทุนเลือกตั้งซ่อม ชุมพล ปฏิเสธขึ้นบัญชีดำ 12 ส.ส. เฉลิมชัย เผยผู้ใหญ่ในพรรคเข้าใจดี ฝ่ายค้านจี้รัฐบาลทบทวนขายข้าวขู่ระวังม็อบชาวนาบุกกรุง ภูมิใจไทย ใจใหญ่ไม่เขียมหอบส.ส.สัมมนาเมืองนอก เหยียบมิดรถเมล์เข้าครม.

 

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย (มท.1) และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการผลักดันโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า อยู่ที่นายกรัฐมนตรีว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม. หรือไม่ ซึ่งนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม มีความพร้อมที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม. ตลอดเวลา เพราะเคยนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมแล้ว และเชื่อว่านายโสภณสามารถชี้แจงได้ ส่วนจะต้องมีการติวเข้มเรื่องการชี้แจง ครม. ให้กับนายโสภณก่อนหรือไม่นั้น ตนคิดว่านายโสภณเป็นเจ้าของเรื่องน่าจะรู้ดีที่สุด หากชี้แจงไม่ได้เราก็ช่วยอะไรไม่ได้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีหลายฝ่าย ออกมาทักท้วงโครงการดังกล่าว ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ทางภูมิใจไทยจะนำโครงการดังกล่าวมาทบทวนหรือไม่ นาย ชวรัตน์ กล่าวว่า ต้องดูว่าโครงการขนส่งมวลชนดังกล่าวมีความจำเป็นต่อประชาชนหรือไม่ ขณะนี้มีประชาชนที่ใช้บริการขนส่งมวลชนจำนวนหลายล้านคน ดังนั้นเราก็จำเป็นต้องให้บริการ อย่างไรก็ตาม หากโครงการดังกล่าวผ่านที่ประชุม ครม. ก็ต้องเปลี่ยนการจำหน่ายตั๋วโดยสารมาเป็นระบบ e-ticket เนื่องจากเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนพนักงานเก็บค่าโดยสาร ซึ่งจะทำให้พนักงานเก็บค่าโดยสารต้องหางานใหม่ แต่เราต้องให้เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน ลุงจิ้นใบ้ใช้บริการบุคคลที่ 3

 

นายชวรัตน์ กล่าวต่อว่า โครงการนี้เสนอมาตั้งแต่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ แรกเริ่มมีการตั้งไว้ที่ 6,000 คัน พร้อมทั้งให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ มาเป็นประธานพิจารณาเรื่องนี้หลายครั้ง แต่ตนไม่ได้ร่วมประชุมด้วยจึงไม่ทราบว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร จนกระทั่งมีรัฐบาลชุดใหม่แล้วมีคนของพรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้ากระทรวง ก็ทำให้ราคารถเมล์จากเดิมที่ตั้งไว้คันละ 8 ล้านบาท ลดเหลือคันละ 5 ล้านบาท ดังนั้น ถือว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผล ทั้งนี้ ตนไม่อยากจะวิจารณ์เรื่องนี้ว่าเป็นเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ เพราะตนเป็นหัวหน้าพรรค ไม่อยากไปแตะเรื่องนี้เพราะมันละเอียดอ่อน ถ้าวิจารณ์ไปอาจจะเป็นเรื่องทะเลาะกัน

 

เมื่อถามว่า หากนายกฯ ไม่นำโครงการดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม. จะเป็นสัญญาณความขัดแย้งระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า นายกฯต้องมีเหตุผล เมื่อถามว่าหากยกเหตุผลเรื่องการทุจริต นายชวรัตน์ กล่าวว่า เราก็ต้องมีวิธีที่ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าโปร่งใส อาจจ้างบุคคลที่ 3 มาทำแผนความเป็นไปได้ของโครงการ เมื่อถามว่า ยังมีการมองว่าพรรคภูมิใจไทยพยายามผลักดันโครงการดังกล่าว เพื่อต้องการหาเงินทุนสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายชวรัตน์ กล่าวว่า ทำให้ประชาชน ไม่ได้ทำให้พรรค เพราะขณะนี้มีคนบริจาคเงินให้พรรคสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่แล้ว สุเทพยันไม่มีสัญญาพิเศษ

 

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันจะนำโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน เข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม. ในวันที่ 3 มิ.ย. นี้ โดยระบุว่าถ้าไม่นำเข้าพิจารณาจะถือเป็นการผิดสัญญาว่า ไม่มีอะไรที่จะต้องตื่นเต้นอย่างไรก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ครม. เพราะเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม. ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมกลับไปทบทวนร่วมกับ 2-3 หน่วยงาน ช่วยพิจารณาในรายละเอียด ซึ่งเมื่อพิจารณากันเสร็จแล้วจะต้องนำเสนอกลับมาที่ ครม. ส่วน ครม. พิจารณาแล้วมีความเห็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงคมนาคมยังไม่เห็นเรื่องนี้และคงไม่ได้เสนอเป็นวาระจร ซึ่งส่วนใหญ่วาระจรเราจะหลีกเลี่ยง ยืนยันว่าวิธีทำงานของรัฐบาลที่ทำอยู่ในขณะนี้นั้น เป็นวิธีที่ผู้บริหารประเทศทั้ง หลายต้องปฏิบัติ คือคนที่เป็นรัฐมนตรีหรือกระทรวงเจ้าสังกัดจะต้องไปดูว่าจะต้องแก้ไขปัญหางานหรือหน่วยงานที่อยู่ในกำกับดูแลของตัวเอง อย่างไร เมื่อมีข้อสงสัยก็จะซักถามหรือเสนอแนะเพิ่มเติม และบางเรื่องสามารถตัดสินได้ในวันเดียว แต่บางเรื่องต้องเข้าที่ประชุม ครม. 2-3 ครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่เห็นว่าจะหย่อนมาตรฐาน ครม. มืออาชีพอย่างไร โอดตามจีบ ภท. แสนเหนื่อย

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยมีท่าทีอ่อนลงในการคัดค้านนโยบายเช่าที่ดินของนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เป็นไปได้หรือไม่ที่โครงการเช่ารถเมล์จะบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม. เป็นเรื่องด่วน นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปคิดว่าต้องมีการแลกเปลี่ยน กัน ตนเห็นการทำงานมาหลายรัฐบาล และรัฐบาลนี้ก็ทำงานตามปกติ เรื่องความเห็นตรงกันหรือไม่นั้นเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเอาข้อเท็จจริงมายืนยันหรือชี้แจงกันแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนความคิดกันได้ ตนไม่กังวลว่าเรื่องนี้จะบานปลายจนกระทบเสถียรภาพของรัฐบาลและยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ไม่มีการเจรจาต่อรองผลประโยชน์นอกรอบ

 

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการวิจารณ์ว่าการ ทำงานของรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยเป็นลักษณะหมูไปไก่มา ต้องมีการแลกเปลี่ยนกัน นายสุเทพ กล่าวว่า โครงการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งบางโครงการกระทรวงคมนาคมจะต้องเป็นผู้ปฏิบัติ บางโครงการก็เป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มันไม่ใช่เรื่องของการต่อรองอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่เป็นเรื่อง ที่ต้องทำ เมื่อถามว่าตอนไปชวนพรรคภูมิใจไทยมาร่วมรัฐบาล คิดหรือไม่ว่าต้องรับมือกับพรรค ภูมิใจไทยมากขนาดนี้ นายสุเทพ ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า คุณมีแฟนมั้ย แล้วคุณจะรู้ว่าเวลาไปจีบมันเหนื่อยขนาดไหน นายกฯลั่นต้องตอบให้เคลียร์

 

ที่เกาะเจจู ประเทศเกาหลีใต้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเตรียมผลักดันโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน กลับเข้าสู่ที่ประชุมครม. ในวันที่ 3 มิ.ย. นี้ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าการประชุมดังกล่าวมีวาระอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ครม. ต้องการให้เกิดขึ้นก็คือความมั่นใจของประชาชนหรือสังคมว่าเป็นโครงการที่มีความคุ้มค่า ดังนั้น การที่ ครม. ให้นำโครงการดังกล่าวกลับไปทบทวน ก็เพื่อต้องการให้เกิดความเชื่อมั่นให้ได้ ส่วนจะมีการนำโครงการดังกล่าวกลับเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันที่ 3 มิ.ย. นี้หรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบ

 

เรื่องทั้งหมด มันมีข้อสังเกตอยู่ ตั้งแต่โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นมาเมื่อปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาในส่วนนั้นส่วนนี้ หรือเปรียบเทียบดูว่ามีทางเลือกอื่นหรือไม่ ซึ่งต้องตอบคำถามตรงนี้ให้ได้หมด ถ้าตอบคำถามได้ ทุกอย่าง ก็เดินหน้าได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าว โสภณเผยเรื่องเข้าวาระครม.

 

เมื่อเวลา 13.00 น. นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้เดินทางมาพบนายสุเทพ ที่ห้องทำงานของนายสุเทพ บริเวณชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือถึงการบรรจุวาระการพิจารณาโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ใช้เวลาหารือกันนานประมาณ 1 ชั่วโมง ภายหลังการหารือดังกล่าว นายสุเทพได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ แต่กล่าวเพียงว่า เดี๋ยวกลับมา จะออกรายการทีวีก่อน ส่วนนายโสภณ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้อธิบายให้นายสุเทพทราบถึงเรื่องตัวเลขต่าง ๆ ตอนนี้สามารถจัดทำให้มีความ ชัดเจนเรียบร้อยแล้ว จากวงเงิน 69,000 ล้านบาท ลดลงเหลือ 64,885 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลดตามกระบวนการดอกเบี้ยที่ลดลงเหลือร้อยละ 6.725 ไม่ใช่เป็นการลดวงเงินเพื่อให้โครงการมันเกิด

 

ทั้งนี้ นายโสภณ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมภายหลังว่า ตนทราบว่ามีการบรรจุอยู่ในวาระการพิจารณาของ ครม. แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมครม. ว่า จะหยิบยกมาพิจารณาหรือไม่ หากไม่มีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาก็ต้องดูเหตุผลก่อนว่าทำไมถึงไม่เข้าหากสมเหตุสมผลก็จะไม่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่เข้า ครม. แล้ว จะส่งผลกระทบทางการเมืองถึงขั้นถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายโสภณ ตอบว่า จะถอนไปทำไม ขณะนี้ตนยังอยากเป็นรัฐมนตรีอยู่เลย เสียดายที่โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันได้ เป็นเรื่องทางการเมืองไปแล้ว ถาวรยอมรับไม่ถูกใจรถเมล์

 

นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชวรัตน์ ประกาศดันโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เข้าที่ประชุม ครม. วันที่ 3 มิ.ย. ว่า ไม่ทราบว่าจะมีวาระดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม. หรือไม่ แต่ในการประชุมครม. ทุกคนมีสิทธิหยิบยกขึ้นมาสอบถามเลขาธิ การ ครม. หรือรัฐมนตรี หรือรองนายกฯ ที่เซ็นให้ระเบียบวาระเข้าที่ประชุม ครม. เมื่อถามว่าในฐานะที่เกาะติดโครงการนี้มาตั้งแต่เป็นฝ่ายค้าน โดยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ดูแล้วโครงการขณะนี้แตกต่างกันหรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า ตอน นั้นเสนอให้เช่ารถเมล์ 6 พันคัน ตอนนี้เหลือ 4 พันคัน ส่วนค่าเช่า ค่าซ่อม ดอกเบี้ยลดลงมา บ้าง แต่ก็ยังไม่ถูกใจตน

 

รมช.มหาดไทย ระบุว่า การที่จะถูกใจก็ต้องดูที่ 1.แผนคำนวณรายรับต้องเป็นจริง2.จะต้องไม่มีการขาดทุนสะสม และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าเกิดขึ้นอีกหลายสาย ตลาดจะถูกแบ่งไป เมื่อผู้โดยสารลด รายได้จะลดหรือไม่ อย่างไรก็ตามโครงการนี้โดยหลักการเป็นเรื่องที่ดีเพราะนำก๊าซธรรมชาติมาใช้ แต่ต้องปรับวิธีการ อาจจะเช่าราคาถูก หรือซื้อรถโดยทำทีโออาร์แบบเปิดกว้าง อย่างไรก็ดี หากเรื่องนี้เสนอเข้าที่ประชุมครม. ก็ต้องดูว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ส่วนการตั้งคำถามเพื่อให้อธิบายถือเป็นหน้าที่ที่ประชาชน มอบให้เราเข้ามาทำหน้าที่ ทหารให้สนใจงบกองทัพด้วย

 

พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระ ทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการจัดซื้อ รถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ที่พรรคภูมิใจไทยจะผลักดันเข้าสู่ ครม. ว่า ขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบว่ามีประโยชน์โดยรวม ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่านายอภิสิทธิ์ จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง ความมีเหตุผล ความจำเป็น และความคุ้มค่า

 

พล.อ.อภิชาต ยังให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน ของกองทัพอากาศลอตใหม่ 14,000 ล้านบาทว่า กองทัพอากาศจัดหาเครื่องบินกริพเพนที่จะเสนอเข้า ครม. ในวันที่ 3 มิ.ย. เป็นเพียงการเตรียมการขออนุมัติจาก ครม. ตามโครงการของกองทัพอากาศ เรื่องการตัดงบประมาณไม่เป็นปัญหา เพียงแต่ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ประเทศเพื่อนบ้านมีการสะสมอาวุธ โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่จะมดำน้ำ 6 ลำจากประเทศรัสเซีย หรือพม่าเองก็มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซียค่อนข้างมาก โดยกองทัพเป็นห่วงเรื่องอำนาจต่อรองต่อนานาประเทศ เพราะเราต้องอาศัยการเจรจา ส.ว.จอมแฉแนะคุ้ยทุนบริษัท

 

ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงการตรวจสอบปัญหาความ ไม่โปร่งใสในโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันว่า อยากให้สังคมและสื่อมวลชนตรวจ สอบให้รอบด้าน นอกจากจะจับตามองเรื่องผลประโยชน์ของกลุ่มการเมืองแล้ว อยากให้ติดตามดูถึงต้นทุนของบริษัทที่เข้าประมูล เนื่องจาก การกำหนดทีโออาร์ดูเหมือนจะมีการล็อกสเปก ดังนั้นต้องตรวจสอบว่าบริษัทที่ประมูลได้มีใครเป็นกรรมการผู้ถือหุ้นมีนอมินีสวมชื่อแทนหรือไม่ ซึ่งต้นทุนที่แท้จริงของโครงการนี้ สามารถเทียบได้กับการจัดซื้อรถเมล์เหลืองปรับอากาศที่เพิ่งนำเข้าจากจีนเมื่อไม่นานมานี้ที่ไม่น่าจะมีราคาต่างกันมากนัก มูลค่าโครงการที่แท้จริงไม่น่าจะเกิน 2 หมื่นล้านบาท เท่ากับว่าระยะเวลาแค่ 2-3 ปี บริษัทก็คุ้มทุนแล้ว เหลืออีก 7 ปีมี แต่กำไร

 

นายเรืองไกร ยังกล่าวด้วยว่า หากมีการนำบริษัทนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าหุ้นจะโตไปอีกกี่เท่า หากไม่คิดทำเรื่อง อย่างนี้แล้วก็คงไม่กำหนดสเปกไว้ในทีโออาร์ว่า ต้องเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ กำหนดวงเงินทุนจดทะเบียน และเงินค้ำประกันว่าต้องจ่ายเป็นเงินสด ซึ่งไม่มีผู้ดำเนินธุรกิจปกติที่ไหนทำกัน ที่จะให้กรรมการบริษัทแต่ละคนถือเงินเป็นร้อยล้านพันล้านไปวางเงินสด ๆ แบบนั้น ดังนั้นต้องตรวจสอบด้วยว่าเงินเหล่านั้นมีที่มาอย่างไร ได้เสียภาษีหรือไม่ มีการฟอกเงินหรือเปล่า กรมสรรพากรต้องตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ด้วย และถ้าจะให้ดีควรตรวจสอบการชำระภาษีย้อนหลังไป 5 ปี ของ บริษัท และกรรมการผู้ถือหุ้นบริษัททุกคนด้วย พท.จั่วลมไม่พบรถต้นแบบ

 

ที่สำนักงานใหญ่ ขสมก. ถนนเทียมร่วมมิตร เวลา 10.30 น. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กรุงเทพฯ ในฐานะประธานภาค กทม. พรรค เพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะทำงานและนายบรรยงค์ อัมพร ตระกูล ประธานชมรมรถร่วมบริการ ขสมก. ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลัง มีข่าวว่ามีการนำรถเมล์เอ็นจีวี ต้นแบบเข้ามาในประเทศไทย ในโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เพื่อสอบถามข้อมูลความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวหลังทราบว่ามีการโยกย้ายรถออกไปจากสถานที่เก็บหลังเกิดข่าวต่อต้านโครงการนี้จากหลายภาคส่วน

 

นายวิรัตน์ โชคคติวัฒน์ ผู้ช่วย ผอ. ขสมก. ฝ่ายการเดินรถองค์การฯ ได้ชี้แจงยืนยันว่า ยังไม่มีการสั่งให้นำรถเมล์เอ็นจีวีต้นแบบเข้ามา และไม่มีการยืมรถต้นแบบมาแต่อย่างใดเพราะขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นวุ้น ที่สำคัญหากมีการอนุมัติให้เช่ารถเมล์เอ็นจีวี จะต้องมีการสร้างอู่จอดรถใหม่ 14 แห่ง พร้อมสถานีเติมก๊าซเอ็นจีวีโดยเฉพาะ ส่วนนายวิชาญ กล่าวว่า แม้ยังไม่มีการนำเข้ารถต้นแบบเข้ามา แต่จะตรวจสอบต่อไป โดยพรรคเพื่อไทยไม่ได้คัดค้านการนำรถเมล์เอ็นจีวีใหม่เข้ามาให้บริการกับประชาชน เพียงแต่ขอให้ ครม. พิจารณาในเรื่องราคาเช่าและจำนวนรถที่จะนำมาวิ่งว่ามีจำนวนที่เหมาะสม หรือไม่ รวมถึงต้นทุนและคุณภาพรถ ชูรถร่วมทำได้ต้นทุนถูกกว่า

 

ที่รัฐสภา เวลา 15.45 น. นายวิชาญ แถลงข่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. 2 ราย คือ นายกสมาคม ผู้ประกอบการผู้โดยสารประจำทางและประธานชมรมรถร่วม ซึ่งขณะนี้มีรถโดยสาร 3,500 คัน คิดเป็น 50% ของจำนวนรถของ ขสมก. ทั้งหมดว่า ผู้ประกอบการณ์เดิมมีศักยภาพที่จะดำเนินการจัดรถใหม่เอ็นจีวีได้ตามข้อเสนอของรัฐบาล โดยสามารถคำนวณต้นทุนค่าเช่าและค่าซ่อมบำรุงได้ต่ำกว่า ขสมก. ที่ ขสมก. โดยกระ ทรวงคมนาคม เตรียมเสนอ ครม. ในวันที่ 3 มิ.ย. 4,623 บาท ยังไม่รวมที่จอด

 

นายวิชาญ ระบุว่าต่อว่า ขณะที่เอกชน เสนอ 2,500 บาท ซึ่งรวมที่จอดรถแล้ว ซึ่งมี ต้นทุนต่ำกว่า 2,123 บาทต่อคันต่อวัน ซึ่งรถจำนวน 4 พันคัน ในระยะเวลา 10 ปี จะประหยัดเงิน 30,995,800,000 บาท นอกจากนี้ในวันที่ 3 มิ.ย. ผู้ประกอบการดังกล่าวจะทำหนังสือแจ้งข้อเสนอให้นายกฯ ทราบด้วย ที่ผ่านมา ใน ครม. สมัคร และ ครม. สมชายก็มีการคัดค้านเรื่องนี้ จากการผลักดันของนายทรงศักดิ์ ทองศรี อดีต รมช. คมนาคม และนายโสภณ ซารัมย์ รมช.คมนาคม ในขณะนั้น ขู่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ

 

นายวิชาญ กล่าวว่า ตนมีมุมมองว่า มีการกำหนดทีโออาร์ราคารถเมล์คันละ 5 ล้านบาทมาจากต่างประเทศ แต่อาจมีการผลิตประกอบ ในประเทศ ซึ่งส่วนต่างของราคาเช่าตรงนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ในทางการเมืองหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีแนวคิดพยายามจะโยนโครงการ ดังกล่าวไปให้ กทม. นั้น ต้องย้อนถามว่า กทม. มีศักยภาพหรือไม่ เพราะจากปัญหากรณีรถและเรือดับเพลิงยังเกิดปัญหาจนถึงทุกวันนี้

 

นายพร้อมพงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 3 มิ.ย. หากรัฐบาล อนุมัติโครงการดังกล่าว พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะนำข้อเท็จจริงตีแผ่ให้สาธารณชนรับทราบ พร้อมจะรวบรวมข้อมูล เพื่อนำไป ใช้ในการยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อไป 40 ส.ว.ขู่รถเมล์ผ่านครม.เจอดี

 

ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว. สรรหา และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุง เทพฯ แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. ร่วมกันแถลงข่าวคัดค้านโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี (NGV) 4,000 คัน ที่พรรคภูมิใจไทยพยายามผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของ ค.ร.ม. ในวันที่ 3 มิ.ย. นี้ โดยนายไพบูลย์ กล่าวว่า กลุ่ม 40 ส.ว. ได้ทำการศึกษาและพบพิรุธในเรื่องนี้หลายประการโดยเฉพาะเรื่องราคาและค่าซ่อมบำรุง จึงเสนอให้ ครม. นำโครงการดังกล่าวส่งให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา ประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ศึกษาทั้งต้นทุนค่าเช่า รายจ่าย และรายรับรวมถึงปัญหาที่กระทบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการอีกครั้งเพื่อให้เกิดความรอบคอบและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

 

ด้าน น.ส.รสนา กล่าวเสริมว่า การประชุม ครม. วันที่ 3 มิ.ย. นี้ หาก ครม. อนุมัติรับรองว่าเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน ตนเชื่อว่า ส.ว. ทั้ง 150 คนไม่มีใครเห็นด้วย จึงอยากฝากถึงรัฐบาลว่าโครงการนี้ไม่โปร่งใส อีกทั้ง รมว. คมนาคมก็ทำตัวเป็นผู้ให้สัมปทานเอง เห็นได้ จากการที่สามารถลดราคาโครงการลงเองทุกวัน ครม. ต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดี อีกทั้งรัฐธรรม นูญ มาตรา 57 ที่ระบุว่าเรื่องใดที่มีผลกระทบในวงกว้างรัฐบาลต้องทำประชาพิจารณ์เรื่องนี้ เบื้องต้นพนักงานขายตั๋วต้องตกงานทันที 8,000 คน ส่งผลกระทบต่อครอบครัวรวมแล้วหลายหมื่นคน คนขึ้นรถเมล์หลายหมื่นคนก็ได้รับผลกระทบ อยากถามถ้าการจัดเก็บงบประมาณไม่เข้าเป้าใครจะรับผิดชอบ กทม.โอดบีอาร์ทีน่วมซวยด้วย

 

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์กรณีมีการระบุว่ารถเมล์ด่วนพิเศษ ชิดเกาะกลางหรือบีอาร์ทีของ กทม. ซื้อแพงกว่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ที่พรรคภูมิใจไทยเสนอเช่ารถและกำลังเป็นปัญหาระหว่างพรรคร่วม รัฐบาลว่า ได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เจ้าของโครงการเป็นผู้ชี้แจง รายละเอียดในเรื่องนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม จะมาเปรียบเทียบรถเมล์บีอาร์ทีกับรถเมล์ธรรมดาของขสมก. ไม่ได้ เพราะคนละสเปกกัน รถบีอาร์ทีออกแบบพิเศษมีรูปแบบเหมือนรถไฟฟ้า มีความปลอดภัยมากกว่าย่อมจะแพงกว่าเป็นธรรมดา

 

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบเบื้องต้นตัวรถบีอาร์ทีตกคันละ 7.5 ล้านบาทซื้อขาดทีเดียว แต่ค่าซ่อมบำรุงรักษาบีอาร์ทีคันละ 300,000 กว่าบาทต่อปี รวม 3 ปี ล้านบาท ถูกกว่าค่าบำรุงรักษารถเมล์ ขสมก. กว่าครึ่ง เรื่อง ราคารถไม่มีปัญหาอยู่แล้ว รายละเอียดต้องดู กันที่ค่าซ่อมบำรุงตนอยากตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ เรื่องราคารถบีอาร์ทีตนยืนยันว่าไม่มีปัญหาเพราะขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบการจัดซื้อรถมานานแล้วทำให้โครงการล่าช้า เมื่อตนมารับตำแหน่งและสานต่อโครงการนี้ก็พร้อมให้ตรวจสอบต่อไป เผยค่าตัวบีอาร์ทีสูงตามสเปก

 

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประชาชนเสียประโยชน์ จึงขอเดินหน้าโครงการเพื่อหารถใหม่มาเดิน ตั้งเป้าเปิดให้บริการในวันที่ 15 พ.ค. ปีหน้า ส่วนบริษัทเบส รินทร์ กรุ๊ปที่เป็นผู้ชนะการประมูลจัดหารถรายเดิมและถูกดีเอสไอตรวจสอบก็จะรอผลการสอบ หากไม่มีปัญหาอนาคตก็ค่อยผลิตรถไปเดินในสายอื่น ๆ ได้เรื่องนี้ใครจะมีปัญหาการเมืองอย่างไร หรือจะชกกันยังไงผมไม่ทราบและไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นการเมือง ไม่อยากตอบโต้ใคร เพราะทุกเรื่องชี้แจงได้ตามข้อเท็จจริง แต่ถ้ามาชกกันแบบนี้เป๋มาทาง กทม. ก็น่วมแย่ ประชาชน เสียประโยชน์

 

นายจุมพล สำเภาพล ผอ.สจส.กทม. ชี้แจงว่า กทม. ประมูลซื้อรถบีอาร์ที 45 คัน วงเงิน 387 ล้านบาท ตกคันละ 8.6 ล้านบาท แยกเป็นเฉพาะค่ารถ 7 ล้านบาท รวมแวต 7.52 ล้าน ค่าบำรุงรักษา 3 ปีรวม 1 ล้านบาท หรือ 3.07 บาทต่อ กม. ส่วนรถเมล์ ขสมก. ค่ารถ 5 ล้านบาท รวมแวต 5.3 ล้านบาท ค่าบำรุงรักษา 3 ปี 2 ล้านบาท หรือ 7.5 บาทต่อ กม. ซึ่งค่าบำรุงรักษารถบีอาร์ทีถูกกว่าเท่าตัว ส่วนรูปแบบรถบีอาร์ทีราคาสูงกว่า 2 ล้านบาท เนื่องจากได้ออกแบบเป็นการเฉพาะ ส่วนเวลาซ่อมหากเกิน 3 วัน กำหนดปรับวันละ 20,000 บาท สำหรับคันแรก และหากเสียเกินกว่า 2 คัน ต้องเสีย ค่าปรับวันละ 40,000 บาทต่อคัน และต้องหารถที่เหมือนกันมาทดแทน ส่วน ขสมก. ไม่มีอุปกรณ์เหมือนบีอาร์ทีและเสียค่าปรับวันละ 5,000 บาท พท.จี้รัฐบาลทบทวนขายข้าว

 

ที่พรรคเพื่อไทย คณะทำด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นำโดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ อดีตรมช.พาณิชย์ และตัวแทน ส.ส.ภาคต่าง ๆ ร่วมแถลงข่าวภายหลังการประชุม โดยเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนมาตรการระบายสินค้าเกษตรโดยเฉพาะเรื่องข้าว ซึ่งนายปลอดประสพ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอเสนอความเห็นต่อรัฐบาล 3 ข้อ 1.ให้กระทรวงพาณิชย์มีคำสั่งถึงโรงสีที่ให้ชะลอรับซื้อข้าวในโครงการรับจำนำทันที 2.ต้องเพิ่มโควตารับจำนำข้าวจาก 4 ล้านตันเป็น 7 ล้านตัน และ 3.ขอให้รัฐบาลเข้าไปดูแลโรงสี พ่อค้าคนกลาง ให้ความเป็นธรรมกับชาวนาในเรื่องความชื้นและสิ่งเจือปน

 

นายปลอดประสพ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เป็นคำขอร้องแกมการยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลปฏิบัติ หากไม่ดำเนินการและเป็นผลให้เกิดความไม่สงบ เรียบร้อย จะมากล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยสนับสนุนไม่ได้เด็ดขาด ส่วนด้านนายวิรุฬ กล่าวว่า ผลจากความเดือดร้อนที่โรงสี ปฏิเสธรับจำนำข้าว ส.ส. ในพื้นที่รู้สึกเป็นห่วงมาก ถ้ารัฐบาลไม่เร่งแก้ ก็จะเกิดความเดือดร้อน ชาวนาก็คงเข้ามา กทม. เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ดูแลเกษตรกร สำหรับการประมูลข้าวว่าที่ราคาต้นทุน ราคาตลาดสูงกว่าราคาประมูลข้าวต ันละ 3-4 บาท ตนอยากให้รัฐบาลวินิจฉัย การเสนอขายข้าวใหม่ เพราะหลายเรื่องมีความไม่ชัดเจน จึงให้โอกาสรัฐบาลทำให้ถูกต้อง สับพท.โร่ขอทุนเลือกตั้งซ่อม

 

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค แถลงถึงการที่พรรคเพื่อไทยทำนายรัฐบาลจะอยู่ได้ไม่เกินเดือน มิ.ย.-ก.ค. ว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยทำนายอายุรัฐบาลผิดตลอด ตนเห็นว่าความเปลี่ยน แปลงรัฐบาลมีอยู่ 2 เรื่องตามที่นายกฯ พูดไว้ คือ เรื่องความแตกแยกและการทุจริต แต่จะ เห็นได้ว่ารัฐบาลชุดนี้บริหารราชการแผ่นดินมา 5 เดือน ไม่มีโครงการใดเลยที่พูดถึงการทุจริต จะมีก็คือโครงการในอนาคตที่กำลังทำอยู่ ซึ่ง โครงการที่ร้ณะนี้คือโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ซึ่งรัฐบาลเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ตรวจสอบแล้ว ดังนั้นคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือประชาชน และจะนำเหตุผลทั้งหมดไปตัดสินใจ

 

นายเทพไท กล่าวด้วยว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยฝันว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ก็จะทำให้กระแสสังคมกดดันให้รัฐบาลยุบสภา และฝันว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองตัวเอง ก็อาจจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง แต่ขณะนี้ทั้งประชาชน นักธุรกิจ และนักการเมืองไม่มีความพร้อมให้มีการเลือกตั้งใหม่ อยากถามว่าวันนี้พรรค เพื่อไทยพร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งหรือไม่ วันนี้หัวหน้าพรรคอยู่ที่ไหน การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกล นคร และที่ จ.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยมีเจ้าภาพ แล้วหรือยัง ตนเกรงว่าการเลือกตั้งจะนำไปสู่การที่พวกขอทานขาดทุนต้องเดินทางไปดูไบอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาแหล่งเงินมาใช้ในการเลือกตั้งซ่อม ชุมพลโต้ขึ้นบัญชีดำ 12 ส.ส.

 

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชุมพล กาญจนะ ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงยืนยันว่า ไม่มีการขึ้นบัญชีดำ ส.ส. 12 คน ที่อยู่ในกลุ่มของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รอง หัวหน้าและ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ อย่างที่เป็น ข่าว เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความเข้าใจผิด โดยตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายเฉลิมชัย และนาย อภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี รวมถึง ส.ส. คนอื่น ๆ แล้ว ทุกคนพูดตรงกันว่า ไม่มีแนวคิดที่จะออกจากพรรคหรือทำอะไรให้พรรคเสียหาย

 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำ ปชป. เดินทางไปพบนายสุเทพ นายชุมพล กล่าวว่า คงเป็นเพราะนายไตรรงค์มีความเป็นห่วงเท่านั้น ไม่ได้แปลว่าเรื่องดังกล่าวลุกลามใหญ่โตอะไร ส่วนกรณีที่นายไตรรงค์บอก ว่าที่ผ่านมานายเฉลิมชัยมีคนนำเงินมาให้ 100 ล้านบาทยังไม่ยอมย้ายพรรค นายชุมพล กล่าวว่า ไม่น่าจะจริง ตนไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ตนกับนายเฉลิมชัยคุยกันตลอดนายเฉลิมชัยยืนยันว่าการย้ายพรรคไม่เคยมีอยู่ในหัว เรื่องนี้ไม่มีหรอกครับไม่เคยมีการเรียกร้องต่อรองตำแหน่ง ใด ๆ ในพรรคแม้แต่ครั้งเดียว เฉลิมชัยเชื่อผู้ใหญ่เข้าใจแล้ว

 

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการย้ายพรรค และการถูกขึ้นแบล็ก ลิสต์จากผู้ใหญ่ในพรรคว่า เรื่องทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นไม่มีอะไรเลย คำว่าย้ายพรรคในวันนี้ยังไม่มีอยู่ในหัวสมองเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ถ้าตนไปต่อรองตำแหน่งให้เลิกเล่นการเมืองจะดีกว่า ส่วนตัวคิดว่าผู้ใหญ่ในพรรคเข้าใจเพราะทุกคนรู้จักตนดี และที่ผ่านมาได้พูดคุยกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้เรียนข้อเท็จจริงให้ทราบทั้งหมด ซึ่งนายชวนก็เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร

 

เมื่อถามต่อว่า นายไตรรงค์ซึ่งเคยดูแลพื้นที่ภาคกลางมาก่อน ระบุว่า นายวิรัช ปิยะพรไพบูลย์ พี่ชายนายเฉลิมชัยได้ประสานเพื่อขอเข้าชี้แจงกับนายสุเทพ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า คง ไม่ใช่อย่างนั้น ข้อเท็จจริงพี่ชายของตนสนิทกับนายไตรรงค์ ก็คงเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ให้นายไตรรงค์ทราบ และก็เชื่อว่านายสุเทพ ก็คงเข้าใจตนเช่นเดียวกับนายกฯ จึงไม่ได้คุยกันเพราะคิดว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ภท.ไม่เขียมยกก๊วนทัวร์นอก

 

นายชวรัตน์ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการจัดสัมมนา ส.ส. พรรคที่ประเทศออสเตรียในปลายเดือนนี้เช่นเดียวกับคณะกรรมาธิการ 35 คณะ ที่จะเดิน ทางไปดูงานต่างประเทศจนทำให้มีการท้วงติงถึงความเหมาะสมว่า การเดินทางไปสัมมนาของภท. นั้น ส.ส. ใช้เงินส่วนตัวออกค่าเดินทางเอง ส่วนเรื่องที่พักนั้นทางพรรคเป็นคนจัดการ เมื่อถามว่า จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อประชาชนหรือไม่ เพราะรัฐบาลรณรงค์ให้ประหยัดและท่องเที่ยวในประเทศ นายชวรัตน์ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า เราก็สนใจปัญหาเรื่องปากเรื่องท้อง แต่เงินสัมมนามันก็เป็นเงินของ ส.ส. ออกเองพรรคไม่ได้ออกให้ เอาไปเปิดหูเปิดตาต่างประเทศคงไม่เป็นไร

 

มีรายงานว่า ในวันพฤหัสบดี ที่ 4 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ นายศุภชัย โพธิ์สุ ได้ถือฤกษ์ เวลา 07.09 น. เข้ามาทำงานที่กระทรวงเกษตรในตำแหน่ง รมช. วันแรก โดยจะมีการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง อันได้แก่ ศาลพระภูมิชัยมงคล ศาลเวสสุวรรณ พระพิรุณและศาลตายายและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำห้องทำงาน ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายศุภชัยได้สั่งให้ทีมงานพาซินแสหลิว ที่เคยจัดฮวงจุ้ยห้องทำงานให้กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. คนปัจจุบัน เป็นคนดูฮวงจุ้ยห้องทำงานใหม่ทั้งหมด อาเซียน+เกาหลีพร้อมพัฒนา

 

ที่เกาะเจจู ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในฐานะประธานอาเซียน ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับนายอีมยอง บัก ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี โดยมีสาระสำคัญว่า อาเซียน มีความยินดีที่สาธารณรัฐเกาหลียืนยันความร่วมมือและพร้อมพัฒนาความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ กับประเทศอาเซียน ทั้งนี้ ในตอนท้ายนายกฯ ของไทย ได้กล่าวแสดงความขอบคุณรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีและประชาชนสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น พร้อมทั้งหวังว่า ก้าวต่อไปของความร่วมมือ ระหว่างกันจะสดใสและมีพลังขับเคลื่อนต่อไป ประเทศไทยยินดีต้อนรับผู้นำอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีในการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 12 ในเดือน ต.ค. นี้

 

นอกจากนี้ ยังมีพิธีลงนามความตกลงและแถลงการณ์ร่วมกัน โดยผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนและสาธ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook