เฒ่าวัย 82 ปี สุดช้ำ-วอนตำรวจจับแก๊งคนร้ายตุ๋นเงินแสน หลอกติดต่อซื้อที่ดิน
เฒ่าวัย 82 ปี สุดช้ำใจ แก๊งต้มตุ๋นหลอกเงินแสน หลังใช้อุบายติดต่อซื้อที่่ดิน ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านเผย พลเมืองดีถ่ายรูปรถต้องสงสัยชัดเจน วอนตำรวจตามจับหลังเกิดเหตุหลายครั้งในพื้นที่
(28 ก.พ. 62) ที่จังหวัดอ่างทอง ผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านของ นายสวิด อายุ 82 ปี หลังได้รับแจ้งว่า มีแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวง ทำทีเป็นนายหน้าติดต่อซื้อที่ดิน
โดยหลอก นายสวิด ไปถอนเงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาย่อย อ.ไชโย ไป 1 แสนบาท ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเย็นวานที่ผ่านมา โดยมีพลเมืองดี สามารถถ่ายภาพทะเบียนรถคันที่ก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน
นายสวิด เล่าให้ฟังว่า ตนเองอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับ นางบุญทรง อายุ 82 ปี ภรรยาเพียงสองคน ซึ่งเมื่อวานช่วงบ่ายมีชายฉกรรจ์ขับรถเก๋งมากับหญิงสาวอีก 2 คน เข้ามาที่บ้าน ทำทีพูดคุยหว่านล้อมจนทำให้เชื่อว่าเป็นคนรู้จัก
ก่อนที่จะสอบถามว่ารู้จัก นายสมพร ที่อยู่แถววัดโกรกกราก ซึ่งไม่ห่างจากบ้านหรือไม่ เพราะทราบว่า นายสมพร จะขายที่ ก่อนที่จะชักชวนขับรถไปที่บริเวณหน้าวัด
โดยลงไปบริเวณร้านก๋วยเตี๋ยว แล้วกลับมาบอกตนว่า เจอแล้วนัดคุยกันเพื่อติดต่อซื้อที่จำนวน 24 ไร่ ซึ่งมีเจ้าของโรงสีให้หาให้ และชักชวนตนไปพูดคุยกันที่ศาลาริมทาง ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะพยายามหลอกล่อ โดยบอกว่านัดคุยกับเจ๊เจ้าของโรงสี
และเมื่อพูดตกลงกันหนึ่งในคนร้ายที่อ้างตัวเป็นเจ้าของโรงสีนำเงินมอบให้กับชายคนที่ขับรถพาตนมาจำนวน 3 แสนบาท โดยบอกว่า เป็นเงินมัดจำและรีบขับรถออกไปโดยบอกว่าจะไปธุระ
ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะหลอกล่อให้ตนร่วมนำเงินมาวางมัดจำ โดยบอกว่า หลังขายเสร็จจะได้เงินส่วนแบ่ง ซึ่งตนเองก็บอกว่าจะต้องบอกภรรยาของตน แต่ชายคนดังกล่าวก็บอกว่า ให้บอกทีเดียวเลย ตนหลงเชื่อจึงนำบัญชีธนาคารจากบ้านมาถอนเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่งจำนวน 1 แสนบาท
โดยก่อนที่จะเข้ายังธนาคาร ทั้งหมดที่นั่งมาในรถบอกว่า จะนำรถไปเติมนำมันให้ตนไปถอนเงินเลย เมื่อถอนเสร็จทั้งหมดก็พาตนมายังบ้านและบอกว่าให้มาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปหาเจ้าของโรงสี
ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกตะหงิดในใจว่า ถูกหลอกหรือเปล่า แต่ก็รีบลงมาเปลี่ยนเสื้อผ้า และรับวิ่งออกไปปรากฎว่า ทั้งหมดหลบหนีออกจากบ้านตนไปแล้ว ตนจึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านและญาติๆ ก่อนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ผู้สูงอายุหลายรายที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวต่างเดินทางมาจับกลุ่มพูดคุยกันและบอกว่า ที่ผ่านมามีมิจฉาชีพมาในลักษณะต่างๆ บ่อยครั้งมาก ซึ่งทำให้รู้สึกหวาดกลัว และต้องมีคนมาอยู่เป็นเพื่อนไม่อยากอยู่ลำลัง เพราะกลัวจะเกิดเหตุร้าย จริงๆ
ด้าน นางสาวณัฐสินี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ชัยฤทธิ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มคนดังกล่าวพยายามไปหลอกล่อผู้สูงอายุอีกที่หนึ่งแล้วแต่ไม่สำเร็จ ก่อนที่จะมาหลอก นายสวิด จนได้เงินไป
แต่หลังเกิดเหตุ มีชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนี้เห็นรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอซ์นเงิน ทะเบียน กทม. ซึ่งเป็นรถที่คนร้ายพา นายสวิด นั่งวนไปมาระหว่างก่อเหตุจึงถ่ายรูปรถไว้
ซึ่งทางเราได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว รวมถึงอยากจะให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดี เพราะส่วนใหญ่บริเวณนี้จะมีแต่ผู้สูงอายุอยู่บ้านกันเพียงลำพัง
และในพื้นที่อำเภอไชโย มีเหตุการณณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้เลย จึงอยากให้ช่วยสืบสวนหาตัวคนร้าย เพราะตอนนี้ชาวบ้านเริ่มหวาดผวากันแล้ว
ด้าน ร.ต.อ.ชัยมงคล เหมือนสนธิ์ ร้อยเวร สภ.ไชโย เปิดเผยว่า คนร้ายกลุ่มดังกล่าวก่อเหตุในพื้นที่แล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะคดีของตนเองก็ 2 คดี แล้ว เบื้องต้นได้ประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามคนร้ายแก๊งนี้มาดำเนินคดีแล้ว
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ