"ชาย เมืองสิงห์" เผยวันที่ล้มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ต้องนั่งรถเข็นร้องเพลง

"ชาย เมืองสิงห์" เผยวันที่ล้มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ต้องนั่งรถเข็นร้องเพลง

"ชาย เมืองสิงห์" เผยวันที่ล้มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ต้องนั่งรถเข็นร้องเพลง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นนักร้องในตำนานที่อยู่ในความทรงจำของแฟนๆ หลายๆ คนสำหรับ ชาย เมืองสิงห์ ที่ตอนนี้ถึงแม้อาจจะอายุเยอะแล้วแต่ก็ยังออกงานให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกันอยู่บ่อยๆ ล่าสุด ชาย เมืองสิงห์ ได้มาเปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ นุ้ย สุจิรา เป็นพิธีกร 

ตอนนี้สุขภาพเป็นยังไงบ้าง?

อาชาย : "ปกติไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะว่ามะเร็งไม่มี เบาหวานไม่มี ความดันก็ขึ้นๆ ลงๆ วันไหนที่ไปหน้าเวทีแฟนเพลงให้มาลัยเยอะๆ ความดันมันก็ลดลง (หัวเราะ)"

มีรายได้มาจากงานเพลงก็เยอะ ทำไมถึงยังมีหนี้สิน?

อาชาย : "เมื่อก่อนนี้สมัยเข้าวงการแรกๆ ค่าตัวจะไม่เกิน 30 บาทต่องานนะ แล้วก็ผ่านมา มีเพลงดังช่วงปี 2505-2511 ค่าตัวจะขึ้นมาอยู่ที่ 80 บาท แต่ก็มีค่าตัว 300 บาท อันนี้งานอยู่เชียงใหม่นะ ไกลเหลือเกิน เรียกว่าค่าตัวน้อยมาก แล้วก็ค่อยไต่ระดับไปเรื่อยๆ" 

เห็นว่านักร้องดังสมัยก่อนห้ามมีแฟนจริงหรือเปล่า?

อาชาย : "ใช่ แม้กระทั่งใครที่เป็นผัวเมียกันแล้ว เวลาไปเดินสายเนี่ย ยังต้องแยกห้องนอนกันเลย แล้วก็จะนั่งรวมกันไม่ได้ ถ้าเกิดว่ามีคนรู้คะแนนมันก็จะตก ต้องรองานเลิกแล้วค่อยไปแอบกันทีหลัง มันจะไม่เหมือนกับสมัยนี้ สมัยก่อนมันจะมีรถบัสคนละคัน แล้วก็จะมีชื่อติด คนก็จะตามไปดู จะไม่มีแบบที่กรี๊ดแบบสมัยนี้นะ จะมีมานั่งดู แล้วก็เอามาลัยมามอบแค่นั้นเอง คนดูเขาก็จะมากับพ่อกับแม่บ้างอะไรแบบนี้ ถ้าเกิดว่านักร้องจะไปทำเจ้าชู้หรือไอ้นู่นไอ้นี่ ไม่ได้เลยนะ ถ้าเกิดว่าเขาชอบเราเขาก็จะมีจดหมายมา แล้วนักร้องก็เขียนตอบไป"

การได้รางวัลศิลปินแห่งชาติ ภูมิใจขนาดไหน?

อาชาย : "นึกไม่ถึงแล้วก็ไม่เคยคิดมาก่อนด้วย เพราะว่ารางวัลอย่างอื่น อาไม่เคยได้เลย คือมันต้องส่งไป แล้วเพลงของอาคือเขาแยกประเภทไม่ถูก มันมีทั้งไทย มีทั้งสากล ปนกันไปหมด เอาอย่างละนิดอย่างละหน่อยมารวมกัน เลยกลายเป็นเพลงที่ไม่รู้ว่าจะสไตล์ไหน" 

มาป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบได้ยังไง?

อาชาย : "คือไปทำงานในต่างประเทศ เรียกว่าทำงานหนัก ก็อาจจะมีส่วนบ้าง เพราะว่าอากาศที่โน่นค่อนข้างต่างกับบ้านเรา แล้วก็เดินทางไปมาบ่อยๆ อีกส่วนหนึ่งก็มาจากการดื่ม แล้วการสูบบุหรี่ อันนี้คือสูบมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนที่อยู่บ้านนอก ส่วนเรื่องการดื่มเหล้าสมัยเด็กๆ ไม่ค่อยได้ดื่มหรอก แต่มันมีช่วงเดินสายทำวงอันนี้ก็มีดื่มบ้าง เพราะครอบครัวมีปัญหา พ่อก็เป็นมะเร็งเสียชีวิตด้วยอะไรด้วย" 

อยากให้เล่าวินาทีที่ล้มป่วยให้ฟังหน่อย วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?

อาชาย : "วันนั้นก็วิ่งงานหลายงานอยู่เหมือนกัน จนมาจบที่งานของ สรพงษ์ ชาตรี ตอนนั้นมันเหนื่อยมาก เราก็ร้องเพลงเสร็จแล้วก็นั่งธรรมดาๆ เลย วันนั้นสนุกกับเพลง "เมียพี่มีชู้" นี่แหละ เรียกว่าเราก็สนุกเกือบตกเวทีเหมือนกัน เสร็จงานก็ไม่มีอาการอะไรนะ ก็ขึ้นรถตู้นั่งรถกลับบ้าน ระหว่างทางก็หลับเพราะว่าเหนื่อยมาก จนมาถึงบ้าน ตื่นก็ตกใจทำไมร่างกายซีกซ้ายไม่มีความรู้สึก แต่ก็ไม่ได้ไปโรงพยาบาล มาคิดได้ตอนหลังว่าถ้าไปโรงพยาบาลตั้งแต่ตอนนั้นก็คงจะไม่หนักขนาดนี้" 

แล้วตอนนั้นพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?

อาชาย : "ก็ตกใจนะ คือตั้งแต่อยู่มาไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลย เพราะว่าอาเป็นทหารเสนารักษ์ ค่ายลพบุรีมาก่อน แต่พอมาเกิดกับตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าโรคอะไร อย่างมากที่เราจะเป็นก็คือต่อมทอนซิลอักเสบ หรือเสียงแห้งแค่นี้"

ถึงขนาดต้องนั่งรถเข็นเลย ผ่านมานานหรือยัง?

อาชาย : "ผ่านมา 10 ปีกับอีก 1 เดือนแล้ว ตั้งแต่ปี 2552 จริงๆ ที่เราจำได้แม่น ไม่ใช่เป็นคนช่างจำนะ แต่เป็นคนช่างจดด้วย เวลาอยู่บ้านก็ไม่ได้ทำอะไร มีสมุดก็เขียนไปเรื่อยๆ" 

จากที่มีชื่อเสียงโด่งดัง วันหนึ่งต้องมาป่วยแล้วเดินไม่ได้ รู้สึกยังไงบ้าง?

อาชาย : "จริงๆ อาเป็นคนลูกบ้าเยอะนะเวลาอยู่หน้าเวที เคยสนุกสนาน ได้เต้นด้วยอะไรด้วย พอมาอย่างนี้ เราก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน แต่บางทีก็อดไม่ได้นะ ลุกขึ้นมา แฟนเพลงเขาก็เป็นห่วงว่าเราจะล้มเหมือนกัน" 

อยากจะฝากอะไรถึงคนที่ดื่ม หรือสูบบุหรี่ ไม่ดูแลตัวเองบ้าง?

อาชาย : "สมัยนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ มันสารพัดโรคแล้ว บุหรี่มันเป็นสิ่งไม่ดี ถ้าเลิกได้ก็เลิกซะ นักร้องถ้าเลิกได้ เสียงร้องก็จะดีขึ้นด้วย"  

ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บ Show รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ "ชาย เมืองสิงห์" เผยวันที่ล้มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ต้องนั่งรถเข็นร้องเพลง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook