“โบว์ แวนดา” จุกจนพูดไม่ออก “น้องมะลิ” เห็นครอบครัวอื่นพร้อมหน้า “แต่ทำไมหนูไม่มีพ่อ”
เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า จุกจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว สำหรับ โบว์-แวนดา สหวงษ์ ที่พักหลังมานี้ น้องมะลิ ได้ถามถึงคุณพ่อผู้ล่วงลับ ปอ ทฤษฎี บ่อยเหลือเกินว่าหายไปไหน ทำไมไม่กลับมาเสียที โดยล่าสุดเจ้าตัวก็ได้อัดคลิปทันในช่วงที่ลูกสาวพูดขึ้นมาว่า “ทำไมหนูไม่มีพ่อ” ทำเอาคนที่ได้ยินต่างสะเทือนใจไปตามๆ กัน
งานนี้ โบว์ แวนดา ได้เผยให้ฟังว่า อาจเป็นเพราะน้องมะลิได้ไปอยู่กับครอบครัวของน้องชาย ปอ ทฤษฎี ที่มีกันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่ ลูก ทำให้เขาเกิดความสงสัย จึงถามหาพ่อตลอดแทบทุกวัน โดยเธอเองมองว่า อีกไม่กี่เดือนก็จะตัดสินใจบอกเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ลูกรับรู้ พร้อมเชื่อน้องมะลิจะผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดี
เห็นคลิปล่าสุดที่มะลิถามถึงพ่อ หลายคนเห็นก็สะเทือนใจ ?
"ช่วงนี้ถามทุกวันค่ะ วันนั้นที่โบว์อัดคลิปที่เขาพูด คือกำลังสตาร์ทรถไปส่งเขาที่โรงเรียน เขาก็บ่นข้างหลังอยู่คนเดียว โบว์ก็ถามว่ามะลิพูดอะไร พอเขาเริ่มพูด โบว์เลยหยิบโทรศัพท์มาแอบถ่ายเขา เขาก็บอกว่า ‘ทำไมหนูไม่มีพ่อ’ คือเขาเพิ่งกลับมาจากบุรีรัมย์ แล้วก็ไปอยู่กับครอบครัวของน้องชายพี่ปอ เขาก็จะซึมซับอยู่กันทุกวัน ด้วยความสงสัยของเด็ก เขาก็บอกว่าหนูอยากเป็นแบบปลาวาฬที่มีอาป๊อบกับอาเบนซ์ นั่งรถไปก็มีอาป๊อบขับรถ มีอาเบนซ์นั่งข้างหน้า ปลาวาฬนั่งข้างหลัง หนูก็อยากให้พ่อมาขับรถคันนี้ แล้วให้แม่นั่งข้างๆ แล้วหนูก็อยู่ข้างหลัง แล้วเราก็ขับไปเที่ยวกัน เราก็บอกว่าหนูก็มี แต่หนูยังเจอพ่อไม่ได้ ตอนนั้นเราก็จุก เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับลูก แล้วเขาก็บอกว่าหนูอยากให้พ่อกลับมาจริงๆ แล้ว ก็คิดว่าอีก 1-2 เดือนโบว์จะบอกแล้วค่ะ จริงๆ โบว์กะว่าจะรอให้เขาสัก 6 ขวบ แต่โบว์ว่าไม่เอาดีกว่า อยากให้เขาได้ซึมซับกับการเรียนรู้ความจริงตั้งแต่เด็ก เพราะโตไปมากกว่านี้ก็กลัวว่าเขาโตแล้วก็เริ่มรับรู้ความรู้สึกทุกอย่าง แล้วพอรู้จริงๆ เขาจะเสียใจหนักมากกว่านี้"
วางแผนที่จะสื่อสารกับน้องยังไง ?
"ก็พยายามบอกเขาก่อนว่าพ่อหนูเป็นใคร คุณพ่อทำอะไรไว้บ้าง และวินาทีสุดท้ายเราก็ยังได้อยู่กับคุณพ่อ โบว์ว่ามนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ต้องเรียนรู้อะไรแบบนี้กับความรู้สึกสูญเสีย แต่อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วแค่นั้น โบว์มองข้ามสเต็ปไปค่ะ คือมะลิน่ะเสียใจอยู่แล้ว แต่สิ่งที่โบว์ให้ความสำคัญก็คือหลังจากที่มะลิเสียใจ โบว์ต้องทำยังไงกับลูกบ้าง จะทำให้ลูกหายเสียใจยังไง ทุกวันนี้โบว์ก็จะพยายามบอกลูกว่าถ้าคุณพ่อไม่อยู่ แล้วคิดถึงพ่อก็ให้ยิ้ม อย่าหัวเราะ เพราะถ้าหนูหัวเราะพ่อก็จะรู้สึกไม่ดี แล้วคุณพ่อก็สอนให้แม่ยิ้มตลอด คือไม่อยากให้เขาเสียใจ แต่โบว์มั่นใจว่าด้วยความเป็นมะลิทุกวันนี้ โบว์มั่นใจว่าเขารับได้และเขาต้องผ่านได้ค่ะ"
ถามถึงซีรีส์คลับฟรายเดย์ คิดนานไหมกว่าจะตัดสินใจเล่นละครเรื่องแรก ?
"ตัดสินใจไม่นานค่ะ พอเห็นบทละครก็รับเลย แต่ที่คิดนานและหนักใจก็คือตัวเองจะทำได้ไหม แค่นั้นเอง (ยิ้ม)"
ได้เข้าฉากหรือยัง ?
"ยังๆ เพิ่งมาเจอพี่เอส พี่ฉอดวันนี้ค่ะ กับนักแสดงทุกๆ ท่านก็ตื่นเต้น (ยิ้ม)"
ต้องกลับไปเตรียมพร้อมขนาดไหน ?
"ไม่รู้เลย รู้แต่ว่าพกความมั่นใจกับความพยายามแค่นั้นค่ะ"
บทใกล้ตัวหรือไกลตัวขนาดไหน ?
"ไกลตัว และหนักหน่วงมากเลย (หัวเราะ) มาก็โดนทั้งข่มขืนเอยอะไรเอย (หัวเราะ) คือติดเชื้อเอชไอวีด้วย และโดนเพื่อนร่วมงานทำมิดีมิร้ายด้วย ส่วนใหญ่ก็เศร้าหมด ก็จะพยายามค่ะ"
หนักใจเรื่องร้องไห้ไหม ?
"เอาจริงๆ ถ้าประเมินตัวเองนะคะ ร้องไห้ดีกว่าหัวเราะ (หัวเราะ) เพราะโบว์ว่าร้องไห้ดีกว่าหัวเราะนะ โบว์คิดว่านะ"
ต้องเข้าครอสเรียนการแสดงไหม ?
"เดี๋ยวจะเริ่มเรียนนี่แหละค่ะ พี่ฉอดกับพี่เอสก็มั่นใจว่าเราทำได้ ทั้งๆ ที่ตัวเรายังไม่มีความมั่นใจในตัวเอง แต่ว่าคนอื่นมั่นใจว่าเราทำได้ เราก็ต้องทำให้ได้"
คนรอบข้างว่ายังไง ?
"จะกลับไปบอกนี่แหละค่ะ ไม่เคยบอกคนรอบข้างเลย ก็ตื่นเต้น กลัวบอกไปแล้วเขาเปลี่ยนตัวขึ้นมาเดี๋ยวหน้าแตก ก็เดี๋ยววันนี้จะกลับไปบอกทุกคนค่ะว่าจะได้เล่นซีรีส์คลับฟรายเดย์ เพราะเป็นซีรีส์ที่เราติดตามมาตั้งแต่แรก และพอวันหนึ่งเราได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในซีรีส์ที่เราชอบดู ก็ดีใจมาก (ยิ้ม)"
ถ้าติดใจจะรับยาวเลยไหม ?
"หูย ต้องดูก่อนค่ะ (หัวเราะ) เหมือนตอนนี้เราก้าวขาไปข้างหนึ่ง พอเราได้เรียนรู้ในสิ่งที่เรากลัว แต่เราก็อยากทำ ก็มุ่งมั่นตั้งใจ แต่ผลที่ออกมามันจะโดนคำติชมหรือว่าโดนคำด่า หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องประเมินตัวเองว่าเราได้ไหม ถ้าไม่ได้เราก็ชักขากลับมาอยู่จุดเดิมของเราค่ะ แต่ถ้าเราได้ก็พร้อมที่จะเดินต่อไปได้"
ถ้ามาเล่นละคร การดูแลมะลิต้องปรับยังไงบ้าง ?
"จริงๆ น้องก็โชคดีที่ในหมู่บ้านเราช่วยกันดูแลน้อง วันไหนที่โบว์ไปทำงานก็จะมีพี่ปู พี่ยุ และคนระแวกนั้นช่วยดูแลอยู่แล้ว แต่ถ้าช่วงไหนมีงานหนักๆ ก็จะเป็นคุณปู่คุณย่าลงมาดู หรือปิดเทอมมะลิก็จะไปอยู่บุรีรัมย์เลย"
พร้อมจะรับเสียงวิจารณ์ขนาดไหน ?
"จริงๆ ที่ผ่านมามันก็มีหนักมากมาแล้ว (หัวเราะ) ก็พอจะทำให้เราเข้มแข็งมากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนฟีลตรงที่ว่า วิจารณ์ในเรื่องของผลงาน ก็ต้องยอมรับให้ได้ค่ะ ถ้าเราคิดว่าเราจะเล่นเราก็ต้องยอมรับทั้งคำติชมและหลายๆ อย่าง เพราะโบว์เชื่อว่าคำติชมจะเป็นการบ้านให้เราได้ทำ ได้ตอบโจทย์ แต่เรื่องคำด่า เราก็ปล่อยผ่าน เราไม่สนใจคำด่า"
ตอนรับรู้สึกยังไงที่ต้องเล่นประกบ โอม อัชชา ด้วย ?
"ตอนรับก็คิดว่าจะให้ไปเป็นแม่หรืออะไร เพราะไม่คิดเลยว่าอายุใกล้จะ 40 แล้วจะได้มาเป็นนักแสดงนำในเรื่อง เพราะพี่ปูบอกว่าไม่นะแม่ ได้เล่นกับคุณโอม เราก็บอกว่าจริงเหรอ ก็รีบดูบทเลย คือไม่น่าเชื่อ ก็รับเลยค่ะ (ยิ้ม)"
ได้บอกปอไหม ?
"พอรับโทรศัพท์เสร็จก็เดินไปที่รูปพี่ปอเลย แล้วก็บอกว่า ปอ โบว์จะทำให้ได้ โอกาสมาในชีวิตแล้ว ก็จะพยายามทำทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิตให้เต็มที่ที่สุด เพราะว่าพอไม่มีพี่ปอ ชีวิตโบว์ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง อะไรที่มาแบบไม่คาดฝัน เราก็ผ่านมันมาได้แล้ว และนี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราจะผ่านให้ได้ ด้วยความตั้งใจและความพยายามของเรา"
ตอนพี่ปออยู่เขาเคยเล่าถึงเทคนิคในการแสดงให้ฟังไหม ?
"ไม่เคยเลย (ยิ้ม) พอกลับบ้านจะไม่พูดถึงเรื่องการทำงาน เราก็จะอยู่ในโหมดแม่บ้าน ก็คือให้เขาหายเหนื่อย เราจะไม่พูดว่าเขาทำอะไรยังไงมาบ้าง เขาก็ไม่ได้มาเล่าอะไร"
ฝากผลงานหน่อย ?
"ก็ฝากผลงานการแสดงของโบว์เรื่องแรกด้วยนะคะ อาจจะติดขัดไม่ถูกใจก็ติชมกันได้เลย แต่ก็จะพยายามเล่นให้เต็มที่ที่สุดค่ะ"
>>"แม่โบว์" จุกในอกหลังได้ยิน "น้องมะลิ" บอกอยากให้พ่อกลับมาบ้านแล้ว (มีคลิป)
>>ครบรอบ 3 ปี “ปอ ทฤษฎี” โบว์-มะลิ พร้อมแฟนคลับร่วมทำบุญระลึกถึงพระเอกดัง
>>กดไลค์รัวๆ "น้องมะลิ" โชว์เต้นคัฟเวอร์เพลง Swalla เป๊ะทุกสเต็ปจริงๆ (มีคลิป)
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ