มาเลย์ลั่นสอบเจ้าชายโหดชายา

สำนักข่าวซีเอ็นเอ แชนแนลนิวส์เอเชีย รายงานจากมาเลเซีย เมื่อ 3 มิ.ย. ว่า สำนักวังกลันตันออกแถลงการณ์ขอให้สื่อมวลชนเคารพสิทธิส่วนบุคคลของราชวงศ์ และอย่าด่วนตัดสินใจเต้นไปตามเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น กรณีนางมาโนฮารา โอเดเลีย พีโนต์ วัย 17 ปี ชายาเจ้าชายแห่งรัฐกลันตัน เต็งกู เตเมงกง มูฮัมหมัด ฟากฮรี ชันษา 31 ปี อ้างว่า หนีจากกลันตันกลับบ้าน เพราะถูกเจ้าชายทำร้ายทารุณ

ด้านนายนัซรี อาซิส รมว.สำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงว่า ถ้านางมาโนฮาราจะยื่นเรื่องฟ้องร้องเอาผิดกับเจ้าชาย ฐานทำร้ายร่างกายและข่มขืน ตามคำกล่าวอ้าง ทางการมาเลเซียก็พร้อมเปิดการสอบสวน เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และไม่มีเจตนาปิดข่าว เรื่องราวตามรายงานข่าวถือเป็นคดีอาญาแผ่นดินที่ต้องดำเนินคดีต่อไป

ขณะเดียวกัน นายมูฮัมหมัด ซาเบรี นักธุรกิจมาเลเซียและพระสหายคนสนิทของเจ้าชายฟากฮรี ยืนยันเช่นเดิมว่า เจ้าชายและราชวงศ์กลันตันเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่เคยลงมือลงไม้ทำร้ายนางมาโนฮารา แต่เชื่อว่านางเดซี ฟาจารินา มารดานางมาโนฮารา ซึ่งเป็นพวกบ้าวัตถุ เข้ามาบงการชีวิตคู่ของลูกจนปั่นป่วนยุ่งเหยิงไปหมด และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ชอบเรียกร้องบ้าน รถยนต์ ฯลฯ อีกมากมาย ตนไม่อยากเล่าลงลึกในรายละเอียด แต่ขอเรียกร้องให้นางมาโนฮาราออกมาพูดความจริง ลบล้างความเสียหายที่เกิดขึ้นกับราชวงศ์กลันตัน ถ้ายอมขอโทษ เจ้าชายฟากฮรีจะทรงรับกลับมาอยู่เหมือนเดิม พระองค์จะไม่หนีไปไหน พร้อมพิสูจน์ความจริงจนถึงที่สุด เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะทรงก่อเรื่องโหดร้ายผิดมนุษย์ เพราะใครๆ ก็รู้ว่าพระองค์รักชายาคนนี้มาก

ด้านเว็บไซต์เดอะนิวเปเปอร์ สิงคโปร์ รายงานว่า น.ส.เทวี ซารี อาซิห์ พี่สาวของมาโนฮารา กล่าวว่า ต้องขอบคุณบุคคล 3 คนที่เป็นฮีโร่ช่วยเหลือน้องหลบหนีจากเจ้าชายมาได้ คนแรกเป็นผู้หวังดีในวังกลันตัน ตามด้วยคนขับแท็กซี่สิงคโปร์ที่แนะนำให้รีบแจ้งตำรวจ รวมถึงสตรีชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นแขกของโรงแรมรอยัลพลาซ่า โรงแรมแห่งเดียวกับที่นางมาโนฮาราเข้าพัก