สลด! ลูกหนี้ปีนเสาไฟให้เจ้าหนี้ ร่างตกพื้นอัมพาต เจ้าหนี้ขอจ่ายแต่หักหนี้ที่ค้างด้วย
ป้าขอนแก่นร้องแทนหลานชาย หลังปีนเสาไฟให้นายทุนเงินกู้ พลาดตกจนตัวเองป่วยอัมพาต
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางถนอม อายุ 59 ปี อาชีพแม่บ้าน ว่าเกิดเหตุนายพิชัยยุทธ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของตนเองนั้นพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู ของ รพ.แห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น มาเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว โดยแพทย์ที่ทำการรักษาลงความเห็นแล้วว่าผู้ป่วยกลายเป็นอัมพาตแล้ว และไม่ได้รับการช่วยเหลือจากผู้ที่รับผิดชอบแต่อย่างใด
นางถนอม กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา นายพิชัยยุทธ ได้รับการร้องขอจากนายทุนเงินกู้รายใหญ่ที่เป็นคนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ให้ช่วยไปต่อสายไฟฟ้า เพื่อลากสายไฟจากหมู่บ้านเข้าไปที่นาของนายทุนรายดังกล่าว โดยที่เสาไฟฟ้าเดิมเป็นเสาไม้สูงประมาณ 4-5 เมตร แต่นายทุนรายดังกล่าว ต้องการนำเสาเหล็กขึ้นไปต่อยอดของเสาไม้ให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งหลายชายก็ได้ปฏิเสธ เพราะไม่เคยปีนเสาไฟฟ้า ประกอบกับเป็นคนตัวใหญ่และไม่มีอุปกรณ์ช่วยในการปีนเสา
แต่นายทุนคนดังกล่าวก็ได้ทวงบุญคุณ เนื่องจากหลานชายยังติดค้างหนี้เงินกู้จากนายทุนคนนี้จำนวน 4,000 บาท โดยนายทุนเงินกู้ได้พูดขอร้องในเชิงขู่บังคับ ด้วยความเกรงใจเจ้าหนี้ หลานชายจึงได้ร่วมกับเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านประมาณ 5 คน พากันออกไปทำงานให้กับนายทุน ซึ่งเพื่อนๆ แต่ละคนก็ไม่มีใครกล้าปีนเสาไฟฟ้า ภาระจึงตกมาอยู่ที่นายพิชัยยุทธ ก่อนที่นายพิชัยยุทธ จะแบกท่อนเหล็ก ขึ้นไปต่อตรงปลายเสา เมื่อปีนขึ้นถึงปลายเสาแล้วปรากฏว่าบันไดลิงที่ใช้ไม้ตอกติดกับเสาไฟฟ้าเกิดหัก ทำให้ร่างของหลานชายตกลงมาที่พื้นพร้อมกับเสาเหล็กที่แบกขึ้น จนเจ้าตัวสลบคาที่ จากนั้นเพื่อน ๆ จึงได้ แจ้งรถกู้ภัยของ รพ.หนองสองห้อง มารับ และทำการส่งตัวต่อมารับการรักษาที่ รพ.ในเขต จ.ขอนแก่น ทันที
นางถนอม กล่าวต่ออีกว่า ในเบื้องต้นแพทย์ระบุว่าหลานชายกระดูกต้นคอแตก กระดูกสันหลังคดงอผิดรูปทับเส้นประสาท แพทย์ต้องผ่าตัดต้นคอ เพื่อรักษากระดูกที่แตก และทำการจัดกระดูกสันหลังใหม่ รวมทั้งเจาะลำคอเพื่อดูดเสมหะ และให้อาหารเหลวทางสายยาง เพราะคนเจ็บหายใจเองไม่ได้ และแพทย์ต้องให้ออกซิเจนในการช่วยหายใจ ล่าสุดแพทย์ลงความเห็นแล้วว่า ผู้ป่วยเป็นอัมพาต และจะเป็นผู้ป่วยติดเตียงตลอดไป
ครอบครัว ได้ติดต่อไปยังนายทุนเงินกู้รายดังกล่าวว่าขอให้ออกมารับผิดชอบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะตั้งแต่หลานชาย นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นายทุนคนนี้ไม่เคยสนใจมาเยี่ยมดูอาการป่วยเลย เมื่อครอบครัวขอให้รับผิดชอบ ก็ได้รับคำตอบเพียงว่า จะให้เงินเพียง 5,000 บาทเท่านั้น แต่ต้องหักเงินที่ผู้ป่วยเป็นหนี้ออกก่อน 4,000 บาท และจะให้เงินสดไป 1,000 บาท เป็นอันจบสิ้นกัน
อย่างไรก็ตามครอบครัว ได้แจ้งความเอาผิดกับนายทุนเงินกู้รายนี้แล้วที่ สภ.หนองสองห้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป แต่คดีก็ไม่มีความคืบหน้า จึงร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนเพื่อเป็นกระบอกเสียง ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ห่างไกลด้วย