รวบไอ้หื่นฆ่าข่มขืนยายวัย 72 ปี สามีลั่น! โหดเหี้ยมมาก-ต้องประหาร
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายข่มขืนฆ่า นางสมวัน อายุ 72 ปี ทิ้งศพไว้ในสวนปาล์มน้ำมันหลังบ้านเช่า หมู่ 1 ตำบลบางน้ำจืด อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น
>> ทรชนโหดหื่น ทุบหัว-ข่มขืนยายวัย 72 ตายคาสวนปาล์ม หมานำทางสามีพบศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (4 มี.ค.) พ.ต.อ.สัญญา พาตินธุ ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวได้ 2 คน เป็นพี่น้องกัน คือ นายซู หรือ ตะวัน อายุ 37 ปี และนายมินโทน อายุ 20 ปี เป็นชาวมอญ สัญชาติเมียนมา
จากการสอบสวน นายตะวัน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนข่มขืนฆ่ายายสมวันจริง สาเหตุมาจากเมาเหล้า จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ส่วนข้อหาข่มขืนต้องรอผลการพิสูจน์จากแพทย์และนิติเวชก่อนจึงจะแจ้งข้อกล่าวหาได้ นายมินโทน น้องชายไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีที่พี่ชายก่อขึ้น แต่จากผลการตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วงมีสารเสพติด จึงแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม กรณีที่ทางญาติต้องการให้นำตัวคนร้ายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ทาง พ.ต.อ.สัญญา พาตินธุ ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน บอกว่าไม่สามารถจะนำตัวไปทำได้เพราะเกรงว่านายซู จะไม่ปลอดภัย หวั่นถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ แต่ก็ต้องถูกสถานการณ์ต่อไป
โดยเมื่อเวลา 12.00 น. ที่วัดสว่างมนัส หมู่ 3 ตำบลปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นางสมวัน บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก มีเพื่อนบ้านกว่า 30 คนมาช่วยงานและสมทบทุนกันออกค่าใช้จ่ายในงานศพ เนื่องจากครอบครัวของผู้ตายมีฐานะยากจนหาเช้ากินค่ำไม่มีเงินเก็บออม โดยสามีมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างส่วนลูกชายเป็นลูกเรือประมง
นายพรวิชัย อายุ 72 ปี สามีผู้ตาย กล่าวว่า ตนเพิ่งจะเดินทางกลับมาจาก สภ.ปากน้ำหลังสวน เนื่องจากตำรวจเรียกตัวไปสอบปากคำ และได้ดูตัวผู้ต้องหาที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมมาได้ตั้งแต่ช่วงค่ำของเมื่อวานที่ผ่านมา เป็นแรงงานต่างด้าวชาวมอญ ซึ่งทำงานอยู่ในสวนปาล์มใกล้กับบ้านเช่าที่ตนอาศัยอยู่ ปกติก็เคยเห็นและพูดคุยกันบ้างกับฆาตกร และเพิ่งจะเคยมาบ้านตนครั้งแรกแล้วก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
จากการสอบถามตำรวจทราบว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะเมาเหล้าและไม่รู้เรื่อง อย่างไรก็ตาม ตนยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้นถือว่า อยากให้รับโทษถึงประหารหรือจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากผู้ต้องหามีความโหดเหี้ยมมาก
นายพรวิชัย ยังกล่าวต่อว่า หลังจากที่ทราบว่าคนร้ายได้รับสารภาพแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวมาขอขมาเพื่อให้อภัยในการกระทำในครั้งนี้นั้น ตนบอกเลยว่าไม่ต้องมาขอขมาเพราะทุกคนรวมถึงตนยังทำใจยอมรับไม่ได้
และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายซู มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะทุกคนต้องการดูทุกขั้นตอนว่าเริ่มก่อเหตุจากตรงไหนอย่างไร
ด้าน นางนวลจันทร์ อายุ 57 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ตนรู้จักกับนางสมวันผู้ตายมานานเป็นคนอัธยาศัยดีไม่เคยมีปัญหากับใคร ชีวิตของยายน่าสงสาร เป็นครอบครัวที่ยากจนหาเช้ากินค่ำต่อสู้ชีวิตมาตลอดชนิดปากกันตีนถีบ ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับยาย ส่วนงานศพก็มีบรรดาเพื่อนบ้านช่วยกันสมทบทุนค่าใช้จ่ายคนละเล็กละน้อย