สาวหายตัวไป ก่อนโพสต์แจ้ง "ตอนนี้ตายแล้ว" ตำรวจเชื่อหนีหนี้ดอกเบี้ยโหด

ญาติเบาใจได้ระดับหนึ่ง หลังพยายามติดต่อหาหญิงสาวที่หายตัวลึกลับ ก่อนมีภาพแชร์สำลีอุดจมูก ระบุว่า "ตอนนี้ตายแล้ว" ล่าสุดโทรกลับมาหาตำรวจ ทำให้เชื่อว่าแค่หลบไปหนีหนี้นอกระบบ

(6 มี.ค.) นางระตรี อายุ 72 ปี และ นางสาวปิยนุช อายุ 24 ปี ญาติๆ ของ นางสาวสุดาวรรณ หรือ ปู อายุ 30 ปี ที่ได้หายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองกระบี่ หลังจากที่เป็นกังวลเพราะเห็นภาพของ นางสาวสุดาวรรณ ได้โพสต์รูปที่ระบุว่าตัวเองได้เสียชีวิตลงแล้ว เป็นภาพเห็นแค่ใบหน้าและมีสำลีอุดจมูกเอาไว้ พร้อมกับระบุข้อความว่า “(พี่สาวของน้องปูโพสต์ค่ะ) แท้จริงเราต้องกลับไปสู่พระองค์อัลเลาะห์ น.ส.สุดาวรรณ กลับสู่ความเมตตาของพระองค์แล้ว”

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เรียกญาติๆ เข้าสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่ พ.ต.ท.สุนทร คำภาพันธ์ รอง ผกก.สอบสวนสภ.เมืองกระบี่ เจ้าของคดี ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังเบอร์ของ น.ส.สุดาวรรณ ที่ติดต่อได้แต่ไม่มีใครรับสาย และปรากฏว่าได้ติดต่อกลับมาแต่ทาง พ.ต.ท.สุนทร ติดภารกิจไม่ได้รับเช่นกัน

นางระตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่เป็นกังวลว่า หลานสาวจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้นแล้ว หลังจากทางตำรวจแจ้งว่า ได้มีการติดต่อกันได้ แม้จะยังไม่ได้ยินเสียงและเชื่อว่า นางสาวสุดาวรรณ น่าจะยังมีชีวิตอยู่

ขณะที่ญาติผู้น้องของ น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า เชื่อว่าพี่ปูยังมีชีวิตอยู่แน่นอน แต่ที่โพสต์แบบนั้นแล้วหายตัวไป เพราะต้องการหนีปัญหาเรื่องหนี้สินที่ก่อขึ้นเอาไว้ โดยต้องหาเงินจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบถึงวันละ 1,800 บาท ทุกๆ วัน เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนได้เลิกทำร้านขายน้ำกับเพื่อน แล้วไปทำงานร้านเครื่องครัวแทน แต่เพราะไม่มีเงินที่จะจ่าย จึงเชื่อว่าได้หนีปัญหาด้วยวิธีนี้

น.ส.ปิยนุช กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา พี่ปูมีปัญหาด้านการเงินมาตลอด ต้องไปขอให้ช่วยญาติๆ รวมทั้งตนด้วย สำหรับตนนั้นพี่ปูบอกให้ซื้อรถจักรยานยนต์ให้ เนื่องจากพี่ปูติดเครดิตบูโรอยู่ เมื่อตนซื้อให้แล้วก็มาทราบว่าได้นำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปให้กับทางเจ้าหนี้แทน ปัจจุบันยังถูกบริษัทรถโทรติดตามอยู่ด้วย ส่วนสถานที่ที่พี่ปูไปหลบซ่อนนั้นเชื่อว่า น่าจะเป็นบ้านพี่ชายอีกคน ใน ต.อ่าวนาง แต่ตนกับป้าก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน

พ.ต.ท.สุนทร กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งความไว้และวันนี้ได้นัดมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่จากการที่ได้ติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ของผู้สูญหายนั้น ก็ได้มีการติดต่อกลับมา แต่ยังไม่ได้พูดคุยกันเท่านั้น ซึ่งได้มอบหมายให้ทางชุดสืบสวนออกติดตามตัวแล้ว โดยคาดว่าผู้สูญหายรายนี้ยังอยู่ในพื้นที่เมืองกระบี่ และยังคงมีชีวิตอยู่ ซึ่งจะเร่งตามหาตัวและสอบสวนหาสาเหตุที่ทำเรื่องปั่นป่วนนี้ขึ้นมา ทำให้ทางญาติๆ ต่างไม่สบายใจและมาแจ้งความดังกล่าว