หนุ่มใหญ่คลั่งอาละวาดกลางโรงแรม ตำรวจบุกจับ 10 ต่อ 1 ยังสู้แรงไม่ไหว
โรงแรมกลางเมืองพัทยาต้องวุ่นวาย ชายคลั่งอาละวาดไล่ทำร้ายคนอื่น ตำรวจนำกำลัง 10 นายเข้าจับ แต่ก็สู้แรงไม่ได้ สุดท้ายหนีเปลือยกายเตลิดพุ่งตกตึก สิ้นฤทธิ์เพราะบาดเจ็บ
(7 มี.ค.) พ.ต.ท.กรณ์ สมคะเณย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุจากพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวชายไม่ทราบสัญชาติ เกิดคลั่งทำร้ายทรัพย์สินทางโรงแรมเสียหายเป็นจำนวนมาก หลังรับแจ้งแล้วจึงรีบไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา
ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวและพนักงานโรงแรมกำลังยืนมุงดู ชายคนดังกล่าวกำลังอาละวาดอยู่ภายในห้องน้ำชั้น 2 ของโรงแรม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่าชายคนนี้ได้ใช้ไม้ตีและนำเศษของที่แตกปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนปิดประตูห้องน้ำไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช่เหล็กยาวและอุปกรณ์ต่างๆ มาช่วยเปิด เพื่อเข้าควบคุมตัวรวบตัวผู้ก่อเหตุ
แต่เนื่องจากผู้ก่อเหตุรูปร่างใหญ่และพละกำลังมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องตัดประตูเข้าไปล็อกตัว โดยใช้กำลังมากกว่า 10 คน แต่ไม่สามารถจับตัวได้ เพราะผู้ก่อเหตุใช้ไม้และเศษกระจกต่อสู้กลับ เป็นเหตุทำให้ ส.ต.ท.อาทร วงค์สิงห์ ถูกตีใส่ศีรษะแตก เลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 นายได้รับเจ็บที่มือ ปากใบหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงถอยออกมาก่อนวางกำลังและหาวิธีป้องกันใหม่
จากนั้นผู้ก่อเหตุได้วิ่งออกมาจากห้องน้ำแบบเปลือยกาย พร้อมกับถือไม้ขนาดใหญ่ ก่อนวิ่งหนีออกไปอีกทางด้านของโรงแรม แต่เป็นทางตันผู้ก่อเหตุจึงนำรถเข็นเหล็กตีกระจกให้แตก เพื่อนจะหลบหนีออกไป แต่เมื่อก้าวออกไปเป็นชั้นลอย ทำให้ร่วงตกลงไปด้านล่างได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถวิ่งหนีไปได้ จึงทำการปฐมพยาบาลก่อนนำส่ง รพ.บางละมุง
จากสอบถามพนักงานโรงแรมต่างก็ไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครมาจากไหน เนื่องจากก่อนเกิดเหตุได้เห็นผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาและก็เดินเข้าห้องน้ำ แต่ผ่านไปไม่นานก็ได้ยินเสียงเอะอะดังขึ้น พนักงานจึงเข้าไปตรวจสอบ แต่กลับผู้ก่อเหตุจะทำร้ายจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
ล่าสุด พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ชายคนดังกล่าวเป็นคนไทย ทราบชื่อคือ นายสงคราม อายุ 42 ปี เป็นชาวจังหวัดราชบุรี มีอาการบาดเจ็บ ฟกช้ำตามร่างกาย และบาดแผลถูกกระจกบาด ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์
ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่แน่ชัด เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก จึงจะต้องสอบปากคำโดยละเอียดก่อน ทั้งนี้ ได้ให้แพทย์ตรวจสอบหาสารเสพติด พบมีสารเสพติดในร่างกายประเภทเมทแอมเฟดามีน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบประวัติทางอาชญกรรม พบมีหมายจับคดีพยายามฆ่า เมื่อปี 2548
เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุยังหมดสติและบาดเจ็บสาหัส ทำให้ยังไม่สามารถให้การ จึงจะต้องรอให้ผู้ก่อเหตุฟื้น และจะสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป