"ยุบพรรคไทยรักษาชาติ" ศาลรัฐธรรมนูญถอนสิทธิการเมืองกรรมการบริหาร 10 ปี
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในวันนี้ (7 มี.ค.) ให้ ยุบพรรคไทยรักษาชาติ จากการเสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นตัวแทนชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรค
คำวินิจฉัยดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 ประเด็น คือ ความเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค และ การยุบพรรคไทยรักษาชาติ
"ผิดหลักการ" ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ประเด็นแรกนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมองว่า หลักการประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่สถาปนามาตั้งแต่การปฏิวัติสยาม ปี 2475 กำหนดให้สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพ และต้องเป็นอยู่เหนือการเมือง การเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงฯ มาเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารของประเทศ ทำให้ราชวงศ์อาจตกเป็นที่ตำหนิได้ โดยเฉพาะในช่วงการหาเสียง ที่มีการใส่ร้ายป้ายสีกันเป็นปกติ
ดังนั้นการเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงฯ เป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือว่า ผิดหลักการการปกครองของไทย
นอกจากนี้ การเสนอพระนามยังเป็นการล้มล้างและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง เนื่องจากการทำให้หลักการที่ได้กล่าวมาเปลี่ยนไป แม้จะยังไม่ทำให้เกิดความสั่นคลอนต่อระบอบการปกครองไม่มาก แต่ก็อาจนำไปสู่ภยันตรายที่ใหญ่หลวงได้ในอนาคต
ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 10 ปี
คำวินิจฉัยครั้งนี้ ยังระบุอีกว่า สิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ จะต้องหมดลงเป็นระยะเวลา 10 ปี
"ปรีชาพล" เสียใจ-ขอบคุณทุกกำลังใจ
>> ปรีชาพล ไทยรักษาชาติ "เสียงสั่น" รับยุบพรรค หวิดน้ำตาไหลขณะพูดขอบคุณประชาชน
ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ แถลงหลังจากมีคำวินิจฉัยว่า พรรคน้อมรับพระราชโองการเมื่อวันที่ 8 ก.พ. และให้ความเคารพต่อพระราชวงศ์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ อย่างไรก็ตาม ตนเสียใจที่พรรคไม่ได้ไปต่อในการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. นี้ แต่ก็ต้องขอบคุณทุกเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนแม้มีอายุเพียง 4 เดือนเท่านั้น และยืนยันว่า เจตนาของพรรคคือการอยากเห็นบ้านเมืองเดินต่อไปข้างหน้า
"ถึงแม้ว่ามันจะไปไม่ถึงสิ่งที่เราปรารถนา แต่ก็ขอขอบคุณทุกๆ คนนะครับ ปัญหาของบ้านเมืองมีอีกมาก คนที่อยู่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป" ร.ท.ปรีชาพล กล่าว
>> สแกนรายได้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ผู้สั่งยุบพรรค “ไทยรักษาชาติ”