"เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" จับได้ถูกตีท้ายครัวสาวคนรัก-คว้ามีดจ้วงแทงดับคาร้านค้า

มือแทงอุกอาจหน้าร้านขายของชำกลางวันแสกๆ เพื่อนรักเมาสุรา เกิดโต้เถียงเรื่องชู้สาว กระทั่งอีกฝ่ายพกมีดที่เตรียมมาแทงเข้าอกข้างซ้ายผู้ตายหายใจรวยรินก่อนสิ้นลมหน้าร้านค้า

(7 มี.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ. ชัยหาญ พิมพ์จันทร์ รองสารวัตร (สอบสวน ) สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง รับแจ้งจาก ดาบตำรวจสมฤกษ์ เที่ยงตรงดี หัวหน้าป้อมตากวน มีเหตุคนถูกแทงด้วยมีดทำครัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ข้างร้านขายของชำ ปากซอยพอเพียง ถนนตากวน -หาดทรายทอง ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา แล้วรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย  พ.ต.อ.อรรฆพงษ์  สุนทรวิภาต ผกก.สภ.มาบตาพุด , พ.ต.ท.ปราโมทย์  คงคาลัย  รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.สิทธา ช่อเกตุ รอง สวป.พร้อมด้วย ร้อยเวร 20 , 30 , 40 รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที

เมื่อไปถึง พบ นายสมใจ อายุ 45 ปี  นอนบาดเจ็บสาหัสอยู่บริเวณข้างร้านดังกล่าว (ต่อมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล )จากการสอบถาม นายสมควร  อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของร้านของชำดังกล่าว ได้เผยถึงนาทีระทึกในขณะนั้นว่า ตนได้นั่งอยู่ภายในร้านได้ยินเสียงเอะอะ ของชายสองคนซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนกิน มีความสนิทกัน

ซึ่งผู้ก่อเหตุชื่อเล่น ว่า “แอ๋ว” เป็นผู้ก่อเหตุ ขณะนั้นก็อยู่ในอาการเมาสุรา ได้กล่าวกับนายสมใจ ว่า "เจ้าเฮ็ดหยังอะไรกับเมียค่อย" จากนั้น นายแอ๋ว ก็ได้ใช้มีดที่เตรียมมาแทงเข้าที่หน้าอกด้านซ้ายของ นายสมใจ จน นายสมใจ เดินเซไปมาและลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นข้างร้าน หายใจรวยริน

ตนจึงออกมาดูแล้วรีบแจ้งกู้ภัยฯ  มาช่วยเหลือก่อนนำส่ง โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งตนมองว่า นายแอ๋ว ก่อเหตุอุกอาจมาก ทั้งที่เป็นเพื่อนรักสนิทกันไม่น่าทำรุนแรงขนาดนี้

ด้าน พ.ต.อ.อรรฆพงษ์  สุนทรวิภาต ผกก.สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ได้เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบผู้ก่อเหตุ คือ นายอมร หรือ แอ๋ว  อายุ 41 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปหลบซ่อนอยู่บริเวณใกล้เคียง  เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมและสามารถจับกุมได้ในเวลา 10 นาที ก่อนจะพามาทำแผนยังจุดเกิดเหตุ

และจากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง  สาเหตุเกิดจาก เมาสุราและเหตุชู้สาว จึงได้นำตัวผู้ก่อเหตุส่ง  ร.ต.อ.ชัยหาญ พิมพ์จันทร์ พงส. พร้อม แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป