กรรมติดจรวด-คนร้ายเผาถังน้ำแข็งหวังลักทรัพย์ เจอไฟลวกขาทิ้งรองเท้าโกยแน่บ

หัวขโมยแสบ-จุดไฟเผาถังแช่อาหารสดร้านก๋วยเตี๋ยว หวังลักของในตู้แช่ แต่กรรมติดจรวด พลาสติกที่ไหม้หยดใส่เท้าจนต้องถอดรองเท้าทิ้งก่อนหลบหนี

(9 มี.ค. 62)  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์  ได้รับแจ้งจากแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว บริเวณหน้าโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ว่า ถูกคนร้ายจุดไฟเผาตู้แช่แบบพลาสติกที่ไว้สำหรับแช่เนื้อ  ลูกชิ้น และพืชผักได้รับความเสียหาย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว ฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้า โรงพยาบาลบุรีรัมย์  เมื่อตรวจสอบตู้แช่พลาสติกที่ตั้งอยู่ใกล้กับรถเข็นสำหรับทำก๋วยเตี๋ยวขาย พบมีร่องรอยถูกไฟไหม้ทั้งบริเวณฝาและตัวถังด้านหน้าได้รับความเสียหาย 

อีกทั้งยังพบแม่กุญแจที่ใช้สำหรับคล้องตู้แช่ ไฟแช็ค 1 อัน และรองเท้าแบบหญิง 1 คู่ มีร่องรอยพลาสติกที่ถูกไฟไหม้ละลายหยดใส่ ถูกถอดทิ้งไว้หน้าตู้แช่ด้วย   เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน   

แต่เมื่อเปิดดูในตู้แช่ยังพบข้าวของทั้งเนื้อวัวสด ลูกชิ้น  เส้นก๋วยเตี๋ยว และพืชผักที่ซื้อมาเตรียมไว้ทำก๋วยเตี๋ยวขายยังอยู่ครบ  จึงสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะตั้งใจมาก่อเหตุลักขโมยของในตู้ แต่อาจจะงัดกุญแจออกไม่ได้ จึงใช้วิธีจุดไฟเผาบริเวณห่วงที่ใช้คล้องกุญแจ  แต่ไฟอาจจะเกิดลุกลามไหม้ตัวถังด้วยเพราะเป็นถังพลาสติก 

จนกระทั่งทำให้พลาสติกที่โดนความร้อนละลายหยดใส่เท้าของคนร้ายเอง จึงต้องถอดรองเท้าทิ้งไว้ก่อนจะหลบหนีไป โดยที่ยังไม่ได้ของในตู้ไปด้วย

นางศศิรัศมิ์  อายุ 55 ปี แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยว เล่าว่า ปกติทุกวันจะซื้อของมาแช่ไว้ในตู้เพื่อที่ตอนเช้าจะได้มาเตรียมของไว้ทำก๋วยเตี๋ยวขาย ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเหตุคนร้ายมาลักขโมยของ จึงแช่ของไว้ตามปกติเหมือนทุกวัน  

กระทั่งเมื่อเช้ามาถึงร้านเพื่อจะมาเตรียมของก็ต้องตกใจเมื่อพบตู้แช่ถูกจุดไฟเผาได้รับความเสียหาย จึงคาดว่า คนร้ายน่าจะมาลักขโมยเอาของในตู้  จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ     

ซึ่งของที่ซื้อไว้ในตู้ มูลค่าประมาณ 2,000 กว่าบาท แต่โชคดีที่ยังไม่ถูกขโมย แต่ถังพลาสติกที่ถูกไฟไหม้เสียหายคาดว่า น่าจะประมาณ 3,000 บาท  หลังจากนี้ก็คงจะต้องระวังมากขึ้นทั้งถังแก๊ส และข้าวของ คงจะเก็บไปไว้ในห้องแล้วล็อกกุญแจอย่างแน่นหนา เพราะแต่ละวันขายของได้ไม่กี่ร้อยหากมาถูกคนร้ายขโมยของไปอีกก็จะยิ่งขาดทุนซ้ำเติมอีก

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตรวจสอบและเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ  พร้อมทั้งจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียง   รวมถึงตรวจสอบว่า ใครที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกความร้อนลวกบริเวณเท้าด้วย  เพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นซ้ำอีก