ติดคุกยังไม่พอ! กรมป่าไม้เรียกค่าเสียหาย "ผัวเมียเก็บเห็ด" บุกรุกป่าสงวน 2.5 ล้านบาท

ติดคุกยังไม่พอ! กรมป่าไม้เรียกค่าเสียหาย "ผัวเมียเก็บเห็ด" บุกรุกป่าสงวน 2.5 ล้านบาท

ติดคุกยังไม่พอ! กรมป่าไม้เรียกค่าเสียหาย "ผัวเมียเก็บเห็ด" บุกรุกป่าสงวน 2.5 ล้านบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี นายอุดม ศิริสอน อายุ 54 ปี และ นางแดง ศิริสอน อายุ 51 ปี สองสามีภรรยาชาว จ.กาฬสินธุ์ ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมในข้อหาร่วมกันบุกรุกแผ้วถาง ก่อสร้าง ทำไม้ ยึดถือครอบครอง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงแนง ตั้งแต่ปี 2553 ต่อมาปี 2554 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์พิพากษาจำคุกคนละ 30 ปี ลดโทษเหลือ 15 ปี คดีดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ซึ่งสองสามีภรรยาถูกเรียกขานในสังคมออนไลน์ว่า ตายายเก็บเห็ด

ต่อมาปี 2557 ผู้ต้องหาได้ยื่นประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ในปีดังกล่าวศาลอุทธรณ์มีคำแก้จำคุกเป็น 14 ปี 12 เดือน

และในปี 2560 ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุก นายอุดม และนางแดง ศิริสอน ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงระแนง โดยให้จำคุกคนละ 5 ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

>> ศาลฎีกาพิพากษาสั่งจำคุก 2 ตายายเก็บเห็ด คนละ 5 ปี

ความคืบหน้าในคดีดังกล่าว นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ทำหนังสือถึงนายอุดม ศิริสอน อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 456/2560 ลงวันที่ 2 ก.พ.2560 ความว่า ตามคดีอาญาที่อ้างถึง เรื่องความผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าไม้ ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งคดีนี้ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ มีคำพิพากษาให้นายอุดม และพวกรวม 2 คน มีความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พ.ร.บ.ป่าไม้

โดยความผิดของทั้ง 2 คนนั้นเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานร่วมกันบุกรุกแผ้วถาง ก่นสร้าง ทำไม้ ยึดถือครอบครอง หรือกระทำการใดๆอันเป็นการกระทำให้เสื่อมสภาพป่าสงวนแห่งชาติ ให้จำคุกคนละ 11 ปี ราฯร่วมกับมีไม้ไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามยังไม่ให้แปรรูป จำคุกคนละ 19 ปี จำเลยทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกคนละ 15 ปี พร้อมกับริบของกลางทั้งหมด

ต่อมาจำเลยทั้ง 2 ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 4 แผนกคดีสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีคำพิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานร่วมกันบุกรุก แผ้วถาง ทำไม้ ยึดถือครอบครอง หรือกระทำด้วยประการใด ลงโทษฐานร่วมกันทำไม้ฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักสุด จำคุกคนละ 11 ปี ฐานมีไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครอง จำคุกคนละ 19 ปี ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ฐานร่วมกันทำไม้ คงจำคุกคนละ 5 ปี 6 เดือน ฐานร่วมกันมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง คงจำคุกคนละ 9 ปี 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 14 ปี 12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ต่อมาจำเลยทั้ง 2 ยื่นฎีกา โดยศาลฎีกาแก้เป็นว่า ฐานร่วมกันทำไม้สัก จำคุกคนละ 6 ปี เมื่อลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 2 คน คนละ 5 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ทั้งนี้เหตุเกิดบริเวณท้องที่ ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงระแนง เนื้อที่ประมาณ 72 ไร่

กรมป่าไม้ขอเรียนว่าการกระทำของนายอุดม และพวก นอกจากเป็นความผิดทางอาญาที่ถูกลงโทษข้างต้นแล้ว ยังมีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลาย ตามนัยมาตรา 97 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 โดยพื้นที่บุกรุกทำลาย 72 ไร่ คิดค่าเสียหายต่อรัฐเป็นเงินทั้งสิ้น 2,521,055 บาท

จึงขอให้ร่วมชำระเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่กรมป่าไม้ พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันกระทำความผิดจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น โดยติดต่อขอชำระเงินได้ที่กรมป่าไม้ กรุงเทพมหานคร หรือที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น) ทั้งนี้ให้เสร็จภายใน 15 วัน นับแต่ที่ได้รับหนังสือ หากเพิกเฉยกรมป่าไม้จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อบังคับชำระหนี้ต่อไป

>> ผบ.เรือนจำกาฬสินธุ์ยัน ลุงป้ารุกป่าสงวน ยังไม่เข้าเกณฑ์พักโทษ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook