เหิมเกริมหนัก-มือดีแฮกเฟซบุ๊กตำรวจหลอกยืมเงินลูกชาย-เร่งลากคอยัดห้องขัง
แก๊งแฮกเฟซบุ๊กเหิมเกริมหนัก-ล่าสุดแฮกเฟซฯ รอง ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ หลอกยืมเงินไปทั่วไม่เว้นแม้นกระทั้งภรรยา และลูกชาย ของรองผู้กำกับเองยังเกือบถูกหลอก
(9 มี.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "ฟองเบียร์ อิคึ'อิคึ'อิคึ'กุ๊ก'กุ๊ก" โพสต์ข้อความว่า "เดี๋ยวๆ มึงไม่ใช่พ่อกู อย่าหลงโอนเงินนะครับ เฟสพ่อโดนเเฮ็ก ถ้าเฟสนี้ทักมา ยืมเงินอย่าโอนนะครับ ช่างกล้าเเฮ็กเฟสรองผู้กำกับ ตกลงมึงโง่หรือบ้า ใครว่ะ สมพร หมายดี เเชร์กันด้วยนะครับ พ่อบอกไม่ได้เล่นเฟสนานเเล้ว" พร้อมโพสต์ภาพที่แคปจากหน้าจอที่พูดคุยยืมเงินกับผู้ที่ใช้ชื่อเฟสบุคว่า "Akkabun"
โดยผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "ฟองเบียร์ อิคึ'อิคึ'อิคึ'กุ๊ก'กุ๊ก" ซึ่งต่อมาทราบชื่อว่า นายณัฐวุฒิ อายุ 32 ปี อยู่ภูมิลำเนา ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ อาชีพเปิดร้านขายของอยู่ในค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์
ซึ่งได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเป็นลูกชายของ พ.ต.ท.อัคร์บุณย์ สอนจันทร์ รองผู้กำกับการฝ่ายสอบสวน สถานีตำรวจเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า "Akkabun" ในวันเกิดเหตุ ได้มีเฟซบุ๊กของพ่ออินบล็อคมาถามว่า ใช้แอปฯ โอนเงินหรือเปล่า จะขอยืมเงินจำนวน 7,000 บาท เพื่อเอาไปให้ค่าช่าง และจะโอนคืนให้ 7,500 บาท
โดยตนรู้สึกแปลกใจ เพราะว่าตามปกติแล้วตนกับพ่อจะคุยกันทางไลน์ หรือไม่ก็โทรศัพท์คุยกัน จึงได้โทรไปหาพ่อว่า ได้โพสต์มาขอยืมเงินหรือเปล่า ซึ่งพ่อก็ตอบว่าไม่ได้โพสต์ จึงรู้ว่าถูกแฮกเฟซฯ อย่างแน่นอน
ตนจึงได้หลอกถามชื่อและเลขบัญชีธนาคาร โดยชื่อบัญชีที่จะให้โอนไปคือ “สมพร” เลขที่บัญชี 0021512982 ธนาคารกสิกรไทย หลังจากได้ชื่อและเลขบัญชีแล้ว ตนจึงพิมพ์ตอบไปว่า "เดี๋ยวๆ มึงไม่ใช่พ่อกู กูโทรหาพ่อกูอยู่! อยู่บ้านเดียวกันจะให้พ่อกูก็ได้" จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อเฟซฯ ดังกล่าวได้เลย
ด้าน พ.ต.ท.อัคร์บุณย์ สอนจันทร์ รอง ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่ลูกชายจะโทรมาถาม ภรรยาของตนเองที่อยู่กรุงเทพฯ ได้โทรศัพท์มาถามว่า ได้พิมพ์ข้อความเฟซบุ๊กขอยืมเงินหรือเปล่า ซึ่งตนก็บอกว่าไม่ได้พิมพ์ ไม่ได้ขอยืม
ซึ่งสักพักก็มีเฟซบุ๊กของตนเองทักมาหาเพื่อนที่กำลังนั่งคุยกันอยู่เพื่อขอยืมเงิน จึงรู้ว่าเฟซบุ๊กโดนแฮกแล้ว จึงได้แจ้งไปยังกลุ่มไลน์ รวมทั้งโทรศัพท์ไปแจ้งเพื่อนๆ ที่สนิทกัน แต่ก็ปรากฎว่า มีเพื่อนรายหนึ่งได้ถูกทักขอยืม และได้โอนไปในบัญชีดังกล่าวจำนวน 11,000 บาท
ตนจึงได้ติดต่อไปยังธนาคารกสิกรไทย เพื่อขอให้อายัดบัญชีดังกล่าว ซึ่งก็พบว่า บัญชีดังกล่าวถูกอายัดไว้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้วิธีการนี้ หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ และคาดว่า มีผู้เสียหายได้ขออายัดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่คนร้ายยังไม่รู้ว่าบัญชีนี้อายัดไว้แล้ว
จากนั้นตนจึงได้ไปตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ ชื่อ “สมพร หมายดี” ปรากฎว่ามีอยู่ถึง 13 คน แต่อย่างไรก็ตาม ตนได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่แฮกเฟซบุ๊กแล้ว พร้อมจะติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้จงได้