วิสามัญ "โอ" แชทลวงพ่อลูกอ่อนฆ่าฝังดิน ก่อนตายสู้ตำรวจยิบตา ตายอนาถกลางสี่แยก
จากกรณีฆาตกรรม นายชัยประสิทธิ์ บุญเลิศ อายุ 34 ปี พนักงานคลังสินค้าสถานีส่งน้ำสุวรรณภูมิ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยจากเฟซบุ๊ก ก่อนจับกุมหญิงสาวที่แชทต้องสงสัย จนทราบว่า นายชัยประสิทธิ์ ถูกนายสมศักดิ์ หรือ โอ อายุ 29 ปี ฆ่าฝังดินไว้ ในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
>> ภรรยาอุ้มลูกร่ำไห้ ดูศพสามี ถูกสาวแชตเฟซบุ๊กลวงมาให้พวกฆ่าฝังดิน
ความคืบหน้าล่าสุด (12 มี.ค.) พล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้วิสามัญฆาตกรรมนาย สมศักดิ์หรือ โอ ผู้ต้องหาคดีฆ่าฝังดินในพื้นที่ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการได้ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญและชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ไล่ติดตามคนร้ายมาจากพื้นที่ อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ หลังจากเข้าไปที่บ้านญาติ ก่อนจะเดินทางเข้าพื้นที่ อุบลราชธานี จากนั้นได้ติดตามตัวอย่างใกล้ชิดจนกระทั่งเข้ามาในพื้นที่จังหวัดยโสธร โดยก่อนหน้านี้คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนจี้รถจักรยานยนต์จากอำเภอเขื่องใน เนื่องจากรถยนต์ของคนร้ายน้ำมันหมด โดยขับหนีมาได้สักพัก ก็ได้ใช้อาวุธปืนจี้รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สตราด้า สีเขียวทะเบียน บล 708 อุบลราชธานี และหลบหนีไปตามถนนแจ้งสนิท มุ่งหน้าจังหวัดยโสธร
จนกระทั่งรถมาติดไฟแดงบริเวณกลางอำเภอคำเขื่อนแก้ว คนร้ายได้ทิ้งรถกระบะ วิ่งพยายามจี้ชิงรถโดยวิ่งมาขึ้นรถยนต์กระบะอิซูซุดีแม็กซ์สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฒฎ 5712 กรุงเทพมหานคร คันหน้าที่จอดติดไฟแดงอยู่ โดยนายสมศักดิ์ ได้เปิดประตูฝั่งซ้ายรถดังกล่าว บังคับให้คนขับให้พาหลบการจับกุมหนี คนขับรถตกใจตัดสินใจเปิดประตูวิ่งหนี คนร้ายได้ใช้ปืนยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวนจึงจำเป็นต้องยิงสวนโต้ตอบ ยิงยางล้อหน้ารถ เพื่อหยุดยั้งคนร้าย ไม่ให้ไปก่อเหตุที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้คนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที สภาพคนร้ายนอนเสียชีวิตภายในรถด้านซ้ายคนขับ ใส่กางเกงบ็อกเซอร์ ไม่สวมเสื้อ มีลายสักเต็มตัว พบปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ข้างผู้ตาย กระจกประรถด้านซ้ายเป็นรูโบ๋แตกกระจาย ฝั่งคนขับกระจกประตูแตกเห็นรูกระสุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้ร้อยเวร แพทย์ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บพยานหลักฐานต่างๆ ไว้ใช้ประกอบในสำนวนคดี