เลือกตั้ง 2562: ผู้สมัครสาว ส.ส.เขต 3 ราชบุรี งัดลูกอ้อน "แว้น จยย." ขอคะแนนเสียงชาวบ้าน

สีสันการเมืองที่ราชบุรีคึกคัก! ผู้สมัครสาวสวย ส.ส.เขต 3 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่หาเสียง งัดกลยุทธ์ เดิน-แว้น จยย. ลุยเคาะประตูบ้าน ขอคะแนนเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย

(14 มี.ค. 62)  นางปารีณา ไกรคุปต์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 ราชบุรี จากพรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 13 สาวสวยรุ่นใหญ่ อดีต ส.ส.3 สมัย สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีขาวชื่อพรรค และเบอร์ผู้สมัครที่กลางเสื้อ ใช้กลยุทธ์การออกหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายแบบถึงลูกถึงคน ที่แตกต่างไปจากผู้สมัครรายอื่น

ด้วยการ ขี่รถจักรยานยนต์ ออกหาเสียงตามบ้านเรือนประชาชน ในเขตพื้นที่ วัดเขาช่องพราน และ ตำบลเตาปูน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ตามหลังด้วยรถตู้ติดเครื่องขยายเสียงเปิดสปอตแนะนำตัว เพื่อให้เข้าถึงทุกบ้านทุกหลังคาเรือน ตามตรอกซอกซอยต่างๆ

โดยเฉพาะตามบ้านเรือนประชาชนที่อยู่กลางทุ่งนาที่รถจักรยานยนต์สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกและรวดเร็วตามสไตล์การเดินเคาะประตูบ้าน เพื่ออ้อนขอคะแนนเสียงจากประชาชนผู้มีสิทธิ์ใช้เสียง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

นอกจากนี้ ยังออกเดินขอคะแนนเสียงตามตลาดนัดชุมชน ที่มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้ากำลังตั้งร้านค้าจำหน่ายสิ่งของ รวมไปถึงประชาชนชาวตำบลเตาปูน และชุมชนวัดเขาช่องพรานมาเดินจับจ่ายซื้อของ

โดยที่ นางปารีณา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 ราชบุรี ได้แจกบัตรแนะนำตัวและชูนโยบายดูแลประชาชน สานต่อโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการดูแลปากท้องประชาชน โครงการมารดาประชารัฐจะดูแล ตั้งแต่คุณแม่ฝากครรภ์ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 9 เดือน รวมสูงสุด 27,000 บาท ค่าคลอดจำนวน 10,000 บาท

หลังจากนั้น จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูแลเด็กอีกเดือนละ 2,000 บาท ตั้งแต่เกิดจนมีอายุครบ 6 ปี เป็นจำนวนเงินรวมสูงสุด 144,000 บาท รวมตั้งแต่ตั้งครรภ์จนเติบโตอายุถึง 6 ขวบ จะเป็นเงิน 181,000 บาท ต่อเด็ก 1 คน

นอกจากเงินช่วยเหลือในการตั้งครรภ์ การคลอดและการเลี้ยงดูเด็กแล้ว นโยบายมารดาประชารัฐของพรรค ยังคำนึงถึงการดูแลในมิติอื่นๆ อย่างครบวงจร ซึ่งถือเป็นการลงทุนในเด็กให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ และทำให้เด็กไทยเป็นอนาคตและเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป และหากประชาชนเลือกตนเองก็จะได้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

สำหรับการใช้กลยุทธ์ ขี่รถจักรยานยนต์ และเดินลุยเคาะประตูบ้าน นางปารีณา ไกรคุปต์ กล่าวว่า การออกหาเสียงของตนเน้นการเดินทางเข้าถึงประชาชนทุกบ้านทุกหลังคาเรือน ด้วยการขับขี่รถจักรยานยนต์ และการเดินเท้า เพราะสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วมากกว่าการเดินหาเสียงแบบธรรมดา

เนื่องจากพื้นที่ของเขต 3 ค่อนข้างกว้าง อีกทั้งบ้านเรือนประชาชนจะอยู่กลางท้องไร่ท้องนา โดยการหาเสียงแต่ละครั้งตนแจกแผ่นพับแนะนำตัวและนโยบายพรรค โดยในแต่ละวันจะออกหาเสียงในช่วงเช้า และช่วงบ่าย ซึ่งจะเข้าถึงบ้านเรือนประชาชนให้มากที่สุด เพื่อเป็นการอ้อนขอคะแนนเสียงจากประชาชนพบปะผู้คนได้คราวละมากๆ

นางปารีณา กล่าวอีกว่า จากกรณีที่ตนเองโดนแผ่นใบปลิวกล่าวโจมตีตนเอง ตรงนี้ตนก็พอที่จะทราบเรื่องบ้างแล้ว ในเรื่องนี้ต้องให้เป็นไปตามข้อกฎหมายของ กกต. ซึ่งจะมีข้อมูลข้อเท็จจริง อย่างไรก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างชัดเจน

ซึ่งตรงนี้ตนเองมองเป็นเรื่องธรรมดา เพราะที่ผ่านมาการลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ก็ผ่านมา 3 สมัยแล้ว ที่ตนเองไม่เคยแพ้การเลือกตั้ง และมักจะโดนการกลั่นแกล้งและถูกกล่าวหาเรื่องของการกระทำความผิดในต่างๆ นาๆ หลากหลายรูปแบบ

และทุกครั้งก็มีการพิสูจน์ได้ทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน ตนจึงอยากจะขอให้ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ในการใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม นี้กันทุกคน