แพนด้าน้อย ตกพื้นอีกแต่ชันตัวยืนเองได้

แพนด้าน้อย ตกพื้นอีกแต่ชันตัวยืนเองได้

แพนด้าน้อย ตกพื้นอีกแต่ชันตัวยืนเองได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แพนด้าน้อยลื่นไถลจากตัวแม่ตกพื้น สัตวแพทย์อึ้ง "หลินฮุ่ย"ปล่อยลูกตะกายพื้นไม่รีบคาบ หน.โครงการวิจัยฯแพนด้า ระบุเป็นพัฒนาการอีกขั้นที่แพนด้าน้อยชันตัวยืน และไม่ร้องขอไออุ่น

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 4 มิ.ย. ขณะที่หลินฮุ่ยกำลังนอนตะแคงซ้ายอยู่ที่พื้น แพนด้าน้อยซึ่งนอนอยู่ในอ้อมกอดแม่ แต่อยู่ในจุดที่ต่ำลงมาที่บริเวณกลางลำตัวหลินฮุ่ยได้ลื่นไถลจากร่างของแม่ลงมาที่พื้น แต่สิ่งที่ทีมสัตวแพทย์สังเกตเห็นคือ ครั้งนี้หลินฮุ่ยไม่ใช้ปากคาบลูกขึ้นมาในทันที แต่กลับจ้องมองไปที่ลูก และทดลองปล่อยให้แพนด้าน้อยได้ใช้แขนขา และตัวตะเกียกตะกายไปกับพื้นอยู่อึดใจใหญ่ประมาณ 5 วินาที กระทั่งเจ้าหน้าที่ซึ่งเฝ้ามองอยู่ จึงต้องเป็นฝ่ายใช้มือเข้าไปเก็บลูกแพนด้าน้อยขึ้นไปวางไว้บนตัวของหลินฮุ่ยแทน

นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้แสดงให้เห็นว่าหลินฮุ่ยเริ่มทดสอบความแข็งแรงของลูก ซึ่งทุกครั้งหากหากคลายมืออกแพนด้าน้อยจะส่งเสียงร้องให้รู้ว่าไม่พร้อมที่จะรับกับสภาพภายนอกที่ไม่มีความอบอุ่นของแม่ แต่คราวนี้เมื่อหลินฮุ่ยปล่อยให้แพนด้าน้อยให้ตะเกียกตะกายอยู่ที่พื้นปรากฏว่าแพนด้าน้อยกลับไม่ร้องแสดงว่าแพนด้าน้อยเริ่มปรับตัวกับสภาพอากาศภายนอกได้ดีขึ้น หลังจากนี้คาดว่าหลินฮุ่ยจะยอมปล่อยลูกมากขึ้น จะไม่ใช่ลักษณะที่ลูกหลุดจากมือแล้วคาบขึ้นทันที

ทั้งนี้สอดคล้องกับเมื่อช่วงเช้าที่เจ้าหน้าที่แยกแพนด้าน้อยออกมาแล้วพบว่า แพนด้าน้อยสามารถอยู่ในตู้อบได้โดยไม่ร้อง และโดยไม่จำเป็นต้องห่อผ้าไว้ตลอดเหมือนช่วงคราวแรก ๆ รวมทั้งมีบางช่วงที่แสดงความแข็งแรงให้เห็นด้วยการใช้ขาทั้งสี่ข้างยันตัวขึ้นมาคล้ายกับการยืน ตรงนี้บ่งชี้ว่าแพนด้าน้อยมีพัฒนาการที่สูง น่าจะปรับตัวได้กับสภาพอากาศร้อนของบ้านเราได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเติบโตขึ้นอาจปล่อยให้ออกมาอยู่ในส่วนจัดแสดงกลางแจ้งได้ โดยไม่ต้องเปิดแอร์ในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยก็เป็นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook