เชียงใหม่ครองแชมป์ 6 วันติด "เมืองมลพิษ" อันดับ 1 ของโลก หวังฝนช่วยบรรเทา

อากาศของเมืองเชียงใหม่และอีก 8 จังหวัดภาคเหนือยังคงวิกฤตหนักต่อเนื่อง และทีเชียงใหม่ยังคงทำลายสถิติของปีนี้ค่าฝุ่นละอองสะสมในอากาศพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง แพทย์แนะหลีกเลี่ยงออกมาที่โล่งแจ้งเด็ดขาด เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังเสี่ยงหนักที่สุดต้องดูแลเป็นพิเศษ

>> ผู้ว่าฯ ชี้แจงการแก้ปัญหาวิกฤตฝุ่น PM 2.5 หลังชาวเชียงใหม่ ประกาศตามหาคนหาย

โดยในช่วงเช้าวันนี้ จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าเช้านี้เมื่อเวลา 8.00 น. ค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอนุภาคต่ำกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เกือบทุกจุดเพิ่มขึ้น จนอยู่ในระดับสูงที่สุดของปีนี้ และเกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมือง วัดได้ 172 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดได้ 156 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ขณะเดียวกัน พบว่าจากข้อมูลของ เวปไซด์ www.airvisual.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์วัดคุณภาพอากาศของทั่วโลก พบว่าจากการเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพอากาศหรือค่า US AQI จากหัวเมืองใหญ่จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกพบว่าค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ยังพบว่าวิกฤตหนักที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ติดต่อกันเป็นวันที่ 6 แล้ว เมื่อ เวลา 09.34 น. ตามเวลาประเทศไทย ค่า US AQI อยู่ที่ 293 และมีฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) อยู่ที่ 243.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพอย่างยิ่ง 

อย่างไรก็ตามทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือรายงานว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม 2562 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกพัดพาความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคเหนือของไทย และจะส่งผลให้ช่วงดังกล่าวมีพายุฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง บางพื้นที่อาจจะมีพายุฤดูร้อน และพายุลูกเห็บขึ้นได้ อนึ่งสภาพอากาศดังกล่าวอาจจะส่งผลดีกับสภาพปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือรวมทั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ ฝนและลมอาจจะช่วยบรรเทา วิกฤตปัญหาหมอกควันของภาคเหนือลดลงได้ ซึ่งลมจากทางด้านทิศตะวันตกของภาค จะพัดพาฝุ่นควันที่สะสมในอากาศลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ และลายไปตามกระแสลมได้ในระดับหนึ่งด้วย

แต่อย่างไรก็ตามปัญหาหลักจากการเผา และไฟป่ายังถือว่าเป็นต้นเหตุของวิกฤตในครั้งนี้ วอนประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมืองดเผาป่าและพื้นที่การเกษตรทุกชนิดในช่วงนี้