ศพอัศจรรย์ "น้องภูผา" ทารกตาย 7 วันแต่ร่างไม่เน่าเปื่อย วิญญาณกระซิบกู้ภัย

ศพอัศจรรย์ "น้องภูผา" ทารกตาย 7 วันแต่ร่างไม่เน่าเปื่อย วิญญาณกระซิบกู้ภัย

ศพอัศจรรย์ "น้องภูผา" ทารกตาย 7 วันแต่ร่างไม่เน่าเปื่อย วิญญาณกระซิบกู้ภัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 09.00 น. (16 มี.ค. 2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นางสาวสุมณี อายุ 23 ปี ให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาทช่วยทำการขุดโลง นำศพของ น้องภูผา ลูกชายอายุ 7 วัน เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท (ชัยนาทนเรนทร) โดยหมอวินิจฉัยว่า เสียชีวิตจากอาการปอดติดเชื้อ แต่ตอนนี้ทางครอบครัวต้องการอยากได้คำยืนยันจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงให้หายคาใจ โดยล่าสุดทางครอบครัวได้ผลชันสูตรจากนิติเวช แล้วระบุว่า สาเหตุการตายมาจากเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นใน ทางญาติจึงรับศพกลับมาฝังไว้ที่บ้านใน ต.ห้วยงู อ.หันคา จ.ชัยนาท 

แต่เรื่องอัศจรรย์ที่สุดที่เกิดขึ้นราวปาฎิหาริย์นั้นก็คือ ศพของน้องภูผาไม่เน่าไม่เปื่อย แม้จะเสียชีวิตไปแล้ว 7 วัน ลักษณะคล้ายกับเด็กที่นอนหลับอยู่เท่านั้น ทำให้หลายคนเชื่อว่า น้องเกิดมามีบุญ และยังอยากมีชีวิตอยู่แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นราวฝันร้ายของครอบครัวทำให้น้องต้องจากไป

ด้าน นายนิพนธ์ ปัญญาทร เจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ตอนแรกได้รับแจ้งจากตำรวจ ให้ไปตรวจสอบ ขุดศพเด็กที่เสียชีวิตมาแล้ว 5 วัน ถูกฝังไว้ที่ วัดโคกหมู อ.หันคา ในใจก็คิดแล้วว่า เด็กเสียชีวิตหลายวัน ร่างต้องเน่า เละ แล้วแน่นอน จะเอาไปสถาบันนิติเวชได้อย่างไร ตนก็เตรียมถุงดำมาใส่ไปแล้ว แต่พอช่วยกันกับชาวบ้านขุดขึ้นมาต้องตกใจ เพราะพบว่า น้องภูผา ไม่เน่าไม่เปื่อย ไม่มีกลิ่น เหมือนนอนหลับไปเฉยๆ เปลี่ยนแปลงแค่ริมฝีปากซีดดำนิดหน่อย พอเอาไปตรวจกลับมารวม 7 วัน อุ้มลงมาจากรถของครอบครัว ก็ไม่มีกลิ่นอยู่ในสภาพเดิม ตนทำงานอาสาเจอศพมานับพัน ไม่เคยเจอกรณีแบบนี้มาก่อนในชีวิต ทั้งๆ ที่ตอนฝัง ก็มีการเจาะรูระบายอากาศ ไม่อับ ไม่เย็น เหมือนห้องเย็นที่จะสามารถรักษาสภาพได้ขนาดนี้ มด ไร แมลงต่างๆ ก็ไม่มีไปรบกวน ยิ่งอากาศร้อนแบบนี้ศพต้องเปลี่ยนสภาพแน่นอน

ตามความเชื่อส่วนบุคคล เพราะตนก็นับถือพ่อปู่แล้วแต่ใครเชื่อไม่เชื่อ โดยส่วนตัวคิดว่าเด็กคนนี้ต้องไม่ธรรมดา ตนได้บอกพ่อกับแม่เด็กว่า เด็กอยากไปอยู่ที่บ้าน ไม่อยากอยู่วัด แต่ก็รู้สึกได้เลยว่า เด็กดีใจที่ได้กลับบ้าน ที่ทำร่วมกตัญญูมาก็เจอหลายสิ่งหลายอย่าง อะไรที่บอกกับญาติพี่น้องเขาได้เราก็บอก สิ่งไหนบอกไม่ได้ก็ไม่บอก ปล่อยไปตามกรรมของแต่ละคน ส่วนเรื่องที่ครอบครัวเห็นน้องน้ำตาไหลหลังเข้าห้องนอนที่ตนอุ้มไปให้ในห้อง คิดว่า น้องเขารับรู้ที่พ่อแม่ไม่ทิ้งเขา น้องดีใจที่ได้กลับมาสู่อ้อมกอดครอบครัว อีกอย่างน้องก็มาบอกตนว่า น้องจะอยู่อีก 5 ปี ตนจะรอดูว่าจริงๆ แล้วจะเป็นอย่างไร พร้อมกำชับให้ครอบครัวดูแลดีๆ แล้วเด็กคนนี้จะให้คุณ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook