เปิดข้อความ "ครูโฟล์ค" เขียนประวัติการตายไว้นานนับปี ลูกศิษย์อาลัยคุณครูใจดี

(18 มี.ค.62) จากกรณีพบศพ นายศราวุธ หรือ ครูโฟล์ค อายุ 41 ปี ครูชำนาญการ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น สภาพศพถูกยิงที่ขมับขวาทะลุแก้มซ้ายเลือดไหลนองเต็มพื้นบ้าน จากการสอบสวนเพื่อนผู้ตาย ระบุว่า ผู้ตายและภรรยาต่างก็รับราชการครูทั้งคู่ แต่อยู่คนละอำเภอ ภรรยาสอนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอมัญจาคีรี ส่วนผู้ตายสอนอยู่ที่อำเภอบ้านไผ่ มีบุตรด้วยกันสองคน ครอบครัวอบอุ่น รักกันดี

แต่เมื่อปลายปี 2559 ผู้ตายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนกลายเป็นผู้พิการท่อนล่าง จากนั้นผู้ตายก็เปลี่ยนไป แต่ยังคงไปทำงานสอนหนังสือที่โรงเรียนตามปกติ คนใกล้ชิดกับผู้ตายทราบว่าผู้ตายหรือครูโฟล์ค นั้นป่วยด้วยอาการซึมเศร้า และมีอาการเครียดสะสมมานาน สาเหตุจากการที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วกลายเป็นผู้พิการ เคยทำงานได้ เคยช่วยเหลือตัวเองได้ แต่หลังประสบอุบัติเหตุต้องมานั่งรถเข็น จึงเกิดอาการเครียด ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ฆ่าตัวตายนั้น เป็นปืนที่ผู้ตายซื้อมาและมีทะเบียนถูกต้อง คาดว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง

>> ครูหนุ่มใหญ่ไลฟ์สดฆ่าตัวตายคาบ้านพัก เครียดหนักกลายเป็นผู้พิการท่อนล่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงของการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อนผู้ตายต่างก็พูดว่า ผู้ตายมีการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบก็ปรากฏว่าคลิปดังกล่าวถูกลบไปแล้ว จึงพบเพียงข้อความที่ผู้ตายโพสต์ทิ้งไว้ก่อนเกิดเหตุดังกล่าว ช่วงเวลา 02.00 น. ผู้ตายได้เล่าถึงความเป็นไปในชีวิตตัวเองตั้งแต่เกิด เรียนหนังสือ ทำงาน มีครอบครัว

จนชีวิตพลิกผันเมื่อประสบอุบัติเหตุ โดยอุบัติเหตุครั้งนั้นไม่โทษใครนอกจากตัวเอง อีกไม่กี่ร้อยเมตรจะถึงบ้านแต่เกิดหลับใน ทำให้ชนกับรถตู้ตำรวจ ทั้งที่อีกไม่กี่ร้อยเมตรถึงบ้าน หลังจากนั้นชีวิตครอบครัวที่เคยอบอุ่นก็มีปัญหา และเมื่อตนเองต้องกลายเป็นคนพิการก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำอะไรเองก็ไม่ได้ โดยข้อความเขียนไว้ตั้งแต่ 13 พฤษภาคม 2561 ข้อความเป็นการพิมพ์แต่มีลายเซ็นผู้ตายกำกับสำเนาถูกต้องไว้ทุกแผ่น ก่อนจะมีการเขีนเพิ่มเติมอีกครั้งเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา

รถที่เกิดอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตาม การจากไปของครูโฟล์ค สร้างความเสียใจให้กับทั้งครอบครัว คณาจารย์และลูกศิษย์เป็นอย่างยิ่ง โดยในเฟซบุ๊กมีการโพสต์ข้อความอาลัยเป็นจำนวนมาก โดยครูโฟล์คนั้นเป็นที่รักของลูกศิษย์ ต่างบอกเสียงเดียวกันเวลาเป็นครูที่น่ารักและใจดี จึงเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่ยากทำใจ