เสือดำ: มูลนิธิสืบฯ แถลงขอบคุณทุกฝ่ายช่วยติดตามคดี เชื่อเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของสังคม

เสือดำ: มูลนิธิสืบฯ แถลงขอบคุณทุกฝ่ายช่วยติดตามคดี เชื่อเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของสังคม

เสือดำ: มูลนิธิสืบฯ แถลงขอบคุณทุกฝ่ายช่วยติดตามคดี เชื่อเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของสังคม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 หลังทราบผลคำพิพากษาของศาลในคดีล่าเสือดำของนายเปรมชัย กรรณสูตและพวก โดยขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมเชื่อว่าสังคมได้เรียนรู้บทเรียนครั้งสำคัญร่วมกัน โดยมีเนื้อหาในแถลงการณ์ดังนี้

จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกรวม 4 คน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มีการตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ เสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เนื้อเก้ง พร้อมทั้งอาวุธปืน เครื่องกระสุน และปลอกกระสุนปืน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561

และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาของสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ให้กับสำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ สรุปสำนวนสั่งฟ้องในข้อหาสำคัญ ทั้งการร่วมกันล่าสัตว์ป่า และร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่าอย่างครบถ้วน โดยพนักงานอัยการได้สรุปสำนวนส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 ศาลนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2561 และศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ (19 มีนาคม 2562)

>> ด่วน! ศาลตัดสินคดีเสือดำ เปรมชัยติดคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา

>> สรุปไทม์ไลน์ 1 ปีคดีฆ่าเสือดำ หลังศาลพิพากษาเปรมชัยติดคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา

ถึงแม้ผลคำพิพากษาอาจเป็นหรือไม่เป็นไปดังที่สาธารณชนคาดหวัง แต่เชื่อว่าเหตุการณ์กรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่สังคมไทยได้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งในแง่กฎหมายที่หลายสื่อต่างออกมาให้ข้อมูลการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีให้สาธารณชนรับทราบและทำความเข้าใจถึงขั้นตอนตามกฎหมายในแต่ละช่วงเวลา เพื่อไม่ให้กระแสอารมณ์ อยู่เหนือข้อมูลและข้อเท็จจริง หลายสื่อกระตุ้นเตือนสังคมด้วยการนำเสนอเรื่องเสือดำซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เพื่อไม่ให้สังคมลืมเลือนถึงความไม่ยุติธรรมที่เกิดกับสัตว์ทั้งสามชนิด และก่อให้เกิดกระแสที่มีผลสะเทือนไม่ยอมรับถึงการเข้าป่าล่าสัตว์เพียงเพื่อความสนุก สังคมไทยได้รู้จักงานนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่ามากขึ้น และเห็นถึงความก้าวหน้าของงานนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่สัตว์ป่าในคดีนี้ รวมไปถึงจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่สัตว์ป่าในคดีอื่นๆ อีกด้วย และมีกลุ่มมากมายจากภาคประชาชนคนธรรมดาที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่เสือดำ

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเร่งรัดคดีนี้ ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ในความกล้าหาญสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการจับกุมจำเลยทั้งสี่ รวมถึงภาคประชาชนที่คอยเฝ้าติดตามไม่ให้คดีนี้เงียบหาย จนผู้กระทำผิดได้รับการลงโทษตามกฎหมายเช่นประชาชนคนไทยทุกคนที่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคดีนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญและเป็นบรรทัดฐานของสังคมไทย ขอให้สังคมร่วมกันตรวจสอบและพร้อมที่จะแสดงออกถึงการไม่ยอมรับผู้ไม่เคารพกฎหมาย และร่วมกันติดตามคดีนี้จนกว่าจะถึงที่สุดต่อไป

ขอแสดงความนับถือ
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
วันที่ 19 มีนาคม 2562

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook