คดีเสือดำ: ศาลให้ประกัน "เปรมชัย" วงเงิน 4 แสน สั่งห้ามออกนอกประเทศ

คดีเสือดำ: ศาลให้ประกัน "เปรมชัย" วงเงิน 4 แสน สั่งห้ามออกนอกประเทศ

คดีเสือดำ: ศาลให้ประกัน "เปรมชัย" วงเงิน 4 แสน สั่งห้ามออกนอกประเทศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (19 มี.ค.) หลังศาลจังหวัดทองผาภูมินัดอ่านคำพิพากษาคดีล่าเสือดำที่มีนายเปรมชัย กรรณสูต และพวกรวม 4 คนเป็นจำเลย ซึ่งศาลตัดสินให้จำคุกนายเปรมชัยจาก 3 ข้อหา เป็นเวลา 40 ปีนั้น

>> ด่วน! ศาลตัดสินคดีเสือดำ เปรมชัยติดคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา

>> สรุปไทม์ไลน์ 1 ปีคดีฆ่าเสือดำ หลังศาลพิพากษาเปรมชัยติดคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา

>> มูลนิธิสืบฯ แถลงขอบคุณทุกฝ่ายคดีเสือดำ เชื่อเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของสังคม

ภายหลังจากฟังคำพิพากษาแล้ว นายเปรมชัย จำเลยที่ 1 และนายยงค์ จำเลยที่ 2 ได้ยื่นหลักทรัพย์เดิมมูลค่าคนละ 400,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี

ส่วนนายธานี จำเลยที่ 4 ที่ศาลจำคุกเป็นเวลา 2 ปี 17 เดือน ได้ยื่นหลักทรัพย์เพิ่มอีก 100,000 บาท จากหลักทรัพย์ 400,000 บาท รวมทั้งสิ้น 500,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี 

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงผลการขอประกันตัวนายเปรมชัย และพวกนายพราน คดีครอบครองซากสัตว์คุ้มครองไก่ฟ้าหลังเทาและเสือดำว่า หลังจำเลยที่ 1, 2 และ 4 ที่ศาลพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ได้ยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ 

ซึ่งผู้พิพากษาหัวหน้าจังหวัดทองผาภูมิพิจารณาคำร้องประกอบพฤติการณ์แล้วเห็นว่า ระหว่างการพิจารณาคดีจำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ประกันจำเลยที่ 1, 2 คนละ 400,000 บาท และจำเลยที่ 4 จำนวน 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

ทั้งนี้ ศาลจังหวัดทองผาภูมิ นัดฟังคำพิพากษาคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดระหว่างวันที่ 4-6 ก.พ. 2561

โดยศาลพิพากษา นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 16 เดือน ยกฟ้องข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ)

นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่มีใบอณุญาต จำคุก 3 เดือน ข้อหาร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือน รวมจำคุก 13 เดือน ยกฟ้องข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ข้อหาร่วมกันเก็บของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือนและปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ยกฟ้องข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่มีใบอณุญาต ข้อหาร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ข้อหาร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร

นายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่มีใบอณุญาต จำคุก 3 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(เสือดำ)  ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 ข้อหาร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาพยามยามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 4 เดือน ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 1 ปี ข้อหาเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 2 ปี 17 เดือน ไม่มีข้อหาใดยกฟ้อง

ส่วนค่าเสียหายทางแพ่งให้จำเลยที่ 1 และ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. 2561 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง (กรมอุทยานฯ )

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook