ลางบอกเหตุร้าย! แม่นึ่งข้าวเหนียวเป็นสีแดง-วันถัดมาลูกชายย่องผูกคอตายกับขื่อบ้าน

ลางบอกเหตุร้าย! แม่นึ่งข้าวเหนียวเป็นสีแดง-วันถัดมาลูกชายย่องผูกคอตายกับขื่อบ้าน

ลางบอกเหตุร้าย! แม่นึ่งข้าวเหนียวเป็นสีแดง-วันถัดมาลูกชายย่องผูกคอตายกับขื่อบ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มยโสฯ วัย 34 ปี มีอาการป่วยโรคซึมเศร้า ฉวยโอกาสแม่เผลอไม่อยู่บ้าน ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองแขวนกับขื่อภายในห้องนอนตัวเองเสียชีวิต

(18 มี.ค. 62) พ.ต.ท.ประสงค์ งามสง่า สารวัตรเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านพักที่บ้านหนองแสง ตำบลย่อ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร จึงประสานแพทย์เวรจากโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว พร้อมด้วยอาสาฯ กู้ภัย เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่บ้านหนองแสง ตำบลย่อ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ที่บริเวณห้องนอนชั้นล่าง พบศพของ นายคมสันต์  อายุ 34 ปี ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเอง แขวนกับขื่อภายในห้องนอนจนเสียชีวิต

โดยชาวบ้านจึงได้ช่วยกันแก้เชือกที่ผูกคอนำร่างของผู้ตาย ลงมานอนกับพื้นบ้าน เพื่อรอให้กับแพทย์เวรและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอน

ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด แพทย์ลงความเห็นว่า สาเหตุของการเสียชีวิต เพราะขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง

จากการสอบถาม นางสมหวัง แม่ของผู้ตาย บอกว่า มีลางสังหรณ์เมื่อวันก่อนที่ผ่านมา โดยกำลังนึ่งข้าวเหนียวตอนเย็นตามปกติพอข้าวสุกจึงเทออกเพื่อส่ายข้าวเหนียวแต่กลับเป็นข้าวสีแดง  

อย่างไรก็ตาม ผู้ตายป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานกว่า 2 ปี แล้วต้องไปรับยาจาก โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี มากินเป็นประจำ และก่อนหน้านี้ ผู้ตายก็มักจะบ่นกับตนเสมอว่าอยากจะตาย

และในช่วงเช้าของ วันที่ 18 มี.ค. 62 ตนได้ออกไปทำธุระนอกบ้านตั้งแต่เช้า โดยปล่อยให้ผู้ตายอยู่บ้านตามลำพังคนเดียว จนกระทั่งช่วงเย็น ตนกลับเข้าบ้านไม่พบผู้ตาย จึงออกตามหาสอบถามตามบ้านของญาติพี่น้อง แต่ก็ไม่มีใครเห็น

ตนจึงกลับมาที่บ้านอีกครั้ง และเข้าไปดูภายในห้องนอนของผู้ตาย ซึ่งอยู่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้านจึงพบว่า ใช้เชือกผูกคอตัวเองแขวนกับขื่อเสียชีวิตแล้ว

ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรพลิกศพแล้วญาติไม่ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิตจึงได้มอบศพให้กับญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook