หนุ่มยืนชมสวนสบายใจ ไม่รู้มือปืนพรางตัวในกอไม้ กระหน่ำยิงร่างพรุน 7 นัด

หนุ่มยืนชมสวนสบายใจ ไม่รู้มือปืนพรางตัวในกอไม้ กระหน่ำยิงร่างพรุน 7 นัด

หนุ่มยืนชมสวนสบายใจ ไม่รู้มือปืนพรางตัวในกอไม้ กระหน่ำยิงร่างพรุน 7 นัด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง เมื่อเวลาประมาณ 23.45 น. (20 มี.ค.) ร.ต.อ.นราธร พิลาล้ำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขาชัยสน พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผกก.สภ.เขาชัยสน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ จนท.หน่วยกู้ภัยเขาชัยสน ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และเสียชีวิตขณะนำตัวส่ง รพ.เขาชัยสน โดยเหตุเกิดบริเวณข้างสวนหย่อมหน้าบ้านชั้นเดียว หมู่ที่ 4 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายไล่ลุ่ม-กงหรา

ในที่เกิดเหตุบริเวณข้างสวนหย่อมบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวแบบก่ออิฐถือปูน ตำรวจพบกองเลือดตกอยู่จำนวนหนึ่ง และห่างจากจุดเกิดเหตุริมกอไม้เล็กๆ ซึ่งใช้เป็นที่กำบังตัวของคนร้าย ประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจพบปลอกกระสุนขนาด 11 มม.จำนวนอยู่ 7 ปลอก จึงเก็บไปเป็นหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นอดีตทหารเกณฑ์ทราบชื่อภายหลังว่า นายปกรณ์ อายุ 31 ปี ผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว โดยสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่บริเวณศีรษะ 2 นัด ลำแขน แผ่นหลังข้างลำตัว ก้นกบด้านขวา และต้นขาด้านขวา-ซ้าย อีก 5 นัด รวม 7 นัด

จากการสอบสวนในขั้นต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายซึ่งเป็นคนที่ชื่นชอบต่อการปลูกดอกไม้ และการสร้างสวนหย่อม และออกมาโทรศัพท์บริเวณหน้าพร้อมยืนชมดอกไม้และสวนหย่อน ส่วน นางปิหรำ อายุ 57 ปี ผู้เป็นมารดา และ น.ส.สุริฉาย อายุ 25 ปี ภรรยา กำลังนั่งดูโทรทัศน์ภายในบ้าน ในขณะที่ผู้ตายกำลังเดินชมดอกไม้ สวนหย่อม อย่างมีความสุขอยู่นั้น ก็ได้มีคนร้ายไม่ทราบชื่อ จำนวน ซึ่งซุ่มตัวอยู่ข้างกอไม้ขนาดเล็ก ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงใส่ผู้ตาย จำนวน 7 นัด จากนั้นได้เดินเท้าหลบหนีไปโดยไม่ได้ยินเสียงของยานพาหนะที่ใช้ในการหลบหนีแต่อย่างใด

ทางด้าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผกก.สภ.เขาชัยสน เผยว่า คนร้ายรายนี้น่าจะเป็นคนในพื้นที่หรือพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากทราบความเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดีรวมทั้งรู้เส้นทางในการหลบหนีหลังการก่อเหตุร้าย ส่วนประเด็นสังหารนั้น ในเบื้องต้นตำรวจคาดว่าน่าจะมาจากสาเหตุความขัดแย้งธุรกิจสิ่งผิดกฎหมาย และความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook