คิง เพาเวอร์เปิดศักยภาพทางดนตรีครั้งใหญ่ เฟ้นหาสุดยอดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย
ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพทางดนตรีของคนไทยว่าโดดเด่น และมีของพร้อมโชว์ให้ประจักษ์ต่อสายตาโลก คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย จึงจับมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย ปี 2562 หรือ Thailand International Wind Symphony Competition 2019 (TIWSC) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีที่ผ่านมา พร้อมกับยังส่งให้วงดุริยางค์เครื่องเป่าของไทยคว้าแชมป์ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตานานาชาติมาแล้ว
เวทีนี้ถือเป็นสะพานที่ช่วยสานต่อความฝัน และเป็นเวทีที่ทุกคนรอคอย เนื่องจากเป็นสมรภูมิดนตรีเครื่องเป่าระดับนานาชาติ มีหลายประเทศเข้าร่วมชิงชัย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้มีวงจากต่างชาติเข้าร่วมชิงชัย อาทิ ประเทศฮ่องกง และวงที่เข้ามาประลองฝีมือครั้งแรก ได้แก่ วงจากประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากต่างประเทศที่มีชื่อเสียง มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ด้านดนตรีที่เก่งกาจ เป็นที่ยอมรับในวงการดนตรีโลก อาทิ โรเบิร์ต เอ็ม คาเนอร์กัน ผู้อำนวยการของวงซิมโฟนิค วินด์ อังซังเบลอ (Wind Ensemble) ของโรงเรียนสอนดนตรี Frost School of Music, ผู้กำกับเพลง, วาทยกรของวง Frost Wind Ensemble และศาสตราจารย์ด้านวาทยกรประจำมหาวิทยาลัยไมอามี นอกจากนี้ยังมีดร.ไบรอัน ที.กิลป์ ศาสตราจารย์ด้านดนตรีเครื่องเป่า และสมาชิกวง Brass และ Woodwind Quintets ของมหาวิทยาลัยอินเดียนาในปี 1998 ร่วมเป็นกรรมการตัดสินด้วย
ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ทางวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้จัดการประกวดในครั้งนี้ร่วมกับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อีกครั้ง ซึ่งในการจัดประกวดในปีที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับและประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งจากเยาวชนไทยและระดับนานาชาติ สะท้อนได้จากตัวเลขของทีมที่สมัครร่วมประกวดมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปีที่แล้วสมัครประกวดทั้งสิ้น 70 ทีม ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 83 ทีม ทำให้เห็นว่าอย่างน้อยสังคมเริ่มมีการตื่นตัวใช้กิจกรรมดนตรีเป็นกิจกรรมที่แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้การที่ไทยเป็นเจ้าบ้านในการจัดประกวดดนตรีระดับนานาชาติ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกด้วยครับ”
สำหรับการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ประจำปี 2562 แบ่งเป็นรุ่น Class A 10 วง, รุ่น Class B 10 วง, รุ่น Class C และ D รุ่นละ 16 วง โดยรอบรองชนะเลิศจะจัดขึ้นระหว่าง 1-4 เมษายนนี้ และรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 6 เมษายนนี้ ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งขณะนี้น้องๆ จากโรงเรียนต่างๆ รวมไปถึงรุ่นไม่จำกัดอายุ ได้ฝึกซ้อมดนตรีกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะแชมป์เก่าจากปีที่แล้ว ที่เตรียมไม้เด็ดมาโชว์ของ ไม่มีใครยอมใครอย่างแน่นอน
การฝึกซ้อมอย่างหนัก การันตีถึงความพร้อมในกลับมาป้องกันแชมป์ นายภาณุวัตร พงษ์สะพัง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ประธานวงโยธวาทิต โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว เล่าว่า “ปีที่แล้วภูมิใจมากครับที่โรงเรียนได้แชมป์ แต่การเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว การรักษาแชมป์ยากกว่า คู่แข่งทุกคนพัฒนาตัวเองขึ้นอยู่แล้วครับ ทุกคนก็อยากจะชนะการประกวดทุกคนอยู่แล้ว ซึ่งเราจะต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมหลายๆ เท่า เพื่อพัฒนาตัวเองให้มากขึ้นและกลับไปรักษาแชมป์ให้ได้ ซึ่งจะเน้นเรื่องตัวโน้ตตั้งแต่เสียงแรกจนเสียงสุดท้ายของบทเพลง เราต้องละเอียดทุกขั้นตอน ต้องไม่ผิดพลาด ซึ่งขณะนี้เริ่มเข้าค่ายเก็บตัวแล้วครับ ซ้อมหนัก ซ้อมจริงจัง เริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม ทั้งนี้ถ้าไม่มีคิง เพาเวอร์ เด็กๆ หลายคนในประเทศคงไม่มีเวทีระดับโลกแบบนี้เล่นครับ เป็นการส่งเสริมความสามารถของเด็กให้แสดงออกอย่างถูกวิธี ผมรู้สึกขอบคุณคิง เพาเวอร์ ที่มีโครงการดีๆ แบบนี้ให้เด็กๆ อย่างพวกผมได้ทำตามฝันครับ”
ด้านนายถวัลย์ชัย สวนมณฑา ผู้ควบคุมวงโยธวาทิต โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว กล่าวว่า “นักดนตรีเวลาซ้อมมาแล้วก็อยากจะเล่นบนเวทีที่ยิ่งใหญ่สักรายการหนึ่ง การที่จะขึ้นไปเล่นบนเวทีนั้นส่วนมากก็จะเป็นนักดนตรีอาชีพ หรือระดับโลก สำหรับเด็กๆ เพียงได้ขึ้นไปแสดงศักยภาพที่เขาซ้อมมา เขาก็มีความสุขแล้ว มันนอกเหนือจากรางวัลครับ แต่สิ่งหนึ่งที่โรงเรียนปลูกฝังเด็กอยู่เสมอ คือ เราจะไม่หยุดเดิน และจากการฝึกซ้อมอย่างจริงจังทำให้ปีที่ผ่านมาโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว คว้าแชมป์ชนะเลิศในการประกวดดนตรี ประเภทคอนเสิร์ต (นั่งบรรเลง) ทั้งหมด 3 รายการ ซึ่งในปีนี้เด็ก ๆ มีความพร้อม และตั้งใจที่จะขึ้นโชว์ศักยภาพด้านดนตรีบนเวทีประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย ปี 2562 อีกครั้งอย่างเต็มความสามารถ และจุดเด่นของปีนี้ ทางโรงเรียนจะเลือกใช้เพลงที่มีความยาก เพื่อท้าทายความสามารถของเด็ก”
ส่วนด้านทีม Zalymanian Wind Orchestra ผู้ชนะเลิศ Class A ประเภทไม่จำกัดอายุของปีที่แล้ว ก็ซุ่มฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น แม้ทีมนี้จะมีความต่างด้านอายุ แต่ฝีมือดนตรีโดดเด่น พร้อมโชว์พลังบนเวทีแข่งขันที่กำลังจะมาถึง นายอัตถสิทธิ์ วัฒนาวงศารัตน์ หัวหน้าวง Zalymanian Wind Orchestra เล่าว่า “สมาชิกในทีมมีทั้งหมด 60-70 คน อายุต่ำสุด 14 ปี และอายุมากสุดอยู่ที่ 44 ปี ซึ่งทุกคนในวงล้วนมีหัวใจที่รักดนตรีเหมือนกัน และมีความฝันเดียวกัน คือ การได้บรรเลงดนตรีที่ทุกคนชื่นชอบบนเวทีระดับโลก ทำให้เล่นดนตรีออกมาได้อย่างมีความสุข ซึ่งปีนี้ได้เตรียมไม้เด็ดมาสู้กับคู่แข่งขัน และยิ่งใกล้ถึงวันแข่งขันจริง ทีมก็นัดซ้อมกันบ่อยมากยิ่งขึ้นครับ สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณโครงการดีๆแบบนี้จากคิง เพาเวอร์ ที่เปิดโอกาสทางด้านดนตรีของไทยให้ไปไกลระดับโลก และอยากให้สนับสนุนด้านดนตรีเพิ่มเติมในอีกหลายๆ แขนงครับ”
สำหรับรางวัลของการแข่งขัน ชิงถ้วยรางวัลและเงินรางวัลรวมมูลค่า 4,330,000 บาท นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์พิเศษภายในงาน จะได้พบกับ ‘ตูน บอดี้สแลม’ ที่จะมาสร้างสีสัน โชว์ร้องเพลงร่วมกับวงดุริยางค์เครื่องเป่า เป็นครั้งแรก!! เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่มีหัวใจรักดนตรีไม่ย่อท้อต่อการเดินทางตามความฝัน และกล้าที่จะก้าวออกมาแสดงศักยภาพที่มีอยู่ให้โลกได้เห็น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมเข้าชมการประกวดรอบชิงชนะเลิศ ในวันเสาร์ที่ 6 เมษายนนี้ ระหว่างเวลา 08.30-21.30 น. ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-800-2525 ต่อ 3109, 02-849-6565 ต่อ 6604 และ 6609
#KingpowerThaipowerพลังคนไทย
#WeBelievelnThaiPower
#เชื่อในพลังคนไทย