ผัวเมียดับคู่ ซิ่งเก๋งเสยท้ายรถจอดติดรอสัญญาณไฟ 4 คันรวด
สองผัวเมียซิ่งสยองเสยท้ายรถจอดติดรอสัญญาณไฟ 4 คันรวด ดับทั้งคู่พร้อมลูกน้อยในครรภ์ ตัวรถพังแหลกเสียหายยับเยินเกือบหมดทั้งคัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 23.40 น. สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนกันจำนวนหลายคัน และทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ที่บริเวณทางสามแยกสัญญาณไฟจราจรเข้าวัดบางกรูด บนถนนสิริโสธร ทางหลวงสาย 314 (ฉะเชิงเทรา-บางปะกง) ด้านฝั่งขาเข้า พื้นที่ ม.2 ต.คลองประเวศ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวณกลางทางสามแยกสัญญาณไฟ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ จอดแน่นิ่งคร่อมอยู่บนถนนระหว่างช่องจราจรที่ 2 และที่ 3 จากทั้งหมด 4 ช่องจราจรหลัก และอีก 1 ช่องทางกลับรถรวม 5 ช่องจราจร สภาพด้านหน้ามีร่องรอยของการพุ่งชนอย่างรุนแรงจนตัวรถบิดงอพังเสียหายยับเยิน
ภายในพบร่างของสองสามีภรรยาชายหญิงติดอยู่ภายในได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตทั้งคู่ในเวลาต่อมา ทราบชื่อคนขับ คือ นายกิตติ อายุ 28 ปี และ น.ส.ฝ้าย (ยังไม่ทราบชื่อจริง) อายุ 22 ปี ชาว จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นภรรยาคนขับและอยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ได้ประมาณ 3 เดือน
ที่บริเวณกลางช่องยูเทิร์นกลับรถห่างจากรถคันแรกไปประมาณ 10 เมตร พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีดำ สภาพถูกพุ่งชนด้านข้างซ้ายจนตัวรถได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซุ้มล้อหลังพังแหลกจนล้อรถเสียรูปทรงหลุดออกมา จอดแน่นิ่งอยู่ใกล้กับเสาแสดงสัญญาณไฟจราจร ที่หักพังลงมากองอยู่ที่พื้นด้านหน้ารถ มีว่าที่ร้อยตรีหญิง เสาวนีย์ อายุ 26 ปี เป็นคนขับ
ห่างเลยไปตามเส้นทางประมาณ 30 เมตร พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็คแบบ 4 ประตูสีบรอนซ์ สภาพด้านท้ายกระบะถูกพุ่งชนจนพังเสียหายยับเยิน โดยตัวกระบะทั้งด้านซ้ายและด้านขวามีรอยยุบเข้าไปจนถึงซุ้มล้อหลัง มี น.ส.ศุภไวทย์ อายุ 26 ปี เป็นคนขับ ยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้านข้างตัวรถ
นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีขาว จอดแอบชิดอยู่ริมข้างทางด้านซ้าย ห่างจากตัวรถเก๋งคันแรกมาประมาณ 15 เมตรสภาพถูกสะเก็ดชิ้นส่วนของตัวรถที่พุ่งชนกันกระเด็นตกลงมาใส่จนบริเวณด้านหน้าตัวรถได้รับความเสียหายเล็กน้อย มี นายวุฒิชัย อายุ 26 ปี เป็นคนขับ
จากการสอบถาม น.ส.ศุภไวทย์ เล่าว่า ขณะเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยัง อ.แปลงยาว ได้จอดหยุดรถรอสัญญาณไฟจราจร ที่บริเวณทางสามแยกแห่งนี้บนช่องจราจรที่ 3 จากทั้งหมด 5 ช่องจราจร แต่ในขณะที่กำลังจะเข้าเกียร์หนึ่งออกรถหลังจากได้รับสัญญาณไฟเขียวแล้ว ตัวรถได้ถูกรถคันหลังพุ่งเข้ามาชนกระแทกอย่างรุนแรง จนชิ้นส่วนคอนโซลหน้ารถกระเด็นหลุดออกมาจากที่ยึดจับ
แต่ไม่ทราบว่ารถคันไหนเป็นคันที่พุ่งเข้ามาชนเนื่องจากไม่ได้หันไปมองในขณะเกิดเหตุ แต่โชคดีที่ตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอะไรมากนัก เพียงเจ็บที่ขาจากแรงกระแทกเล็กน้อยเท่านั้น น.ส.ศุภไวทย์ กล่าว
ขณะที่ นายวุฒิชัย คนขับรถยนต์เก๋งฮอนด้าแจ๊ส เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถเดินทางกลับบ้านจากในเขตพื้นที่ จ.ชลบุรี ไปยัง อ.คลองเขื่อน เมื่อมาถึงยังที่เกิดเหตุตนขับรถมาบนเลนที่ 4 ช่องทางเดินรถด้านขวาสุด ได้ชะลอรถลงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นช่วงที่เพิ่งได้รับสัญญาณไฟเขียวพอดี โดยมีรถยนต์เก๋งคันสีดำขับตามหลังมา
จากนั้นตัวรถเก๋งคันสีดำได้ถูกแรงกระแทกจากทางด้านท้ายจนปลิวกระเด็นไปปะทะเข้ากับเสาไฟแสดงสัญญาณไฟจราจรจนพังเสียหาย จึงเชื่อว่ารถเก๋งโตโยต้าคันสีบรอนซ์นั้น ขับมาด้วยความเร็วและพุ่งเข้าชนที่ด้านท้ายของรถยนต์กระบะ ก่อนที่ตัวรถจะกระเด็นสะบัดจากแรงเหวี่ยงของการพุ่งชน เข้ามาถูกตัวรถเก๋งคันสีดำที่ด้านซ้ายปลิวไปกระแทกเข้ากับเสาสัญญาณไฟเขียวแดงที่เกาะกลางถนนดังกล่าว
ซึ่งโชคดีที่ตัวรถคันของตนนั้นไม่ได้ถูกพุ่งชน เพราะออกตัวมาได้ก่อนแล้วแต่ถูกชิ้นส่วนจากการพุ่งชนต่างๆ ของรถคันหลังปลิวลอยตกลงมาใส่จนได้รับความเสียหาย ก่อนที่จะนำรถแอบเข้าข้างทางดังกล่าว นายวุฒิชัย กล่าว
ขณะเดียวกัน หลังเกิดเหตุได้มี ญาติของนายกิตติ เดินทางมาดูยังในที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่า น้องชายได้ขับรถพาภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันแล้ว และกำลังตั้งครรภ์ได้ประมาณ 3 เดือนออกมาซื้อไก่ KFC ที่บริเวณสามแยกหัวเนิน และขณะกำลังจะขับรถกลับเข้าบ้านได้มาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ผู้ที่ขับรถมาประสบอุบัติเหตุนั้นมีอายุเท่ากันถึง 3 คน คือ อายุ 26 ปี จึงเป็นเรื่องที่บังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่บริเวณทางสามแยกไฟแดงแห่งนี้ ถือเป็นจุดอันตรายที่ผู้ใช้เส้นทางมักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นทางสามแยกสัญญาณไฟที่ลงเนินมาจากสะพานข้ามคลองประเวศบุรีรมย์พอดี
หากผู้ใช้เส้นทางใช้ความเร็วสูงจะไม่สามารถหยุดรถได้ทันจากการได้รับสัญญาณไฟแดง จึงมักจะเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนกันเป็นแถวบ่อยครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังปรับตั้งสัญญาณไฟในบริเวณดังกล่าวไม่เหมาะสมกับห้วงเวลาที่ผู้ใช้เส้นทางในช่วงต่างๆ ผ่านเส้นทาง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนซึ่งจะมีรถเลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางเข้าวัดบางกรูดไม่มากนัก
แต่กลับมีการเปิดให้สัญญาณไฟเขียวเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางแยกดังกล่าวด้วย และเปิดให้สัญญาณไฟแดงแก่รถที่ใช้เส้นทางหลัก ซึ่งเป็นทางตรงบ่อยครั้งทั้งที่ไม่มีรถเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางแยกถนนสายดังกล่าวเลย
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ