คนขับเก๋งใจทรามซิ่งแซงรถคันหน้าพุ่งชน จยย.ก่อนซิ่งหนี-หนุ่มสุพรรณฯ ถูกชนดับ
คนขับรถเก๋งสุดชุ่ยชนแล้วหนี เสยท้ายรถจักรยานยนต์ คุณพ่อเสียชีวิต ส่วนลูกชายวัย 8 ขวบ พร้อมภรรยาบาดเจ็บสาหัส
(21 มี.ค. 62) ร.ต.ท.ศรัณย์ ทองย้อย รองสว.สอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ถูกรถยนต์เฉี่ยวชนแล้วหลบหนี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย บนถนนช่องทางคู่ขนาน สายเอเชียช่วงเบี่ยงออก นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค หลักกิโลเมตรที่ 9 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสาน รถกู้ชีพ โรงพยาบาลปะอิน และสมาคมอยุธยารวมใจ ไปให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำแดง ทะเบียน จ.สุพรรณบุรี สภาพด้านหน้ารถพังยับเยินล้มคว่ำอยู่ข้างถนน ด้านท้ายรถมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนจนท่อไอเสียหลุด
โดยใกล้กันบริเวณต้นไม้ มีร่องรอยรอยถูกชนจนกิ่งไม้หัก และข้างต้นไม้ พบศพนายวิโรจน์ อายุ 34 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย อาการสาหัสเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำส่ง โรงพยาบาลบางปะอิน
ทราบชื่อต่อมา นางเกศรินทร์ อายุ 34 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต และ ด.ช.เพชรไพรวัลย์ อายุ 8 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต ตรวจสอบบนถนน พบร่องรอยการเฉี่ยวชนและไฟหน้าของรถยนต์เก๋งที่แตกตกอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบถาม น.ส.นารีรัตน์ อายุ 31 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ตนเองและสามีได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค เพื่อเดินทางกลับบ้าน พอถึงจุดเกิดเหตุ มีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขับนำหน้า ได้มีรถยนต์เก๋งไม่ทราบยี่ห้อ ขับแซงตนขึ้นไปอย่างเร็ว แล้วพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตอย่างแรง จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง
จากนั้นตนและสามีได้ขี่รถจักรยานยนต์ขับตามรถคู่กรณีไปแต่ตามไม่ทัน จึงย้อนกลับมาดูที่เกิดเหตุพบว่า มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตทำงานอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ก่อนเกิดเหตุภรรยาของผู้เสียชีวิตพร้อมกับลูกชายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปรับผู้เสียชีวิตที่โรงงาน เพื่อกลับบ้านพักใกล้กับที่เกิดเหตุ
เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่มืดไม่มีไฟส่องสว่าง ได้ถูกรถยนต์เก๋งไม่ทราบยี่ห้อรุ่นและสี ชนท้ายจนรถจักรยานยนต์เสียหลักตกข้างทางไปชนกับต้นไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการเร่งรัดสืบสวนติดตามหารถยนต์เก๋งคันที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป