ตำรวจตะครุบ "จอมโจรสาวแคมปัส" งัดปล้นมหาวิทยาลัยทั่วไทยกว่า 50 คดี
ตำรวจเชียงใหม่บุกรวบ "จอมโจรสาว" ตั้งเป้าลักขโมยตามมหาวิทยาลัยทั่วประเทศกว่า 50 ครั้ง เหนือ-ใต้-ออก-ตก ก่อเหตุมาครบทิศ อ้างต้องการเงินเลี้ยงลูกน้อย
(25 มี.ค.) พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตะสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ คุมตัว นางสาวแอม อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุงัดแงะขโมยทรัพย์สินห้องสำนักงานในมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ โดยนางสาวแอมได้นำชี้จุดต่างๆ ที่ก่อเหตุและแสดงวิธีการงัดแงะขโมยทรัพย์สิน ตรงตามพฤติการณ์ที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด ก่อนนำตัวไปสอบสวน
คดีดังกล่าวเริ่มต้นการสืบสวนขึ้น หลังกลางดึกวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ช้างเผือก รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปก่อเหตุงัดกรงเหล็กหน้าต่าง ห้องสำนักงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เข้าไปรื้อค้นขโมยเงินสดไปจำนวน 190,400 บาท ทิ้งหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นภาพคนร้ายสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าขณะก่อเหตุ
ต่อมาชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับ สภ.ช้างเผือก ร่วมกันสืบสวนและยังพบว่าคืนวันที่ 6 มีนาคม ได้เกิดเหตุลักษณะเดียวกันที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทรัพย์สินหายไป 30,000 กว่าบาท และ คืนวันที่ 7 มีนาคม ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อ.สันทราย คนร้ายได้เงินสดไป 54,500 บาท
เมื่อตรวจสอบย้อนหลัง ก็ได้พบว่าตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2561 เป็นต้นมา มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งในจังหวัดเชียงราย พะเยา และ ลำปาง ถูกงัดแงะขโมยทรัพย์สิน ซึ่งตำรวจเชื่อว่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกัน ที่มีพฤติการณ์ลักทรัพย์ต่อเนื่อง
ชุดสืบสวนแกะรอยจากภาพวงจรปิดหลายจุด กระทั่งทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นางสาวแอม ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในข้อหาลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า ก่อนติดตามจับกุมได้ในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองนครปฐม เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมหลักฐานเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ในการก่อเหตุ
จากการสอบสวน นางสาวแอม ให้การสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุในมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมทั้งได้ตระเวนก่อเหตุตามมหาวิทยาลัยอีกหลายสิบแห่งทั่วประเทศ โดยอ้างว่าสามีตกงานและต้องการเงินไปเลี้ยงดูลูกน้อยวัย 6 เดือน อีกทั้งยังยอมรับด้วยว่าติดพนันหวยหุ้น เงินที่ได้มานำไปเล่นหวยด้วยครั้งละหลายหมื่นถึงหลักแสน
ส่วนสาเหตุที่เลือกก่อเหตุในมหาวิทยาลัยเพราะเข้าออกง่าย สามารถปะปนไปกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ ก่อนลงมือแต่ละครั้งจะเข้าไปสำรวจสถานที่และกล้องวงจรปิด โดยเข้าไปในช่วงเย็น รอจนถึงเวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม เมื่อปลอดคนจึงก่อเหตุ เน้นห้องธุรการและห้องการเงิน ส่วนวิธีงัดห้องจะใช้ฆ้อนที่เตรียมไปงัดหน้าต่างและเหล็กดัด มุดตัวไปรื้อค้นขโมยทรัพย์สิน
ขณะที่ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุมาตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา โดยตระเวนไปตามมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วประเทศ ก่อเหตุมาแล้วกว่า 50 ครั้ง ได้ทรัพย์สินไปรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท แต่ละครั้งจะนั่งเครื่องบินไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อสำรวจสถานที่ก่อนจะลงมือ เมื่อก่อเหตุแล้วก็จะนั่งเครื่องบินไปก่อเหตุพื้นที่อื่นๆ แบบวันต่อวัน
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคม 2661 ขณะที่กำลังตั้งท้อง 8 เดือน ยังเข้าไปก่อเหตุที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จ.นครปฐม และ ล่าสุดไม่ถึงสัปดาห์ก่อนถูกจับ ยังเข้าไปก่อเหตุที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม โดยนอกจากติดพนันหวยหุ้นยังพบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย
หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เก็บดีเอ็นเอนางสาวแอมเพื่อใช้เทียบกับพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะรอยเท้า ที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เพื่อประกอบสำนวนส่งฟ้องดำเนินคดีต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป