“ตูน บอดี้สแลม” เตรียมวิ่งอีกครั้ง! ผนึกกำลัง “คิง เพาเวอร์” จัดตั้งมูลนิธิก้าวคนละก้าว

แรงบันดาลใจจากชายที่ชื่อ อาทิวราห์ คงมาลัย ไม่ได้สิ้นสุดอยู่ที่อำเภอแม่สายเมื่อปลายปี 2560 จากโครงการก้าวคนละก้าว ที่เขาวิ่งจากจุดใต้สุดสู่สูงสุดแดนสยามเป็นระยะทาง 2,215 กิโลเมตร เพื่อระดมทุนช่วยเหลือ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ล่าสุด ตูน บอดี้สแลม เตรียมออกวิ่งอีกครั้งในช่วงกลางปีนี้ พร้อมจัดตั้งมูลนิธิก้าวคนละก้าว จากการร่วมมือของ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (อังคารที่ 26 มีนาคม 2562) ณ โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว มูลนิธิก้าวคนละก้าว เพื่อสานต่อแรงบันดาลใจให้ชาวไทยทั้งประเทศดูแลเอาใจใส่รักษาสุขภาพของตนเองอย่างยั่งยืน นอกจาก ตูน จะมาร่วมงานแล้ว ยังได้รับเกียรติจาก อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มาร่วมพูดคุยบนเวที ร่วมด้วย อรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา, ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ, หมอเมย์ หรือ พญ.สมิตตา สังขะโพธิ์ และทีมงานก้าวคนละก้าวที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน

 

สานต่อแรงบันดาลใจ

“เพราะเราเชื่อในพลังเล็กๆ” ประโยคสั้นๆ แต่ล้นเหลือด้วยพลังมหาศาล จุดเริ่มต้นของการพยายามแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์จากชายคนหนึ่ง ซึ่งบทบาทหลักคือการเป็นนักร้องนำวงร็อคแถวหน้าของประเทศอย่าง บอดี้สแลม แต่บทบาทที่เพิ่มเติมขึ้นมาในช่วงหลายปีหลังก็คือ การเป็นฮีโร่ของคนไทยทั้งประเทศ... ตูน บอดี้สแลม

จากโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน ในปี 2559 สู่ปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของเมืองไทยในปีถัดมา กับการได้เงินบริจาคกว่า 1,400 ล้านบาท ทว่าปัญหาทั้งในเรื่องงบประมาณที่ยังมาไม่ถึง และจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็เพิ่งจะได้รับการแก้ไขแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น

“ผมอยากจะทำต่อในแบบของเรา เพราะว่าเรามีความสุขที่ได้ทำในวิธีการของเรา” ตูน กล่าวบนเวที “เราไม่ได้ต้องการเป็นแค่กลุ่มบุคคลที่ทำกิจกรรมเพื่อขอรับเงินบริจาคอย่างเดียว ในทางกลับกันเราอยากเป็นคนที่สร้างแรงบันดาลใจด้วย เราไม่ได้อยากเป็นเหมือนซองผ้าป่าที่ไปหาใครแล้วใครก็ไม่อยากทำ เราอยากเป็นกลุ่มคนที่ขับเคลื่อน สร้างแรงบันดาลใจดีๆ รวมถึงเรื่องของการบอกเล่าว่า พี่ๆ คุณหมอ พยาบาล เหนื่อยมากแค่ไหน”

นั่นจึงเป็นที่มาของการจัดตั้ง “มูลนิธิก้าวคนละก้าว” เพื่อที่จะสามารถช่วยเหลือสังคมได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเชิญชวนให้ทุกคนหันมาออกกำลังกายและดูแลรักษาสุขภาพพื้นฐานของตนเองให้แข็งแรง เพื่อเป็นการลดภาระของโรงพยาบาลนั่นเอง

เตรียมออกวิ่งอีกครั้ง 5 ภาคทั่วประเทศ

ก่อนที่บนเวทีจะเข้าถึงใจความสำคัญทั้งในเรื่องมูลนิธิก้าวคนละก้าว และโปรเจกต์ที่ ตูน เตรียมออกวิ่งอีกครั้ง อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ผู้บริหารจากกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ก็เผยเรื่องราวที่หลายคนไม่เคยทราบมาก่อน อาทิ การที่นักเตะของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ในลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ กล่าวถึง ตูน บอดี้สแลม ว่าเป็นบุคคลที่ Crazy หรือบ้าคลั่งมาก รวมถึงยกให้ชายคนนี้เป็น “พลังบวก” ของประเทศ

และในกลางปีนี้ การออกวิ่งครั้งใหม่ก็จะเริ่มต้นขึ้น กับโปรเจกต์ที่จะมุ่งไปสู่ 5 ภาคของประเทศไทย อีสาน ใต้ เหนือ ตะวันออก และภาคกลาง กับการมุ่งเน้นให้ทุกคนในสังคมหรือชุมชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมวิ่งการกุศลครั้งนี้ โดยแต่ละภาคเป็นการวิ่งระยะสั้น ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ไฮไลต์จะอยู่ใน 10 กิโลเมตรสุดท้ายที่ทางโครงการตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะสร้างสถิติมีผู้ร่วมวิ่งใน 10 กิโลเมตรสุดท้ายของแต่ละภาคมากที่สุดอีกด้วย

ตูนกล่าวบนเวทีว่า การวิ่งในครั้งนี้อาจจะมีลักษณะคล้ายการวิ่งผลัด เช่น เขาอาจจะวิ่งใน 10 กิโลเมตรแรก ก่อนจะส่งต่อให้เซเลบท่านอื่นๆ รวมถึงคนในชุมชนละแวกนั้นให้มาร่วมวิ่งด้วยกัน และใน 10 กิโลเมตรสุดท้าย เขาก็อยากจะเห็นภาพอันยิ่งใหญ่ที่ทุกคนจะมาแสดงพลังในการดูแลตัวเองร่วมกัน

ตูน บอดี้สแลม

ผุดรายการ “ไทยบันดาลใจ”

นอกจากจะมีกิจกรรมวิ่งครั้งใหม่แล้ว มูลนิธิก้าวคนละก้าว ยังเตรียมสร้างคอนเทนต์ทางออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กเพจ ก้าว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งมิติของการสร้างแรงบันดาลใจ โดยจะใช้ชื่อรายการว่า “ไทยบันดาลใจ” กับการเล่าเรื่องราวของคนไทยธรรมดาๆ ที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตนเอง “คนเหล่านั้นเริ่มต้นอย่างไร คิดอะไรอยู่ เหนื่อยไหม แล้วทำไมพวกเขาถึงทำได้สำเร็จ มันไม่จำเป็นต้องเป็นผมแล้ว ใครก็รู้ว่าพี่ตูนเขาทำมา เป็นคราวของคนไทยธรรมดาๆ ที่จะออกมาบันดาลให้ทุกคนครับ” ตูนกล่าว

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และ ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย

 อยากให้ทุกคน... ดูแลสุขภาพของตนเอง

ช่วงเวลาที่ดำเนินไปเรื่อยๆ บนเวที ทุกคนภายในงานแถลงข่าวต่างรับทราบถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่ ตูน เน้นย้ำเสมอก็คือ คนไทยทุกคนสามารถทำได้ไม่ต่างจากที่เขาทำ

“ทุกคนสามารถที่จะช่วยโรงพยาบาลหรือทำสิ่งดีๆ กับคนอื่นได้เลย ณ บัดนี้ ด้วยการดูแลหน่วยเล็กที่สุดก็คือ ดูแลตัวเองให้ดี ทั้งทางร่างกายก็ดี จิตใจก็ดี หรือโภชนาการต่างๆ ก็ดี เพราะผมเชื่อว่า เมื่อทุกคนดูแลสิ่งที่เล็กที่สุดของตัวเองอย่างดีที่สุด ซึ่งมันทำได้เลย กินอาหารดีๆ ออกกำลังกายอย่างมีความสุข ทุกคนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จะทำงานที่ตัวเองรับผิดชอบได้ดีขึ้นโดยอัตโนมัติ หน่วยเล็กๆ ของทุกคนก็จะประกอบกันเป็นหน่วยใหญ่ เป็นสังคมๆ หนึ่งที่ดีขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น หรืออาจจะประกอบกันเป็นประเทศๆ หนึ่งที่ดีขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้นเองโดยที่ทุกคนไม่ต้องออกไปทำสิ่งใหญ่ๆ ที่เกินตัวและอาจจะทำไม่ได้จริงด้วยซ้ำ สิ่งที่ทำได้จริงคือทุกคนดูแลตัวเองให้ดีที่สุด”

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ บริษัทของคนไทย ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย ก็ขอมอบเงินสนับสนุนตั้งต้นจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิอีกด้วย

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊กเพจ ก้าว และ King Power Thai Power พลังคนไทย แล้วมาร่วม “วิ่งกับพี่ตูน” ไปด้วยกัน