จับแก๊งญี่ปุ่น ใช้ไทยตั้งฐาน หลอกทวงหนี้ เหยื่อสูญเงินกว่า 25 ล้าน

สตม.ระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติ-ค้ามนุษย์-Overstay ใน จ. ชลบุรี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการระดมปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่รับผิดชอบของ บก.ตม.3 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562

จากการปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 31 แห่ง จับกุมผู้ต้องหารวม 227 ราย แบ่งเป็น หลบหนีเข้าเมือง 14 ราย, จับกุมตาม มาตรา 37 29 ราย, จับกุมตาม มาตรา 38 115 ราย, พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ 53 ราย และข้อหาอื่น ๆ 15 ราย (ยาเสพติด และค้ามนุษย์)

สืบเนื่องจากปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยตรวจค้นสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งมีการลักลอบขายบริการทางเพศโดยมีหญิงซึ่งอายุต่ำกว่า 18 ปี ด้วย ขณะที่สามารถทำการจับกุม หญิงไทย จำนวน 4 ราย คือ น.ส.เบ็ญญา อายุ 22 ปี โดยกล่าวหาว่า ค้ามนุษย์ แสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี, เป็นเจ้าของกิจการการค้าประเวณี, ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ส่วนอีก 3 ราย คือ น.ส.ศิรินภรณ์ หรือบี อายุ 32 ปี, น.ส.อรทัย อายุ 31 ปี และ น.ส.วราภรณ์ อายุ 23 ปี กล่าวหาว่า เข้าไปติดต่อชักชวนบุคคลเพื่อการค้าประเวณี, มั่วสุมในสถานการค้าประเวณี ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาลแขวงพัทยา เข้าค้นบ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่เดียวกัน โดยผู้เช่าคือ Mr.Tomoki สัญชาติญี่ปุ่น สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่น จำนวน 15 ราย พร้อมของกลางโทรศัพท์ 52 เครื่อง คอมพิวเตอร์พกพา 19 เครื่อง เครื่อง router ขยายสัญญาณ 37 ตัว โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงอ้างตนเป็นพนักงานติดตามทวงหนี้ของบริษัทญี่ปุ่น โดยจะปลอมใบแจ้งหนี้และหมายศาลส่งไปหาเหยื่อ ก่อนใช้โทรศัพท์ติดตามทวงหนี้ที่ไม่มีอยู่จริง โดยหลอกลวงให้ผู้เสียหายส่งรหัสบัตรเติมเงินซึ่งซื้อจากร้านสะดวกซื้อในประเทศญี่ปุ่นให้กลุ่มผู้ถูกจับ เบื้องต้นมีผู้เสียหายกว่า 500 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 89 ล้านเยน (ประมาณ 25 ล้านบาท)