หมอชี้คาร์ราดีนตายลักษณะออโต้อีโรติก

หมอชี้คาร์ราดีนตายลักษณะออโต้อีโรติก

หมอชี้คาร์ราดีนตายลักษณะออโต้อีโรติก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมอพรทิพย์ ชี้การตายของดาราฮอลลีวูดเข้าลักษณะออโต้อีโรติก สำเร็จความใคร่จนไม่รู้สึกตัวว่าเชือกรัดคอ ด้านผบช.น. ระบุ 2 ปม เดวิด คาร์ราดีน เสียชีวิต

(5มิ.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของเดวิด คาร์ราดีนนักแสดงชื่อดังของฮอลลีวูดที่เสียชีวิตในโรงแรมหรู ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ประเทศไทย ว่า ในทางนิติวิทยาศาสตร์จากพยานแวดล้อมศพ ตามหลักวิชาการน่าจะเป็นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในลักษณะออโต้อีโรติก ซึ่งเกิดจากการจินตนาการอารมณ์ทางเพศ เพื่อสำเร็จความใคร่ทางเพศ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พบมากในชาวต่างชาติ โดยคนกลุ่มนี้จะจินตนาการทางเพศจนกระทั่งไม่รู้สึกตัวว่าเชือกรัดคอและเสีย ชีวิต

พ.ญ.คุณหญิง พรทิพย์ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลที่สนับสนุนการเสียชีวิตลักษณะออโต้อีโรติก ได้แก่ 1.เป็นเพศชาย 2.มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ 3.สภาพศพเปลือยกาย และ4.มีเครื่องพันธนาการที่อวัยวะเพศ โดยทั่วไปหากสภาพศพเข้าข่ายลักษณะข้างต้นการเสียชีวิตก็ไม่น่ามีผู้อื่น เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ข้อสันนิษฐานดังกล่าว เป็นเพียงการประมวลตามหลักวิชาการทางนิติวิทยาศาสตร์ อาจไม่ถูกต้องทั้ง 100 เปอร์เซนต์ ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับพยานแวดล้อมหรือหลักฐานในที่เกิดเหตุอื่นๆ

ด้านพล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. กล่าวว่า เบื้อต้นยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากทางนิติเวช จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการรื้อค้นแต่อย่างใด และได้นำน้ำดื่มในห้องผู้ตายไปตรวจหาว่ามีสารพิาหรือไม่ และได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณห้องผู้ตายก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่อย่างใด ส่วนเชือกที่ใช้ผูกคอเป็นเชือกคนละเส้นกับที่ผูกอวัยวะเพศ แต่มีการนำเชือก 2 เส้นมาผูกโยงติดกัน และโยงไปผูกกับราวแขวนผ้าในตู้เสื้อผ้า ซึ่งการกระทำดังกล่าวเคยเกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรือไปเป็นการสำเร็จความใคร่ เพราะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากทางแพทย์ ว่าจะเป็นการขาดอากาศหายใจจากการถูกเชือกรัดที่คอ หรือหัวใจล้มเหลวเพราะช่วยตัวเอง

ผบช.น. กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกเพื่อน และทีมงานกองถ่ายภาพยนตร์ มาสอบถามพูดคุย แต่ยังไม่คืบหน้า หรือได้เบาะแส เพราะทางทีมงานไม่ได้สงสัยในเรื่องของการฆาตกรรมแต่อย่างใด บอกเพียงว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ดื่มเบียร์ตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงช่วงเย็น และได้ติดต่อไปสถานพูตเพื่อจะติดต่อให้ภรรยาของผู้ตายที่อยู่ต่างประเทศมา ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook