พรรคเพื่อไทยจี้ กกต.เผยสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ-ผลคะแนนทุกหน่วยที่ถูกต้อง

พรรคเพื่อไทยจี้ กกต.เผยสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ-ผลคะแนนทุกหน่วยที่ถูกต้อง

พรรคเพื่อไทยจี้ กกต.เผยสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ-ผลคะแนนทุกหน่วยที่ถูกต้อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (1 เม.ย. 62) พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยฝ่ายกฎหมายของพรรค อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายโภคิน พลกุล นายชัยเกษม นิติสิริ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และนายนพดล ปัทมะ ร่วมกันออกแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย ขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยผลคะแนนของหน่วยเลือกตั้ง ชี้แจงจำนวนบัตรที่เพิ่ม และเปิดเผยวิธีการคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ นายนพดล เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ดังกล่าว โดยมีเนื้อหาและรายละเอียด ดังนี้

แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย เรื่อง ขอให้เปิดเผยผลคะแนนของหน่วยเลือกตั้ง ชี้แจงจำนวนบัตรที่เพิ่ม และเปิดเผยวิธีการคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่ถูกต้อง

ตามที่มีการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งประชาชนทุกภาคส่วนมีข้อสงสัยและตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง การนับคะแนน การเปิดเผยผลคะแนนที่ล่าช้า และมีตัวเลขที่มีข้อสงสัย รวมทั้งข่าวเกี่ยวกับการคำนวณคะแนนบัญชีรายชื่อที่อาจไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยขอแถลงดังนี้

1. พรรคขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยผลการนับคะแนนรายหน่วยเลือกตั้งโดยพลัน เนื่องจากประชาชนมีสิทธิที่จะตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ จำนวนบัตรดีและบัตรเสีย รวมทั้งคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับ เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเลขที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้แถลงนั้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งในประเด็นนี้ พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย 6 พรรค ได้ทำหนังสือยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อเปิดเผยผลคะแนนดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 2562 แต่ขณะนี้ กกต. ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ

2. จากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้แถลงเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 33,775,230 คน (65.96% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง) แต่ 4 วันต่อมา คณะกรรมการการเลือกตั้งกลับแถลงว่า มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเท่ากับ 38,268,375 คน (74.69% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง) จึงมีคำถามว่าทำไมจำนวนผู้มาใช้สิทธิจึงแตกต่างและมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 4,493,145 คน (ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 8.73%) ซึ่งทราบจากรายงานข่าวว่า กกต. ชี้แจงว่า บัตรเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นมาถึงกว่า 4 ล้านใบนั้น เป็นเพราะจำนวนผู้มาใช้สิทธิที่แถลงไปในวันเลือกตั้ง ยังไม่ครบผู้มาใช้สิทธิทั้งหมดและยังไม่ได้รวมจำนวนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตราว 2.3 ล้านใบ และบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรราว 100,000 ใบ

พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการเปิดเผยตัวเลขผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ควรสามารถกระทำได้ภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังปิดหีบเลือกตั้ง ไม่ควรปล่อยเวลาให้ผ่านไปถึง 4 วันภายหลังจากที่มีการเรียกร้องจากหลายฝ่ายค่อยเปิดเผยเช่นนี้ ทำให้ประชาชนยังเคลือบแคลงและตั้งคำถามว่ากระบวนการจัดการและการนับคะแนนเลือกตั้งมีความโปร่งใสหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่มีคำอธิบายที่รับฟังได้ จะเป็นการยากที่ประชาชนจะยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เสรีและเป็นธรรม และจะเป็นทางออกให้กับประเทศ

3. จากที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีการคำนวณคะแนนและจัดสรรที่นั่ง ส.ส. ตามระบบบัญชีรายชื่อให้แก่พรรคขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลถึงการรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล พรรคขอเรียกร้องให้ กกต. ชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ว่าเป็นไปตามข่าวหรือไม่ พรรคมีความเห็นว่าการคำนวณที่นั่ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ให้แต่ละพรรคการเมืองนั้น มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนแน่นอน มิอาจกระทำได้ตามอำเภอใจ โดยต้องกระทำตามบทบัญญัติมาตรา 91 แห่งรัฐธรรมนูญ และมาตรา 128 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 (4) บัญญัติว่า

“ถ้าพรรคการเมืองใดมีผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เท่ากับหรือสูงกว่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้ตาม (๒) ให้พรรคการเมืองนั้น มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามจำนวนที่ได้รับจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และไม่มีสิทธิได้รับการจัดสรรสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และให้นำจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อทั้งหมดไปจัดสรรให้แก่พรรคการเมืองที่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ต่ำกว่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้ตาม (๒) ตามอัตราส่วน แต่ต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดดังกล่าวมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกินจำนวนที่จะพึงมีได้ตาม (๒)”

ซึ่งความตอนท้ายของมาตรา 91 (4) ที่ระบุว่า “แต่ต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดดังกล่าวมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกินจำนวนที่จะพึงมีได้ตาม (๒)” เป็นสาระสำคัญที่ห้ามมิให้จัดสรรที่นั่งให้แก่พรรคที่ไม่มี ส.ส.ที่พึงมีตั้งแต่ต้น กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรรที่นั่ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเพิ่มเติมนั้น จะต้องเป็นพรรคการเมืองที่มี ส.ส.พึงมีอย่างน้อย 1 คนขึ้นไปเท่านั้น

ดังนั้น พรรคจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยแนวทางและวิธีการคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่ถูกต้องให้แก่สาธารณชนได้ทราบ มิใช่ปล่อยให้คลุมเครือและมีการตีความบทบัญญัติแห่งกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองของตนเอง

พรรคเพื่อไทย
1 เมษายน 2562

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook