ทิม-ต่าย มองอีกมุม! เพจกฎหมายวิเคราะห์สาเหตุฝ่ายหญิงไม่ไปศาลสู้คดีแย่งลูก

ทิม-ต่าย มองอีกมุม! เพจกฎหมายวิเคราะห์สาเหตุฝ่ายหญิงไม่ไปศาลสู้คดีแย่งลูก

ทิม-ต่าย มองอีกมุม! เพจกฎหมายวิเคราะห์สาเหตุฝ่ายหญิงไม่ไปศาลสู้คดีแย่งลูก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพจ เก๋ากฎหมาย ซึ่งเป็นเพจที่นำเสนอกฎหมายที่เข้ากับกระแสและสถานการณ์ ให้ความเห็นต่อเรื่องราวระหว่าง ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ ที่ฝ่ายหญิงไม่ไปปรากฏตัวที่ศาล ในคดีที่ฝ่ายชายฟ้องหย่าและขอให้ศาลตัดสินเกี่ยวกับสิทธิ์การดูแลลูก ว่าอาจไม่ใช่เป็นเพราะฝ่ายหญิงไม่ได้รักลูก เพราะที่ผ่านมามีการแสดงให้เห็นว่าเป็นห่วงลูกมากๆ

"มันแปลกตรงที่ฝ่ายหญิงที่เป็นแม่ ซึ่งตามธรรมชาติแล้วคงรักลูกสุดหัวใจ การไม่ไปสู้คดีในศาลทั้งที่ก่อนหน้านี้ประกาศตามหาลูกเป็นห่วงแทบใจจะขาด คงมีอยู่ไม่กี่กรณีสำคัญๆ"

>> "ทิม พิธา" เปิดใจมีการฟ้องหย่า "ต่าย ชุติมา" เผยตนได้สิทธิ์เลี้ยงดูบุตรแต่เพียงผู้เดียว

เชื่อฝ่ายหญิงไม่ได้รับหมายศาล

สาเหตุที่เพจนี้มองไว้ คือ 2 กรณี คือ

  1. ทนายลืมหรือตั้งใจไม่ไปศาล ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นไปได้นัก เนื่องจากฝ่ายหญิงเป็นผู้ถูกฟ้อง ถ้าหากทราบเรื่องคงไม่มีทางนิ่งนอนใจไปได้ เพราะไม่อย่างนั้นก็ต้องเสียสิทธิ์ดูแลลูกไปแบบง่ายๆ
  2. ส่วนอีกกรณีคือ ไม่ได้รับหมายศาล เพราะบ้านที่อยู่ในปัจจุบัน อาจไม่ใช่บ้านตามทะเบียนบ้าน ทำให้ไม่ทราบมีว่าหมายศาลมาส่ง หรือเพิ่งมาทราบทีหลัง จึงเป็นเหตุให้ฝ่ายหญิงมาขอพิจารณาคดีใหม่ในที่สุด

ทีมงานของเพจเก๋ากฎหมาย ให้สัมภาษณ์กับ Sanook.com ว่า การไม่ได้รับหมายศาลเพราะที่อยู่ตามทะเบียนบ้านและที่อยู่ปัจจุบันไม่ตรงกัน เหมือนกับกรณีนี้ พบได้บ่อยครั้ง ทั้งยังทำให้ผู้ถูกฟ้องแพ้คดีหรือเสียสิทธิ์บางอย่างอย่างน่าเสียดาย จึงแนะนำให้ย้ายชื่อในทะเบียนบ้านให้เรียบร้อย

แนะงดแถลงข่าว หวั่นกระทบจิตใจเด็ก

เพจเก๋ากฎหมายแสดงความเป็นห่วงอีกว่า การที่มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องลูกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างที่เกิดขึ้น อาจส่งผลต่อความรู้สึกของเด็กได้ในอนาคตได้ การแก้ปัญหาในครอบครัวควรใช้จิตวิทยามากกว่านี้ และฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือทั้งสองฝ่าย ไม่ควรตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพราะข่าวจะอยู่ในอินเทอร์เน็ตไปอีกนานแสนนาน

"ขอฝากเน้นย้ำกับบรรดาพ่อและแม่ทั้งหลาย เวลาทะเลาะกันอย่าเอาลูกเป็นตัวประกัน สงสารเด็ก อย่าแถลงข่าวไปว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิด อีกฝ่ายจะเสียและฝ่ายนั้นคือพ่อและแม่ของลูก ข่าวจะอยู่บนโลกออนไลน์ไปอีกนานจนลูกโตหากมาเห็นเข้า ว่าครั้งหนึ่งพ่อแม่มีเรื่องทะเลาะกัน ลูกโตมาอายเพื่อน ผลร้ายจะเกิดกับลูก รักลูกจริงช่วยกันอย่าใช้ลูกเป็นตัวประกัน" เพจเก๋ากฎหมาย ให้ความเห็น

เตือนคนทั่วไปย้ายทะเบียนบ้านให้ตรงกับที่อยู่จริง หวั่นซ้ำรอย

เพจด้านกฎหมายเพจนี้ ย้ำอีกว่า ผู้อ่านควรย้ายทะเบียนบ้านให้ตรงกับที่อยู่จริง และไม่แนะนำให้ใช้ลูกเป็นตัวประกัน เพราะไม่ว่าจะชนะหรือแพ้คดี ผู้ที่ได้รับผลกระทบคือลูก ดังนั้นควรวางแผนให้เป็นประโยชน์ต่อตัวลูกมากกว่า

"สุดท้ายอย่าลืมไปย้ายทะเบียนบ้านให้ตรงกับที่อยู่จริงกันนะครับ และสำคัญที่สุดทะเลาะกันอย่าใช้ลูกเป็นตัวไปกัน ชนะหรือแพ้คดีลูกก็ช้ำ หากรักลูกจริงต้องคุยกัน คุยกันไม่ได้ก็ให้ศาลช่วยตัดสินไกล่เกลี่ยอย่าใช้เทคนิคกฎหมายกับเรื่องลูก อย่าฟังคำแนะนำเทคนิคให้ชนะคดีที่เกี่ยวกับลูก เพราะมันไม่จบหรอกครับ อุทธรณ์ ฎีกา แย่งลูกอุ้มลูกกัน ไม่ให้เจอลูก เอาลูกไปซ่อน ให้ลูกเกลียดอีกฝ่ายโอ้ยใจคอทำด้วยอะไร จะทำไปเพื่ออะไรกัน

จะวางแผนทั้งที วางแผนให้เก๋าสำหรับลูก ดีกว่าตัวเองเก๋าในสายตาคนอื่น"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook