บุกทลายร้านคาราโอเกะ ลอบค้าประเวณีเด็ก-พบบัญชีจ่ายเงินให้ตำรวจระดับบิ๊ก

ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ จ.เชียงราย บุกทลายร้านคาราโอเกะ ลอบค้าประเวณีเด็ก รวบ 2 ผัวเมียอ้างเป็นเจ้าของร้าน ตีมึนบอกตำรวจว่า ไม่ทราบว่าต้องมีใบอนุญาติเปิดสถานบริการ

(3 เม.ย. 62) ช่วงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง โดยการนำของ นายมานะ สิมมา ผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ และ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม

ได้สนธิกำลังเข้าจับกุม ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย หลังมูลนิธิรณสิทธิ์ ได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม กรมการปกครองว่า ร้านดังกล่าวได้มีลักลอบนำหญิงสาวเข้ามาค้าประเวณีภายในร้าน

จากการสอบถาม นายสุทัศ (ขอสงวนนามสกุล) รับว่าเป็นเจ้าของร้าน และมี น.ส.เฮง ซึ่งเป็นภรรยา เป็นผู้ดูแลร้าน จากการตรวจสอบเพิ่มเติมภายในร้าน ยังพบถุงยางอนามัยเป็นจำนวนมาก น้ำยาหล่อลื่น และสมุดขึ้นรอบของพนักงาน  ซึ่งผู้จดบันทึกคือ นายสุทัศ เจ้าของร้าน

ทั้งนี้ ยังพบสมุดที่เจ้าของร้านอ้างว่า เป็นบัญชีรายจ่ายที่จ่ายให้กับ จนท. ซึ่งมีรายชื่อของทั้งตำรวจในท้องที่ และจากส่วนกลางตั้งเเต่รองผู้การสืบภาค 5 - สภ.พาน ตำรวจกองปราบปราม เจ้าหน้าที่ ปคม. สายตรวจรถจักรยานยนต์ สายตรวจรถยนต์ ตำรวจภาค 5 สันติบาล ตำรวจตรวจคนเข้ามเอง และทาง สคบ. เป็นต้น ซึ่งทางเจ้าของร้านรับว่ามีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้เดือนละประมาณ 20,000 บาท

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกชุดได้ตรวจค้นห้องพักใกล้ๆ ร้านคาราโอเกะดังกล่าว พบหญิงสาวซึ่งเป็นพนักงานของร้านมาให้บริการทางเพศ จำนวน 3 คน  เป็นชาวเมียนมา อายุไม่ถึง 18 ปี จำนวน 2 คน และ อายุ 39 ปี อีก 1 คน 

โดยเป็นหญิงบริการของร้าน ทำหน้าที่พนักงานเสิร์ฟ และค้าประเวณีให้กับนักท่องเที่ยว โดยทางร้านคิดค่าบริการครั้งละ 1,100 บาท โดยหักเป็นค่าที่พัก 100 บาท และ เจ้าของร้าน จะหักค่าตัวครั้งละ 500 บาท  ซึ่งหลักจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด หญิงบริการทั้ง 3 ราย จะได้รับค่าตัวครั้งละ 500 บาท เท่านั้น

จากการสอบถามทาง นายทุทัศ เจ้าของร้านถึงใบอนุญาติเปิดสถานบริการ นายสุทัศ ไม่มีแสดงให้ดู โดยอ้างว่า ไม่ทราบว่าต้องขออนุญาติ

เบื้องต้น ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันตั้งสถานค้าประเวณี , มั่วสุมค้าประเวณีภายในร้าน” และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป