อจ.ใหญ่ เนวิน คุมภท.ลุยท้องทุ่ง! ชวรัตน์ มึนเลิกดำนาก่อนอ้างรู้ซึ้งแล้ว

อจ.ใหญ่ เนวิน คุมภท.ลุยท้องทุ่ง! ชวรัตน์ มึนเลิกดำนาก่อนอ้างรู้ซึ้งแล้ว

อจ.ใหญ่ เนวิน คุมภท.ลุยท้องทุ่ง! ชวรัตน์ มึนเลิกดำนาก่อนอ้างรู้ซึ้งแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"เนวิน" สั่งห้ามภท.โดดสัมมนาคุยจะทำให้พรรคยั่งยืนไม่อวดรู้"ชวรัตน์"มึนหัวเลิกดำนาก่อนอ้างรู้ซึ้งถึงความลำบากต้องช่วยชาวนาส.ส.พท.เปิดตัวขอซบภูมิใจไทย อีกคนส.ส.พท.เปิดตัวขอซบบ้าง อจ.ใหญ่"เนวิน"กำกับทุกฝีก้าว

"เนวิน" สั่งห้ามภท.โดดสัมมนา

พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยังคงยึดบริเวณวัดโนนสวรรค์ ต.หนองใหญ่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ปักหลักสัมมนา และทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้านตลอดวันที่ 6 มิถุนายน โดยกล่าวอ้างเพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่มาปรับใช้เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป ในขณะที่จะมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 สกลนครแทนตำแหน่งที่ว่าง โดย ภท.ส่งสมาชิกพรรคลงแข่งขันชิงเก้าอี้กับพรรคเพื่อไทย (พท.) เจ้าของที่นั่งเดิมด้วย

ทั้งนี้ ช่วงดึกคืนวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมาธิปไตย ภท. ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที ถึงแนวทางการแก้ปัญหาภัยแล้งและโครงการน้ำแก้จน ระหว่างนั้นหม้อแปลงไฟฟ้า หลังเวทีเกิดระเบิดขึ้น ไฟบนเวทีดับ ไม่สามารถใช้ไมโครโฟนได้ ซึ่งทีมงานได้ใช้ไฟสำรองให้นายสมศักดิ์ได้พูดต่อ ถัดจากนั้นนายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน ภท. ขึ้นกล่าวสรุปพร้อมกับแซวนายสมศักดิ์ของแรง พูดอะไรออกไปถึงขั้นหม้อแปลงระเบิด

นายเนวินกล่าวว่า เป็นนักการเมืองมาหลาย 10 ปี เห็นการเมืองก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีทั้งประชาธิปไตย การปฏิวัติ และกลับมาเป็นประชาธิปไตย ที่มีการเลือกตั้ง สิ่งที่ปรากฏคือความไม่ยั่งยืนของนักการเมืองและพรรคการเมือง แต่ ภท.ต้องอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน "ผมต้องการให้สมาชิกพรรรคภูมิใจไทย รับรู้ถึงปัญหาของประชาชน จึงให้ทุกคนมาเรียนรู้การใช้ชีวิตของชาวบ้าน เพราะทุกคนจะต้องรู้ว่านโยบายประชานิยมสังคมเป็นสุขจะต้องทำอย่างไร วันนี้ทุกคนจึงเป็นนักศึกษาและห้ามออกไปจากพื้นที่ โดยผม นายสมศักดิ์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล จะเดินตรวจทุกบ้าน หากใครไม่สู้ไม่อยู่กับชาวบ้านก็ไม่ควรเป็นนักการเมือง" นายเนวินกล่าว

คุยจะทำให้พรรคยั่งยืนไม่อวดรู้

นายเนวินกล่าวว่า การที่เลือกมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้เพราะเป็นหมู่บ้านที่ไม่มีความขัดแย้ง มีการใช้ 4 ภาษา แต่ยังสามารถเข้าใจกันได้เป็นอย่างดี ทุกคนต้องเรียนรู้ว่าอะไรคือความสุขและความสามัคคี และขอให้ทุกคนทำการบ้านมาส่ง โดยหาปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละบ้านที่ทุกคนอาศัยอยู่ และการมีชีวิตอยู่อย่างยั่งยืนเป็นอย่างไร และจะแก้ปัญหาอย่างไร เมื่อรู้ปัญหาของชาวบ้าน ก็จะสามารถยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาชนได้ต่อไป เพราะการที่จะกำหนดนโยบายไม่ใช่ว่านักการเมืองจะกำหนดนโยบายตามใจตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่าง นึกว่าตัวเองถูก คนพวกนี้หลงทางมาเยอะแล้ว การบ้านที่สั่งจะมีการนำมารวบรวมและกำหนดเป็นนโยบายของพรรค ที่จะทำให้พรรคยั่งยืน เพราะเคยมีนักการเมืองที่อวดว่าตัวเองรู้ดี ซึ่ง ภท.อย่าทำตัวเป็นพหูสูต

เมื่อเสร็จสิ้นงานภาคกลางคืนที่จัดขึ้นบริเวณลานวัด สมาชิกพรรคต่างกลับไปพักผ่อน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้า ภท.พักบ้านของชาวบ้าน ที่เป็นไม้ยกสูง เลี้ยงวัวอยู่ใต้ถุนบ้าน นายเนวินนอนที่ศาลาวัดโนนสวรรค์ ในช่วงเช้าวันที่ 6 มิถุนายนผู้สื่อข่าวถามนายชวรัตน์ว่า นอนได้หรือไม่ นายชวรัตร์บอกว่า "สบายมาก สู้ตาย" พร้อมชู 2 นิ้ว

"ชวรัตน์"มึนหัวเลิกดำนาก่อน

ทั้งนี้ หลังจากสมาชิกรับประทานอาหารเช้าที่บ้านพักของแต่ละคนแล้ว ได้รวมตัวกันที่วัดโนนสวรรค์ ในเวลา 07.30 น. เพื่อถวายอาหารเช้าพระภิกษุและฟังธรรม ก่อนลงพื้นที่ทดลองทำนาในเวลา 10.00 น. โดยเมื่อไปถึงบริเวณแปลงนา นายเนวินให้รัฐมนตรีทุกคนลงไปในนาซึ่งเป็นโคลนมีความลึกประมาณครึ่งหน้าแข้ง อย่างไรก็ตาม ส.ส.และสมาชิกพรรคบางส่วนนั่งอยู่ในเต๊นท์รับรอง นายเนวินจึงเดินเข้าไปหา พร้อมกับไล่ให้ลงไปทำนา

ส่วนบริเวณแปลงนานั้น นายชวรัตน์ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนคม นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขต่างลงไปทดลองทำนา

โดยนายชวรัตน์สวมรองเท้าบู๊ตยาวถึงหัวเข่า มี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รองโฆษก ภท. คอยประคองนายชวรัตน์อยู่ด้านหลัง ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ถอดรองเท้าและลงดำนาด้วยเท้าเปล่าทั้งหมด

นายชวรัตน์ดำนาอยู่ได้ไม่นานได้เดินขึ้นจากแปลงนาก่อน เนื่องจากมีอาการมึนศีรษะเพราะต้องก้มหัวตลอดเวลา ส่วนนายศุภชัยดำนาอย่างคล่องแคล่ว ขณะที่นายประจักษ์ถอดเสื้อออกเหลือเพียงกางเกง เมื่อเสร็จนายประจักษ์ได้เดินขึ้นคันนา และหงายหลังลื่นล้มนอนอยู่ในโคลน ทำให้ชาวบ้านต่างพากันหัวเราะชอบใจ ในขณะที่นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแกน ได้ไถนาอยู่บริเวณด้านข้าง โดยใช้ควายไถเพียงรอบเดียวก่อนที่จะออกอาการเหนื่อย และเดินขึ้นจากนาในที่สุด ด้านนางพรทิวาเมื่อล้างตัวแล้วได้เดินไปที่รถพยาบาล เพื่อให้พยาบาลใส่ยาเนื่องจากโคลนเซาะเข้าไปในเล็บเท้า

อ้างรู้ซึ้งถึงความลำบากต้องช่วยชาวนา

ภายหลังจากที่เสร็จการดำนาโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที นายชวรัตน์กล่าวว่า เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยดำนามาก่อน ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรก จึงต้องให้นายศุภชัยเป็นผู้แนะนำ การดำนาในครั้งนี้ทำให้คิดถึงชาวนาที่หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินกว่าจะได้ข้าวมาแต่ละเม็ดเอามาให้พวกเรากิน เมื่อลูกพรรคได้เห็นถึงความลำบากของชาวนาว่าเป็นอย่างไร อีกทั้งยังเป็นหนี้อีกมากมาย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลชาวนาให้ดี เอาความรู้จากวิถีชีวิตของรากหญ้ามาเป็นนโยบายของพรรค เพื่อที่จะได้เข้าถึงประชาชน

นางพรทิวากล่าวว่า การที่ได้ดำนาในวันนี้ทำให้รู้ถึงความยากลำบากของชาวนาอย่างแท้จริง เมื่อถามว่า เมื่อรู้ว่าลำบากจะมีนโยบายในการช่วยเหลือชาวนาหรือไม่ นางพรทิวากล่าวว่า ต้องดูว่ารัฐบาลต้องการที่จะช่วยเหลืออย่างไร แต่ตนต้องการที่จะช่วยเหลือชาวนาเต็มที่ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีชาวนาออกมาเรียกร้องให้มีการรับจำนำข้าวต่อไปและไม่ต้องการให้รัฐบาลเพียงแค่รับประกันราคาข้าว นางพรทิวากล่าวว่า รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้เพราะชาวนาเองยังมีการแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งต้องการให้รับจำนำ อีกฝ่ายหนึ่งต้องการให้ประกันราคา แต่หากถามตนในฐานะที่ได้รับรู้ความยากลำบากของชาวนาต้องการให้เป็นการรับจำนำดีกว่า

ส.ส.พท.เปิดตัวขอซบภท.อีกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พท. เข้าร่วมกิจกรรมกับ ภท.ครั้งนี้ด้วย โดยสวมเสื้อสีน้ำเงินโลโก้ ภท.ให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า จะมาร่วมงานกับ ภท. เนื่องจากผิดหวังการทำงานของ พท.หลายเรื่อง ทั้งนี้ ระหว่างการทำกิจกรรมของพรรค นายเนวินผายมือพร้อมกับคุยแบบติดตลกว่า "โอ้โห เห็นหรือเปล่ามาสัมมนาพรรค ทีหนึ่งก็ได้ ส.ส.เพิ่มมาอีกคนหนึ่ง"

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำ พท. ให้สัมภาษณ์ว่า นอกจากนายจุมพฏแล้ว ทราบว่ามี ส.ส.ของพรรคอีกประมาณ 10 คน ที่มีความคิดจะย้ายไป ภท.ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ถือเป็นสิทธิของ ส.ส.เหล่านั้น แต่ขณะเดียวกันมี ส.ส.ภาคอีสานจาก ภท.ส่วนหนึ่งต้องการย้ายกลับมาอยู่กับ พท.ด้วยเช่นกัน

อจ.ใหญ่"เนวิน"กำกับทุกฝีก้าว

สำหรับในส่วนกิจกรรม ภท.นั้น หลังจากดำนาเป็นที่เรียบร้อย นายเนวินนำทีมสมาชิก เรียนรู้วิถีชาวบ้าน ทั้งผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน การเลี้ยงโคกระบือ การบริหารการใช้น้ำ และการเลี้ยงปลา ซึ่งในระหว่างการทำกิจกรรมเยี่ยมชมกลุ่มอาชีพของชาวบ้าน ตามจุดต่างๆ โดยต้องใช้รถอีแต๋นหรือเดินเท้าของบรรดารัฐมนตรี ส.ส. ผู้สมัคร และสมาชิกพรรค นายเนวินได้คอยตะโกนและใช้นกหวีดเป่าเรียกทุกคนให้เดินอย่างรวดเร็ว โดยกล่าวว่า เดินแบบไม่มีเรี่ยวแรงแบบนี้ ต่อไปจะเดินหาเสียงได้อย่างไร ทำให้คนที่เดินต้องเร่งฝีเท้า โดยมีการกระเซ้ากันว่านายเนวินกลายเป็นอาจารย์ใหญ่หรืออาจารย์ฝ่ายปกครองไปแล้ว และกล่าวเป็นภาษาอีสานว่าอย่าให้มันมากเรื่องนัก บางช่วยของการเดินทางนายศุภชัย ขับรถอีแต๋นให้นางพรทิวาและคณะนั่ง ขณะที่นายอนุทินขับรถอีแต๋นให้ ส.ส.และผู้สมัครนั่ง และร้องเพลงอย่างสนุกสนาน

จากนั้นเวลา 13.00 น. คณะได้เดินทางไปยังศูนย์แปงอิน อ.กุดบาก ห่างจากวัดที่สัมมนาประมาณ 85 กิโลเมตร เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล การผลิตเหล้าขาว และการผลิตไวน์จากผลหมากเหม่า และเดินทางกลับมาสัมมนาที่วัดโนนสวรรค์ในเวลา 19.00 น.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook