กกต.แจงข้อสงสัยตัวเลขผู้มาใช้สิทธิไม่ตรง เผยสั่งนับคะแนนใหม่ 2 หน่วย เลือกตั้งใหม่ 6 หน่วย

กกต.แจงข้อสงสัยตัวเลขผู้มาใช้สิทธิไม่ตรง เผยสั่งนับคะแนนใหม่ 2 หน่วย เลือกตั้งใหม่ 6 หน่วย

กกต.แจงข้อสงสัยตัวเลขผู้มาใช้สิทธิไม่ตรง เผยสั่งนับคะแนนใหม่ 2 หน่วย เลือกตั้งใหม่ 6 หน่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (4 เม.ย.) นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงข่าวที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีเนื้อหาชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลตัวเลขผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับแจ้งผลการประชุมของ กกต. ที่สั่งให้มีการนับคะแนนใหม่และเลือกตั้งใหม่ในบางหน่วยเลือกตั้ง ดังนี้

ตามที่ปรากฏว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคมีข้อสงสัยเกี่ยวกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งตามที่ กกต. ได้แถลงเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 33,775,230 คน (65.96% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง) แต่ในวันที่ 28 มีนาคม 2562 กกต. ได้แถลงว่ามีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 38,268,375 คน (74.69% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง) ซึ่งมีความแตกต่างจากเดิมคือ 4,493,145 คน นั้น

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอเรียนชี้แจงว่า ข้อมูลที่ได้แถลงเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 65.96% (33,775,230 คน) เป็นข้อมูลจากระบบรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการ โดยในการแถลงข่าววันนั้นได้ชี้แจงแล้วว่า เป็นข้อมูลจากหน่วยเลือกตั้งที่รายงานเข้ามา 90% ของหน่วยเลือกตั้ง (83,088 หน่วย) จากทั้งหมด 92,320 หน่วย ซึ่งยังคงเหลืออีก 9,232 หน่วยที่ยังมิได้รายงานข้อมูลเข้ามา อีกทั้งยังไม่รวมจำนวนคะแนนที่มาจากการเลือกตั้งล่วงหน้า (ในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร) อีกจำนวน 2 ล้านกว่าบัตร

สำหรับข้อมูลที่มีการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 ว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 74.69% (38,268,375 คน) เป็นข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเมื่อได้รับรายงานเป็นเอกสารจากทุกหน่วยเลือกตั้งครบ 100% แล้ว จึงมิใช่กรณีที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติหรือเกิดจากการทุจริตแต่อย่างใด ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้แถลงชี้แจงไว้ด้วยแล้วเช่นกันเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า การรายงานผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ เป็นการรวบรวมจากเอกสารรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในแต่ละหน่วยเลือกตั้ง ส่งมารวมกันที่เขตเลือกตั้ง ก่อนส่งไปที่จังหวัดเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง แล้วจึงส่งเอกสารผลการนับคะแนนรายเขตเลือกตั้งมายังส่วนกลาง โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้ระยะเวลาประมาณ 5 วัน ซึ่งเท่ากับการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้มีความล่าช้าในการรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งแต่อย่างใด โดยหากสาธารณชนหรือพรรคการเมืองใดยังมีข้อสงสัยในประเด็นใดสามารถสอบถามจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้

นอกจากนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีมติการประชุม ครั้งที่ ๓๙/๒๕๖๒ เมื่อวันพุธที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๒ พิจารณากรณีผลการนับคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน ดังนี้

     ๑.  สั่งให้นับคะแนนใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ ๓ จังหวัดขอนแก่น จำนวน ๒ หน่วยเลือกตั้ง กรณีผลการนับคะแนนไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน ได้แก่  

           (๑) หน่วยเลือกตั้งที่ ๑ หมู่ที่ ๑ ตำบลบัวใหญ่ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น

           (๒) หน่วยเลือกตั้งที่ ๕ หมู่ที่ ๕ ตำบลม่วงหวาน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น

     ๒. สั่งให้ออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จำนวน ๖ หน่วยเลือกตั้ง กรณีผลการนับคะแนนซึ่งมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน ประกอบด้วย

            ๒.๑ จังหวัดลำปาง เขตเลือกตั้งที่ ๔ จำนวน ๒ หน่วยเลือกตั้ง ได้แก่

                   (๑) หน่วยเลือกตั้งที่ ๖ (หมู่ที่ ๕ ตำบลปางหลวง อำเภอเกาะคา)

                    (๒) หน่วยเลือกตั้งที่ ๓ (หมู่ที่ ๒ ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา)

            ๒.๒ จังหวัดยโสธร เขตเลือกตั้งที่ ๒ หน่วยเลือกตั้งที่ ๖ (หมู่ที่ ๖ ตำบลหัวเมือง อำเภอมหาชนะชัย)

            ๒.๓ จังหวัดเพชรบูรณ์ เขตเลือกตั้งที่ ๑ หน่วยเลือกตั้งที่ ๑๒ (หมู่ที่ ๑๒ ตำบลเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ)

            ๒.๔ จังหวัดพิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ ๒ หน่วยเลือกตั้งที่ ๖ (หมู่ที่ ๖ ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม)

            ๒.๕ กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ ๑๓ หน่วยเลือกตั้งที่ ๓๒ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ

     ๓. สั่งยุติเรื่อง จำนวน ๔ หน่วยเลือกตั้ง ประกอบด้วย

                   (๑) จังหวัดเชียงราย เขตเลือกตั้งที่ ๔ หน่วยเลือกตั้งที่ ๑ หมู่ที่ ๑ บ้านกลางเวียง ตำบลเวียงชัย อำเภอเวียงชัย กรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้นับคะแนน

                   (๒) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขตเลือกตั้งที่ ๒ หน่วยเลือกตั้งที่ ๗ หมู่ที่ ๒ ตำบลปากน้ำปราณ (เขตเทศบาล) อำเภอปราณบุรี กรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้นับคะแนน 

                   (๓) จังหวัดสระแก้ว เขตเลือกตั้งที่ ๒ หน่วยเลือกตั้งที่ ๖ หมู่ที่ ๔ ตำบลห้วยโจด อำเภอวัฒนานคร กรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้นับคะแนน

                  (๔) จังหวัดพิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ ๓ หน่วยเลือกตั้งที่ ๑๘ หมู่ที่ ๑๗ ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง กรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับผลการนับคะแนน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook