หนึ่งในสัตว์ผู้โชคดี "นกกระเต็นลาย" รอดไฟป่าเชียงดาว ปลอดภัยในอุ้งมือผู้พิทักษ์

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า "นกกระเต็นลาย แสนโชคดี!! รอดหวุดหวิดไฟป่าดอยเชียงดาว ตามที่ทางเพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้โพสต์ภาพของนกกระเต็นลายที่ถ่ายติดได้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จ.สุราษฎร์ธานี ปรากฏว่า มีสมาชิกแฟนเพจได้ส่งภาพถ่ายของนกกระเต็นลายที่รอดชีวิตจากเหตุไฟไหม้ป่าที่ดอยเชียงดาว จ.เชียงใหม่ มาให้ชมกัน ซึ่งมีความสวยงามน่ารักไม่ต่างจากภาพถ่ายของนกกระเต็นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง เลยทีเดียว

ถือว่าเป็นความโชคดีของเจ้ากระเต็นลายตัวนี้เหลือเกิน ที่มีคนใจดีมาช่วยเหลือเอาไว้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า และจิตอาสาทุกท่านที่ช่วยปกปักรักษาทรัพยากรฯ ของชาติให้คงอยู่"

ทั้งนี้ นกกะเต็นลาย (Banded kingfisher) จัดอยู่ในกลุ่มนกกะเต็น เป็นนกที่มีวิวัฒนาการของปากเพื่อให้เหมาะสมสำหรับการล่าปลากินเป็นอาหาร ส่วนนกกะเต็นลาย พวกมันมักจะกินตั๊กแตน จิ้งหรีด ตั๊กแตนกิ่งไม้ จักจั่น ด้วง และหนอน ซะส่วนใหญ่ มีบ้างที่จับสัตว์เลื้อยคลานกินเป็นอาหาร เนื่องจากนกกะเต็นลายมีอาศัยอยู่ตามป่ามากกว่าพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำ

เพศเมียมีลายขวางสีดำถี่ๆบนพื้นลำตัวสีน้ำตาล ต่างจากเพศผู้ที่มีกระหม่อมและหลังสีฟ้าสด นกกะเต็นลายอาศัยอยู่ตามป่าทั่วประเทศ แม้จะไม่ได้เป็นนกหายากแต่ก็ไม่ออกมาให้เห็นตัวบ่อยนัก เรามักได้ยินเสียงร้องบ่อยกว่าเห็นตัว จะชอบอยู่บนต้นไม้สูงๆ พฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์คือ มันจะชอบกระดกหางช้าๆและพองขนบนหัว เป็นอากัปกิริยาที่น่าเอ็นดูมากทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่สัตว์ป่าทุกตัวที่จะโชคดีเหมือนนกกระเต็นลายตัวนี้ เพราะนอกจากภัยจากไฟป่าแล้ว ยังมีนายพรานที่ฉวยโอกาสออกล่าสัตว์ โดยวานนี้ (5 เม.ย.) นายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว รายงานว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงดาว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.335 เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ม 5 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วย ขกท.กกล.ผาเมือง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ. เชียงดาว ร่วมกันจับกุม นายศักชัย หรือ แอร์ อายุ 51 ปี ภายในบ้านพัก หลังเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ได้ยินเสียงปืนขณะลาดตระเวนบนดอยหลวงเชียงดาว ประกอบกับการข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบมาว่านายศักชัย มีพฤติกรรมลักลอบล่าสัตว์ป่าและค้าสัตว์ป่า เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบบัญชีนายพรานภายในพื้นที่

 

โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำหมายศาลเข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงพบนายศักชัย แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านและนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นในบ้าน พบอาวุธปืนลูกซองเดี่ยวยาว จำนวน 1 กระบอก ถูกซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ที่จอดอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เครื่องกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 13 นัด นอกจากนี้ยังพบซากเลียงผา ซุกซ่อนอยู่ในบ้าน หนังเลียงผาซุกซ่อนอยู่บริเวณหัวเตียง ซากกระโหลกพร้อมเขาเก้ง เนื้อเลียงผา ซากนกเขาและเครื่องในเลียงผา พบในตู้เย็น จากการตรวจสอบคาดว่าซากเนื้อสัตว์น่าจะถูกชำแหละไม่เกิน 2 วัน

เบื้องต้นนายศักชัย ให้การรับสารภาพว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนจริง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งความเอาผิด ข้อหามีวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นายศักชัยให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงดาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป