ลูกช้างป่าตกบ่อส้วม เรียกหาแม่-กินนมรอ ข้ามคืนแม่ยังไม่มารับกลับเข้าโขลง

จากกรณีช้างป่าภูวัวลงมาหากินตามสวนยางของชาวบ้าน ลูกน้อยวัย 8 เดือน เกิดพลัดตกลงส้วมลึกประมาณ 1.5 เมตร แม่และโขลงก็ช่วยดึงขึ้นไม่ได้ ต้องหนีเข้าป่ายอมทิ้งลูกน้อยนอนร้องครวญครางอยู่ตัวเดียว จนรุ่งเช้าเจ้าหน้าที่และชาวบ้านจึงช่วยเหลือนำขึ้นจากบ่อเกรอะได้ เหตุเกิดที่ป่าสวนยางพาราบ้านโนนไพศาล ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ต้องทำคอกขังไว้ชั่วคราวแล้วนำไปวางไว้ชายป่าตอนกลางคืน หวังให้แม่มารับไปอยู่ด้วย แต่ไม่เป็นผลยังไร้วี่แววแม่มารับกลับเข้าโขลง

ล่าสุด (7 เม.ย.) เมื่อเวลา 08.00 น.  ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬ ได้รับการประสานจากนายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ป่าภูวัวว่า ภายหลังจากที่นำช้างน้อยขึ้นมาจากบ่อส้วม ก็ได้ให้นำน้ำและกล้วยให้กินเป็นอาหาร ส่วนน้ำนมเจ้าหน้าที่สัตว์แพทย์แนะนำว่ายังไม่ให้ลูกช้างกินกลัวท้องจะเสีย จนถึงเมื่อเย็นวานนี้จึงได้อนุญาตให้นมช้างน้อยได้ หลังจากดื่มน้ำนมแล้วดูก็กระฉับกระเฉงแข็งแรงดี ทั่วไปอาการไม่น่าเป็นห่วง แต่ก็มีบางครั้งลูกช้างได้เรียกร้องหาแม่ พอตกตอนเย็นวานนี้จึงได้ทำคอกชั่วคราวเพื่อขังช้างน้อยเอาไว้นำไปปล่อยไว้ชายป่าที่คาดว่าแม่ช้างจะออกมารับลูก ซึ่งหากเป็นตามแผนที่วางไว้แม่ช้างก็จะทำลายคอกขังนำลูกออกมาได้ง่ายดายและนำลูกกลับไปอยู่กับโขลงได้แต่เมื่อถึงตอบเช้านี้ออกไปตรวจดูก็ยังพบช้างน้อยอยู่ในคอกเหมือนเดิม โดยที่แม่ยังไม่มารับกลับเข้าโขลง และไร้วี่แววแม่ช้างไม่ทราบออกไปหากินอยู่จุดไหน

ทางด้านนายสุธี วงศ์จันทะ อายุ 62 ปี ชาวบ้านโนนไพศาลผู้ที่ถูกช้างทำบ้านพังเสียหาย กล่าวถึงนาทีระทึกหนีตายเอาตัวรอดขณะช้างบุกเข้ามาพังบ้านว่า ขณะนั้นเวลาประมาณ 2 ทุ่มตนนอนฟังเสียงโขลงช้างเดินเข้ามาใกล้บ้านพักที่ตัวเองนอนอยู่ ได้ยินเสียงเหมือนช้างกำลังพังห้องน้ำ เนื่องจากอยู่ใกล้กอไผ่ ตนเห็นว่าอยู่ต่อไปคงไม่ปลอดภัยแน่ เพราะช้างโขลงนี้เคยทำร้ายชาวสวนยางเสียชีวิตมาแล้ว 6 ศพ ตนจึงได้กระโดดลงจากบ้านที่ไม่สูงนักวิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้าน หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบ้านพักของตัวเอง พอรุ่งเช้าจึงออกมาดูพบว่าบ้านพังราบเป็นหน้ากองตามที่เห็น สังกะสีถูกเหวี่ยงทิ้งไปไกล  โอ่งน้ำ รถเข็นถูกช้างทำลายพังเสียหายกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ต้นไม้ผล ต้นยางพาราถูกช้างหักโค่นไปหลายต้น ที่แปลกใจหนักคือได้ยินเสียงลูกช้างร้อง จึงมองหาที่มาของเสียงก็ไม่เห็น แต่พอเดินไปดูบ่อส้วมเห็นช้างน้อยนั่งคุดคู้ชูงวงร้องอยู่ก้นบ่อส้วมอย่างน่าสงสาร จึงได้โทรหาผู้ใหญ่บ้านและ เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ภูวัวนำกำลังมาช่วยกันนำช้างน้อยขึ้นมาจากก้นบ่อส้วมที่มีความลึกประมาณ 1.5 เมตรได้สำเสร็จ

บ้านที่ถูกโขลงช้างทำลาย

ส่วนบ้านที่พังเสียหายนายสุธีเล่าว่า น่าจะเกิดจากฝูงช้างพยายามช่วยลูกน้อยแต่ไม่สำเร็จ ซึงขณะนั้นน่าจะมีช้างอยู่ประมาณ 4-5 ตัวจึงได้เรียกเพื่อนมาอีกรวมประมาณ 15 ตัว ประกอบกับตัวที่ใหญ่จึงไปเบียดตัวบ้านพังและของใช้เสียหายดังกล่าว ส่วนค่าเสียหายนั้นเนื่องจากเป็นบ้านหลังใหญ่เสา 15 ต้นสร้างมาแล้ว 12 ปี มีเสียหายมากก็คือสังกะสี ส่วนไม้ก็พอยังใช้งานได้อยู่แม้จะแตกหักไปบ้างคิดว่าน่าจะตกประมาณ 50,000 บาท ส่วนทางราชการจะพิจารณาช่วยเหลืออย่างไรนั้น ตนก็พร้อมยอมรับเนื่องจากที่ดินที่ปลูกสร้างยังไม่มีโฉนด เบื้องต้นก็มีเจ้าหน้าที่ อบต.และฝ่ายทหารได้มาถ่ายรูปไปแล้ว