โชเฟอร์สิบล้อขับตามจีพีเอส พุ่งชนคานสะพานดังป้าง ข้าวสารแตกทะลัก

เพราะจีพีเอสนำทางมา โชเฟอร์รถบรรทุกไม่ทันระวัง ขับชนตานสะพานอย่างจัง หยุดติดแหงกไม่ได้ไม่ได้ กู้ภัยช่วยกว่า 2 ชั่วโมง กว่าจะเปิดเส้นทางจราจรได้อีกครั้ง

เมื่อคืนวานนี้ (9 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับแจ้งจากอาสามูลนิธิปอเต๊กตึ้ง จุดเมืองอ่างทอง ระบุว่า มีเหตุรถบรรทุกข้าวชนติดกับคานสะพานถนนเลี่ยงเมืองอ่างทอง ส่งผลให้ไม่สามารถขยับไปไหนได้ หลังได้รับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงบริเวณถนนสายเอ่างทอง-ป่าโมก ใต้สะพานเลี่ยงเมืองอ่างทอง ใกล้ตู้ยามบ้านแห ต.บ้านแห อ.เมือง จ.อ่างทอง พบรถตู้คอนเทนนอร์ 18 ล้อขนาดใหญ่ บรรทุกข้าวมาเต็มคัน สภาพด้านบนของตู้คอนเทนเนอร์ติดอยู่กับคานใต้สะพาน ทำให้ตู้คอนเทนนอร์ได้รับความเสียหาย ตัวรถไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้ และยังพบข้าวสารไหลทะลักลงมาถมอยู่เต็มถนน

ต่อมาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครและเจ้าของรถได้พยายามช่วยกันขยับรถ หวังจะให้ตัวรถหลุดออกจากคานสะพาน แต่ความพยายามเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์ที่พังเสียหายติดอยู่กับคานสะพาน โดยทางเจ้าหน้าที่ต้องขอปล่อยลมออกจากล้อทั้งหมด ก่อนที่จะค่อยๆ เคลื่อนรถถอยหลังออกมาจากคานสะพานได้ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ท่ามกลางการลุ้นระทึกของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ใช้เส้นทางโดยต้องปิดการจราจรและให้รถที่สัญจรไปมาใช้ทางเบี่ยงแทน

นายอดิศักดิ์ คนขับรถบรรทุก เปิดเผยว่า ตนขับรถคันดังกล่าวบรรทุกข้าวจำนวน 50 ตันมาจาก จ.สิงห์บุรี เพื่อมุ่งหน้าจะไปที่ท่าเรือลาดกระบัง เมื่อเดินทางเข้ามาถึงตัวจังหวัดอ่างทอง ตนไม่รู้จักเส้นทางนี้ จึงอาศัยเปิดดูเส้นทางจากระบบจีพีเอส ก่อนระบบจะแนะนำให้มาเส้นทางนี้

แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นทางลอดใต้สะพาน ตนก็ขับรถมาตามปกติ ก่อนจะได้ยินเสียงรถชนดังสนั่น ทำให้รถทั้งคันหยุดนิ่ง ตนจึงรีบลงมาก็ดูพบว่าตู้คอนเทนเนอร์ชนติดอยู่กับคานสะพานได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ตนไม่เคยขับรถมาเส้นทางมาก่อน จึงอาศัยขับตามจีพีเอสมาและเริ่มหลงทาง สุดท้ายก็ขับรถไม่พ้นสะพาน ทำให้รถชนคานสะพานอย่างจัง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ นายอดิศักดิ์ ก่อนประสานงานเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงให้สำรวจสะพานว่าได้รับความเสียหายหรือไม่ เนื่องจากรถเทรลเลอร์ชนเข้าไปอย่างแรง โดยสะพานดังกล่าวมีความสูง 3.5 เมตร และเกิดอุบัติเหตุรถชนคานสะพานมาหลายครั้งแล้ว โดยเบื้องต้นได้นำตัวคนขับรถมาสอบสวนที่ สภ.เมืองอ่างทอง เพื่อดำเนินคดีก่อนประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป