ศาลสั่งปล่อยตัว เจ้าหน้าที่มูลนิธิข้าวขวัญ หลังโดนจับปลูกกัญชารักษาผู้ป่วย
ศาลจังหวัดสุพรรณบุรีสั่งปล่อยตัวชั่วคราว "พรชัย ชูเลิศ" เจ้าหน้าที่มูลนิธิข้าวขวัญ หลังเป็นผู้ต้องหาคดีกัญชา เพราะปลูกนำไปรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ด้วยวงเงินประกัน 5 แสนบาท
ความคืบหน้ากรณีเครือข่ายของ อาจารย์เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี ที่แสดงตนว่าเป็นผู้คิดค้นและสกัดน้ำมันกัญชาเพื่อรักษาโรคมะเร็ง และโรคอื่นๆ โดยได้สกัดน้ำมันกัญชาแคปซูลแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่จังหวัดพิจิตร จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดลพบุรี
โดยเฉพาะที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแห่งแรกโดยใช้ วัดป่าวชิรโพธิญาณ ต.ท้ายน้ำ อ.โพทะเล จ.พิจิตร เป็นสถานที่แจกจ่ายน้ำมันกัญชารักษาโรคมะเร็งให้กับผู้ป่วยฟรี ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปส. เข้าจับกุม พร้อมยึดของกลางหลายรายการ จากนั้นได้ขยายผลมาตรวจค้นที่มูลนิธิข้าวขวัญใน จ.สุพรรณบุรี ยึดค้นกัญชาไปกว่า 200 ต้น สร้างแรงกระเพื่อมในกลุ่มผู้ป่วยที่กำลังใช้น้ำมันกัญชารักษาตัว
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีเครือข่ายของ อาจารย์เดชา ศิริภัทร ที่มีทั้งผู้ป่วยจากโรคมะเร็งและโรคอื่นๆกว่า 200 คน มารวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจกับนายพรชัย ชูเลิศ หรือ "อาจารย์ซ้ง" โดยนายศุภชัย ใจสมุทร ตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยพร้อมทีมกฎหมาย มาดูแล ประสานงาน อำนวยความสะดวก ในด้านต่างๆ
>> ผู้ป่วยมะเร็ง วอนรัฐแก้กฎหมาย "น้ำมันกัญชา" หลังวัดหยุดแจกเพราะกลัวถูกจับ
นอกจากนี้ ยังมีทีมทนายจากมูลนิธิ 3 มูลนิธิ ประกอบไปด้วย นายวิฑูรย์ เลี่ยน จำรูญอผอ.มูลนิธิชีววิถี (BIOTHAI), นางพัชร แกล้วกล้า ผช.เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค, นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หน.ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค, และนางทัศนีย์ วีระกันต์ จากมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน ที่มาช่วยร่วมให้กำลังกับเครือข่าย อ.เดชา ศิริภัทร และ นายพรชัย ชูเลิศ ด้วย
นายธีระ วงศ์เจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้มาคอย ช่วยประสานงานดูแลความเรียบร้อยในการประกันตัว การยื่นประกันตัวครั้งนี้ได้มีนางชลธิชา ภรรยาของนายพรชัย ผู้ต้องหา เป็นผู้ยื่นคำร้องขอประกันตัวเพื่อให้ศาลปล่อยตัวชั่วคราว
ล่าสุดศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยวงเงินประกันเป็น 500,000 บาท หลังจากศาลตรวจสอบเอกสารต่างๆ เสร็จเรียบร้อยจึงอนุมัติให้ปล่อยตัวชั่วคราวตามคำร้องขอ โดยมีหนังสือปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลไปถึงเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นที่คุมขังตัวของนายพรชัย เพื่อให้ญาติและผู้เกี่ยวข้องไปรับตัวต่อไป
หลังจากเครือข่ายที่มาร่วมให้กำลังใจนายพร ทราบข่าวนายพรชัยได้รับการปล่อยตัว ต่างส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ พร้อมกับถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก ที่เครือข่ายบางส่วนเดินทางไปร่วมรับตัวนายพรชัย ที่เรือนจำ และบางส่วนได้แยกย้ายกลับบ้าน
>> ป.ป.ส.ย้ำจับกัญชาทำตามกฎหมาย ขณะ 3 มูลนิธิรวมพลังเซฟ "อ.ซ้ง-เดชา"
นายพรชัย ชูเลิศ หลังจากที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ได้อนุญาตให้ยื่นขอประกันตัวได้ในวงเงิน 5 แสนบาท หลังได้รับการประกันตัวเครือข่ายอาจารย์เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ได้เดินทางไปให้กำลังใจนายพรชัย ชูเลิศ ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมกับให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า หลังจากนี้คงต้องร่วมต่อสู้กันไป จนกว่าสิทธิผู้ป่วยจะเข้าสัญญา เพราะว่าตอนนี้ที่เป็นห่วงก็คือคนป่วย ไม่รู้ว่าจะรับยาที่ไหน เพราะทางเจ้าหน้าที่ได้ยึดยาที่มีไปหมดแล้ว
ที่ห่วงมากคือผู้ป่วย เพราะว่าเขารอไม่ได้ ร่างกายของเขามีความสำคัญทุกชีวิต ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ให้กำลังใจ ขอบคุณพี่น้องในเรือนจำทุกคนรวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ดูแลภายใต้พื้นฐานสิทธิมนุษยชนอย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญขอขอบคุณกำลังใจจากทั่วประเทศที่ส่งกำลังใจให้ผม
หลังจากนั้นจะไปรดน้ำมนต์ที่หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ก่อนที่จะกลับไปยังมูลนิธิข้าวขวัญ ไปที่สำนักงานที่อาจารย์เดชาพาพวกเราต่อสู้ และอาจารย์กลับมาเพื่อร่วมต่อสู้ในเรื่องของสิทธิผู้ป่วย สิทธิของคนไทยทุกคนที่จะเข้าถึงกัญชา ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงก่อนตายที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
ขณะที่ในส่วนที่มีเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนั้น นายพรชัย ชูเลิศ ได้กล่าวกับทีมข่าวว่าในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงานตามหน้าที่ของเขา เพราะในเวลานี้กฎหมายยังเป็นแบบนี้ เจ้าหน้าที่เป็นเพียงผู้ปฏิบัติงาน เขาไม่มีสิทธิที่จะเลือกว่าปล่อยเพราะไม่เช่นนั้นเขาก็จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157
เราเชื่อว่าสังคมที่เป็นโครงสร้างใหญ่ควรที่จะเรียนรู้แล้วก็เปลี่ยนเพื่อที่จะรักษาชีวิตของคนไทย ถ้าเห็นความสำคัญของชีวิตของคนไทยจริงๆควรที่จะเปลี่ยนตามที่อาจารย์เดชาพาพวกเราทำแล้วก็ต่อสู้เพื่อคนไทยทุกคนและก็คนทั้งโลก เพราะที่เราทำกันนั้นไม่ได้หวังเงิน หวังแต่ว่าชีวิตคนกลับมามีคุณภาพที่ดีเท่านั้น
จากนั้นนายพรชัย พร้อมคณะได้เดินทางไปกราบสักการะหลวงพ่อโตที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหารพร้อมกับทำพิธีรดน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ รวมทั้งทำพิธีบังสุกุลเป็นบังสุกุลตาย ก่อนพระสงฆ์จะสวดชยันโตเพื่ออวยพรให้สิ่งร้ายๆ ได้ผ่านพ้นไป
>> บุกรวบศูนย์ปลูกข้าว ที่แท้บังหน้าผลิตกัญชา 200 ต้น
>> "เนวิน" ดันกระแสแฮชแท็ก #saveเดชา ค้านตำรวจบุกจับกัญชาเพื่อการแพทย์
>> “อนุทิน” ยันลุยแก้กฎหมาย ให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิในกัญชา