พ่อแม่น้ำตาไหล เห็นภาพสุดท้ายลูกสาว ผัวอำมหิตซ้อมแล้วพามาหาหมอ
วงจรปิดที่โรงพยาบาลจับภาพ 2 ชาย อุ้มหญิงสาวมาส่งโรงพยาบาล ก่อนพบว่าเป็นเหตุทำร้ายร่างกาย ก่อนฝ่ายหญิงจะสิ้นใจตาย พ่อแม่มั่นใจว่าฝีมือลูกเขย ตำรวจเร่งตามล่าตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดป่าโนนนิเวศน์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี พ่อแม่ของนางสาวกรวิภา อายุ 31 ปี ได้นำศพลูกสาวกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพ หลังจากรับร่างออกมาจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติพี่น้องที่ยังรับไม่ได้กับการสูญเสียในครั้งนี้
นางสาวกรวิภา ถูกซ้อมทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ จากภาพในกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาล เมื่อคืนวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา พบเห็นชาย 2 คนได้พยุงตัวพามาส่งรักษา ก่อนที่จะสิ้นใจเสียชีวิตลงในช่วงเช้าของวันที่ 9 เมษายน โดยรายละเอียดจากการชันสูตรพลิกศพพบว่า มีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย เลือดไหลที่เยื้อหุ้มสมองและโพรงสมอง รวมทั้งมีเลือดคั่งในช่องท้อง และตับฉีดขาด
นายชูชาติ พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า นางสาวกรวิภาเป็นลูกสาวคนเล็ก ก่อนหน้านี้ได้อาศัยอยู่กินกับ นายเปิ้ล มาร่วม 10 ปี กระทั่งล่าสุดได้รับแจ้งข่าวจากตำรวจว่า ลูกสาวถูกทำร้ายและได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เมื่อตนไปดูอาการก็พบว่าลูกสาวเสียชีวิตลงแล้ว
ต่อมาตนจึงได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามตัว นายเปิ้ล สามีของลูกสาว แต่ปรากฏว่าไม่พบตัวแล้ว ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นผู้ทำร้ายร่างกายลูกสาวปางตาย ก่อนจะหิ้วตัวมาส่งที่โรงพยาบาล โดยขับรถยนต์คันสีขาวมาพร้อมกับเพื่อนอีกคน แต่อ้างกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าเป็นพลเมืองดีพามาส่ง
นายชูชาติ ยังเล่าต่อว่า นายเปิ้ล นิสัยค่อนข้างเกเร มักทำร้ายร่างกายลูกสาวอยู่บ่อยครั้ง ตนเคยบอกลูกหลายครั้งให้เลิกรากัน แต่ก็ทำให้ลูกเขยไม่พอใจ ถึงกับเคยขู่ฆ่าตนกับภรรยามาแล้ว บางครั้งลูกสาวก็ทนไม่ไหว หนีกลับมาบ้านด้วยสภาพสะบักสะบอม แต่ไม่นานลูกเขยก็ตามมาง้อและรับตัวกลับไป
กระทั่งเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ลูกสาวได้กลับมาหาตนกับภรรยาที่บ้าน แต่หลังจากนั้นลูกเขยก็มารับกลับไปตามเคย ที่สำคัญ นายเปิ้ล มักจะไม่อนุญาตให้ลูกสาวได้ใช้โทรศัพท์มือถือ เพราะไม่ต้องการให้ติดต่อใคร ถ้ารู้ว่ามีคนมาทำร้ายลูกสาวเจ็บช้ำขนาดนี้ ตนยอมติดคุก ขอเอาปืนไปยิงไอ้คนนี้ให้ตายจากกันไปเลยดีกว่า
ขณะที่ในส่วนคดีความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงว่า นายเปิ้ล เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายภรรยาถึงแก่ชีวิต โดยมีภาพหลักฐานจากกล้องวงจงปิดที่โรงพยาบาล พบเห็นว่า นายเปิ้ล ได้พยุงอุ้มภรรยามาส่งโรงพยาบาล ในลักษณะที่ฝ่ายหญิงหมดสติ เจ้าหน้าที่จึงได้นำเตียงออกไปรับและพาไปยังห้องฉุกเฉิน แต่หลังจากนั้น นายเปิ้ลกับเพื่อนอีกคนก็กลับไปขึ้นรถและขับออกไปจากโรงพยาบาล