สิบล้อพุ่งชนท้ายรถพ่วง 2 คันซ้อนกลางสี่แยก-เร่งช่วยคนขับเจ็บสาหัสร้องโอดโอย

ชนยับวินาศสันตะโร-รถสิบล้อเบรกไม่ทัน ชนท้ายรถพ่วงข้างหน้า 2 คันรวดที่จอดรอสัญญาณไฟดังสนั่น บริเวณ สี่แยกไฟแดงแขวงการทางชัยนาท จนท.เร่งให้การช่วยเหลือ คนขับรถสิบล้อได้รับบาดเจ็บสาหัส

(11 เม.ย. 62)  พ.ต.ต.วิศิษฎ์ ศรีโสภา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยนาท รับแจ้งอุบัติเหตุ รถบรรทุกขนส่งสินค้า ชนท้ายกัน 3 คัน บริเวณ สี่แยกไฟแดงแขวงการทางชัยนาท ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 สาย ชัยนาท-สุพรรณบุรี เส้นทางเลี่ยงช่วงเทศกาล ขาขึ้นมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ

โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในตัวรถ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู จ.ชัยนาท เพื่อนำเครื่องมืออุปกรณ์ตัดถ่างเร่งช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากตัวรถ พร้อมประสานหน่วยกู้ชีพ รพ.ชัยนาทนเรนทร เข้าทำการรักษาโดยด่วน

ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน จ.นครสวรรค์ หางพ่วง ทะเบียน จ.นครสวรรค์ ถูกรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ชนเข้าที่ด้านท้าย

จนทำให้ นายวีระพงษ์ อายุ 39 ปี คนที่ขับรถบรรทุกมาชนได้รับบาดเจ็บ ติดอยู่ในตัวรถ ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู จ.ชัยนาท ต้องเร่งใช้เครื่องมืออุปกรณ์ตัดถ่างนำผู้บาดเจ็บออกจากตัวรถ มีแผลฉีกขาดที่หน้าแข้งซ้าย จึงนำตัวส่งรักษายัง โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร เพื่อทำการรักษา

จากการสอบสวน นายวีระพงษ์ คนขับรถบรรทุกที่มาชนจนติดภายใน เบื้องต้นทราบว่า นายวีระพงษ์  ขับมาจาก จ.นครปฐม เพื่อนำสินค้าอุปโภค บริโภค ทั้งน้ำดื่ม น้ำมันพืช และอื่นๆ กำลังจะไปส่งของที่ จ.นครสวรรค์ แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุ คิดว่า รถบรรทุกคันหน้ากำลังแล่นไปตามปกติ พอมาถึงที่สี่แยกไฟแดงก็เบรกไม่ทันจึงเป็นเหตุดังกล่าว

นายนพรัตน์ อายุ 27  ปี คนขับรถบรรทุกพ่วงที่ถูกชนท้าย เปิดเผยว่า ตนบรรทุกกากมะพร้าวมาจาก อ.ทัพสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อที่จะนำไปส่งที่ จ.นครสวรรค์

โดยขณะก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้ขับรถมาถึงที่บริเวณสี่แยกไฟแดงดังกล่าวและหยุดรถจอด เพราะเป็นสัญญาณไฟแดง ซึ่งขณะนั้นก็มีรถบรรทุกพ่วง ต่อด้านท้ายตนอีก 1 คัน

แต่จู่ๆ ก็มีรถบรรทุกพ่วงอีก 1 คัน และจากนั้นมีเสียงดังเปรี้ยง เพราะขับมาชนท้ายด้วยความเร็วโดยที่ไม่มีการเบรก จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนก็รีบลงไปดูเพราะอาจมีคนได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบสาเหตุของการชนที่แท้จริง และเรียกผู้ขับขี่รถทั้งหมดมาสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขบวนการกฎหมายต่อไป