หรือว่า "ป๋าเปรมโมเดล" คือแนวทางที่ "ลุงตู่" จะเลือกเดินตามรอย?

หรือว่า "ป๋าเปรมโมเดล" คือแนวทางที่ "ลุงตู่" จะเลือกเดินตามรอย?

หรือว่า "ป๋าเปรมโมเดล" คือแนวทางที่ "ลุงตู่" จะเลือกเดินตามรอย?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถือเป็นประเพณีในการเมืองไปแล้ว สำหรับ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในการเปิดบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ให้นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรีและผู้นำเหล่าทัพ เข้ารดน้ำขอพรเนื่องในวันสงกรานต์

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ (17 มี.ค.) "พล.อ.เปรม" ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้า ซึ่งจากภาพที่ออกมากับสุขภาพของ "พล.อ.เปรม" ทำให้มีรายงานข่าวออกมายืนยันว่าทุกวันนี้ "ป๋าเปรม" ยังคงแข็งแรงดีสามารถนั่งให้รดน้ำและยืนให้พร รวมทั้งสามารถเดินพูดคุยได้ระยะหนึ่งกับคณะนายกฯ ลุงตู่ ทั้ง ครม. และผู้บัญชาการเหล่าทัพ

และสำคัญนอกจากครั้งนี้ที่ “พล.อ.เปรม” ได้ให้โอวาทแก่คณะที่เข้าพบ ก็เป็นดังเช่นทุกครั้งที่มีการหยิบยกถึงประเด็นสถานการณ์บ้านเมือง ณ ขณะนี้มาแนะนำในระหว่างการให้โอวาทด้วย โดยหากลองย้อนกลับไปในรอบ 5 ปีหลังจากที่ "พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจาก "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" (22 พ.ค. 57) ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศและมีบทบาทสำคัญนั้น ถือว่าคำให้โอวาทของ "ป๋าเปรม" จะมีนัยสำคัญกับห้วงสถานการณ์นั้นๆ เสมอ

ดังการให้คำอวยพรเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว 11 เม.ย. 2561 ซึ่งขณะนั้นกำหนดการวันเลือกตั้งยังขยับไปขยับมา "พล.อ.ประยุทธ์" นำกล่าวตอนหนึ่งว่า บ้านเมืองกำลังก้าวสู่ประชาธิปไตยสากล เตรียมไปสู่ประชาธิปไตยที่มีธรรมาภิบาล โปร่งใส เป็นธรรม ยืนยันว่ารัฐบาล คสช. จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายหลายตัว ขณะเดียวกันอาจเกิดความไม่เข้าใจและไม่พอใจกันบ้าง แต่วันหน้าทุกอย่างจะดีขึ้น เพราะกฎหมายทำให้เกิดความเท่าเทียม

ขณะที่ "พล.อ.เปรม" แสดงความเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศ โดยบอกว่า “นายกฯ ทำได้ดีมากในการรักษาประเพณีไทย ในใจพยายามเฝ้าดูนายกฯ จะพาประเทศเราเดินไปสำเร็จ แม้จะใช้เวลานานสักเท่าไหร่ ซึ่งมั่นใจในนายกฯ และทุกคน ผบ.เหล่าทัพและตำรวจ โดยจะเป็นแรงสนับสนุนที่ดีของนายกฯ” และว่า "สิ่งที่ต้องพูดกับนายกฯ ตรงๆ คือ ขอให้ยึดมั่นในคำว่าเกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ถ้านายกฯ ทำเรื่องนี้ได้ บ้านเมืองจะอยู่ในความสงบสุข โดยมีนายกฯ เป็นผู้นำประเทศของเรา และเราเป็นแรงสนับสนุน" 

อย่างไรก็ตามหลังรดน้ำขอพรเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว พล.อ เปรม ได้สอบถามกับนายกรัฐมนตรีถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าเหตุใดจึงไม่ได้เดินทางมารดน้ำขอพรด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกกับ พล.อ.เปรม ว่า "บิ๊กป้อม" ไปพักรักษาตัวเพราะทำบายพาสเส้นเลือดหัวใจมา

ย้อนกลับไปอีกในวันที่ 10 เม.ย. 2560  “พล.อ.เปรม” บอกกับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า การที่ทุกคนมารวมกันอย่างพร้อมเพรียงแสดงให้เห็นว่า นายกฯ เป็นที่ไว้วางใจได้ที่จะเป็นผู้นำของเราตราบใดที่นายกฯ ไม่ท้อแท้ท้อถอย ทุกอย่างก็จะประสบความสำเร็จ และว่าถ้าตนเป็นนายกฯ จะภูมิใจมากที่มีโอกาสตอบแทนคุณแผ่นดิน “ขอให้นายกฯ มีความภาคภูมิใจว่าเกิดมาทั้งที เราได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุดที่เราได้ทำให้ประเทศชาติบ้านเมือง เป็นผู้นำที่ดี เป็นผู้นำที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนในชาติของเราว่ารัฐบาลนี้ นายกฯ คนนี้ ผบ.เหล่าทัพเหล่านี้จะทำเพียงอย่างเดียวคือนำความสงบสุขกลับมาให้คนไทย” และ "ขอให้ความตั้งใจมุ่งมั่นปรารถนาอันแรงกล้าของนายกรัฐมนตรีให้ประสบผลสำเร็จ ตามที่นายกรัฐมนตรีปรารถนา ตนไม่ทราบว่านายกฯ เอาเวลาที่ไหนไปนอน เห็นทำแต่งาน คงเป็นสิ่งที่น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีของพวกเราทุกคนของคนไทยว่ารัฐบาลนี้ทุ่มเททุกอย่าง เพื่อความสุขของพวกเรา ขอบคุณมากนายกรัฐมนตรี”

ขณะที่เมื่อย้อนกลับไปในวันที่ 11 เม.ย. 59 ที่ "พล.อ.ประยุทธ์" นำคณะตบเท้าเข้าขอพร “พล.อ.เปรม” และบอกว่า "ยึดถือ พล.อ.เปรม" เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ซึ่ง "ป๋าเปรม" กล่าวตอบว่า นายกฯ ได้ทำหน้าที่ของคนไทย แบบไทยๆ มาตลอด สมควรที่เป็นแบบอย่างของประชาชนและประเทศของเรา

ย้อนไปอีกในปีถัดจากการเข้ามาเป็นรัฐบาลของ "พล.อ.ประยุทธ์" เป็นปีแรกหลังยึดอำนาจ 22 พ.ค. 57 และตั้งรัฐบาล ไม่นับรวมการเข้าอวยพรปีใหม่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 57 ที่ได้รับคำชมจาก พล.อ.เปรม ที่ยกให้การยึดอำนาจของ คสช.เป็น "การกระทำที่ยิ่งใหญ่" และ "คนไทยส่วนใหญ่เห็นด้วย" ขอบใจและภูมิใจกับการกระทำของนายกฯ พร้อมฝากให้ดูแลบ้านเมืองต่อไป ขอให้คนในชาติร่วมมือกับนายกฯ โดยบอกว่า "เมื่อออกมาแล้ว คงจะถอยกลับไม่ได้ ต้องเดินหน้าอย่างกล้าหาญ เป็นสุภาพบุรุษ มีความเป็นไทยอยู่ในสายเลือด ที่เราจะไม่มีวันทอดทิ้งพี่น้องเรา ทราบดีว่าทุกคนเหนื่อย แต่เป็นการเหนื่อยเพื่อชาติ เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

โดยถัดจากนั้น นายกฯ นำคณะรัฐมนตรี และ ผบ.เหล่าทัพ เข้าขอพรต่อ "พล.อ.เปรม" ในวันที่ 10 เม.ย. 2558 “พล.อ.เปรม” แสดงความมั่นใจว่า นายกฯ และคณะจะช่วยกันทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุข มีความมั่นคงมั่งคั่งตามที่นายกฯ พูดไว้ และว่าทุกคนหวังพึ่งนายกฯ และพวกเราขอให้สิ่งที่ประชาชนหวังพึ่งให้ประสบผลสำเร็จจากนายกฯ และพวกเราทุกคน

ที่ยกมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงบทบาทและบารมีของ "ป๋าเปรม" ต่อรัฐบาล "ลุงตู่" ที่อย่าลืมว่าก่อนหน้านั้นในการเข้ามายึดอำนาจใหม่ๆ มีข่าวร่ำลือมากมายถึงท่าทีความพยายามแสดงบทบาทของ "พล.อ.ประวิตร" ในการเป็น "ศูนย์กลาง" ของบรรดาผู้นำเหล่าทัพผ่านเครือข่ายต่างๆ ที่มารวมศูนย์ที่บ้านพักที่ตั้งเป็นที่ทำการมูลนิธิป่ารอยต่อฯ

อย่างไรก็ตาม ที่ควรต้องยอมรับก็คือ ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา “พล.อ.ประวิตร” ก็เป็น "ตำบลกระสุนตก" เป็นเป้าแทนให้ "นายกฯ ลุงตู่" มาตลอด โดยเฉพาะเรื่องที่คาใจสังคมกับ "นาฬิกาเพื่อน" แม้กระทั่งมาหนล่าสุดที่ทุกคนกำลังถอดรหัสกับเหตุการณ์ "ปลดฟ้าผ่า" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่รู้กันดีว่าเป็น "เด็กปั้น" พุ่งแรงของ "พล.อ.ประวิตร"

ด้วยแบบอย่างที่ "พล.อ.ประยุทธ์" เดินตาม "พล.อ.เปรม" ในการตอบแทนคุณแผ่นดิน จนมีการวิเคราะห์ไปถึงเส้นทางที่ถูกออกแบบเพื่อ "พล.อ.ประยุทธ์" ผ่านรัฐธรรมนูญปี 60 กับโรดแมปต่างๆ ไปจนถึงกติกาเลือกตั้งและผลเลือกตั้ง ไปจนถึงในอนาคตอีก 5 ปีกับ "วุฒิสภา" ที่มาจากการแต่งตั้ง หรือไม่เว้นแม้แต่ 20 ปีของแผนยุทธศาสตร์ชาติที่มีความลงตัวกับทั้งกลุ่มทุนและฝ่ายอำนาจรวมถึงรัฐบาลโดยการนำของ "พลังประชารัฐ" ที่มีลุงตู่เป็นนายกฯ เดินไปในแนวทางแบบที่ "รัฐบาลทหาร" ในอดีตที่เข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยโดยไม่ต้องลงไปเลือกตั้งโดยตรง ที่หนึ่งในนั้นคือ "รัฐบาล พล.อ.เปรม" เคยประสบความสำเร็จกับ "สมการการเมือง" ที่ถูกออกแบบไว้ผ่านรัฐธรรมนูญตามที่ "สมศักดิ์ เทพสุทิน" เคยบอกแบบมั่นใจว่า ทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อพวกเรา

ซึ่งหากทั้งหมดทั้งมวลเป็นไปตามนั้น ก็น่าสนใจดังคำอวยพรจาก "ป๋าเปรม" เมื่อปีที่แล้วที่ว่า "พยายามเฝ้าดูนายกฯ จะพาประเทศเราเดินไปสำเร็จ แม้จะใช้เวลานานสักเท่าไหร่ก็ตาม" ที่แม้จะต่างไปจากท่อนฮุกในเพลง คสช.ที่ "นายกฯ ลุงตู่" แต่งเอาไว้ว่า

"เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา..." ก็ตาม!!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook